วอน 'รัฐบาล-ฝ่ายค้าน' ทำหน้าที่กอบกู้ภาพพจน์สภาครั้งสุดท้ายในการอภิปรายทั่วไป ม.152

'นิกร จำนง' วอนรัฐบาล-ฝ่ายค้าน ทำหน้าที่กอบกู้ภาพพจน์สภาครั้งสุดท้าย ในการอภิปรายทั่วไป ม.152 - 'เพื่อไทย' โหมโรงอภิปราย ม.152 จวก 'ประยุทธ์' เก่งแต่กู้ ทำประเทศเป็นหนี้ดินพอกหางหมู - 'ชินวรณ์ บุญยเกียรติ' เผยมีคนติดต่อมา ต้องการให้องค์ประชุมล่ม เพราะไม่อยากให้เปิดอภิปรายได้

12 ก.พ. 2566 สำนักข่าวไทย รายงานว่านายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะผู้อำนวยการพรรค กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไป ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ที่สภากำหนดว่าจะให้มีขึ้นใน วันที่ 15 – 16 ก.พ.นี้ ว่ามาตรา 152 บัญญัติว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจํานวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร จะเข้าชื่อกันเพื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติ

นายนิกร กล่าวว่า พรรคชาติไทยพัฒนา ปฏิบัติเป็นประเพณีของพรรคที่มีมาในอดีตตั้งแต่สมัย นายบรรหาร ศิลปอาชา คือ การเรียกประชุม ส.ส.ของพรรคในเช้าวันเปิดประชุม เพื่อหารือสรุปประเด็นการเมืองเกี่ยวกับการอภิปรายทั่วไป ซึ่งครั้งนี้คงไม่มีอะไรเป็นพิเศษเพราะ ส.ส.ของพรรคไม่ต้องลงมติใดๆต่อการอภิปรายในครั้งนี้ เพียงแต่ต้องทำหน้าที่เข้าร่วมประชุมสภากันตามหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อรับฟังการซักถามข้อเท็จจริงของสมาชิก และสมาชิกของพรรคที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี 2 คน โดยเฉพาะนายวราวุธ ศิลปอาชา ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็ได้เคยแถลงไปก่อนหน้านี้แล้วว่า ยินดีที่จะใช้โอกาสนี้ตอบข้อซักถาม และรับฟังข้อเสนอแนะ จากสภาไปดำเนินการต่อไป ในเวลาที่เหลืออยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีตามความรับผิดชอบในหน้าที่ของฝ่ายบริหาร

นายนิกร กล่าวว่า ตนจะเข้าร่วมประชุมสภาตามปกติเหมือนที่เคยทำมา เพราะเห็นว่างานของสภานั้น ไม่ว่าอย่างไรก็มีประโยชน์ต่อประชาชนทั้งสิ้น ส่วนฝ่ายการเมืองนั้น ในภาพรวมก็เป็นโอกาสที่ดีมากในการแก้ไขภาพพจน์ทางลบของสภา จากการที่สภาล่มซ้ำซากได้บ้างเพราะเวลาก็เหลือเพียงน้อยนิดแล้ว ก็ควรใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อภาพพจน์ของสภาในภาพรวม ที่ต้องพยามกอบกู้คืนมาเท่าที่สามารถจะทำได้ด้วยกัน แต่ถ้ากลับด้านกัน คือ สภาล่มลงไปอีก ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดภาพพจน์ของสภาจะยิ่งเสียหายหนักลงไป เกินกว่าที่สมาชิกสภาของเราจะแบกรับความรับผิดชอบไหว

นายนิกร กล่าวว่า ส่วนความเห็นทางการเมืองเกี่ยวกับการได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมืองของฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลนั้น ด้วยประสบการณ์ทางการเมืองที่ผ่านการอภิปรายในสภามานานพอสมควรเห็นว่า น่าจะเสมอกัน คือฝ่ายค้านอาจใช้โอกาสนี้ วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล เพื่อหวังผลให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ฝ่ายค้านก็ได้ประโยชน์ไป แต่ถ้าอภิปรายเพื่อหวังผลเฉพาะในการเลือกตั้งที่จะมาถึงของตัวเอง ก็อาจเกิดผลเป็นลบ เพราะประชาชนย่อมมองออกว่า ไม่จริงใจ

นายนิกร กล่าวว่า สำหรับฝ่ายรัฐบาล โอกาสนี้เป็นโอกาสสุดท้ายที่จะได้อธิบายทำความเข้าใจกับประชาชนทั่วไป มิใช่กับฝ่ายค้าน และที่จริงแล้วฝ่ายรัฐบาลจะได้เปรียบกว่าเสียด้วยซ้ำ ปัญหาหนักหนากรณีโควิด-19 เริ่มผ่อนคลาย นักท่องเที่ยวกำลังกลับมา ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศเริ่มดีขึ้น ประชาชนเริ่มมีความหวัง ถ้าฝ่ายรัฐบาลไม่ใช้โอกาสนี้ชี้แจงกับประชาชนถึงโอกาสวันพรุ่งนี้ของประเทศ และชี้แจงปัญหาคาใจของประชาชนในอดีตเมื่อวานนี้ก็ไม่รู้ว่าจะใช้โอกาสไหน ในโอกาสสุดท้ายของสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 25 นี้ ก่อนสภาชุดที่ 26 กำลังจะมาทดแทนในไม่ช้า

'เพื่อไทย' โหมโรงอภิปราย ม.152 จวก 'ประยุทธ์' เก่งแต่กู้ ทำประเทศเป็นหนี้ดินพอกหางหมู

ทีมสื่อพรรคเพื่อไทยแจ้งข่าวว่านายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อยากให้ประเทศจัดงบประมาณรายจ่ายสมดุลให้ได้ในอีก 10 ปีข้างหน้าหรือปี 2577 แต่ระหว่างนี้ต้องกู้ชดเชยการขาดดุลไปเรื่อย ๆ ก่อน สะท้อนถึงความสิ้นหวัง ไม่เห็นหนทางการพลิกฟื้นประเทศไทยได้ การบริหารประเทศของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีตลอดกว่า 8 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่คนไทยอับจนหนทางทำมาหากิน ภาระหนี้สินพอกพูนไม่ต่างจากดินพอกหางหมู การจัดทำงบประมาณของรัฐบาลก็ชักหน้าไม่ถึงหลัง ต้องกู้มาโปะขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนมียอดเงินกู้ชดเชยการขาดดุลปีงบประมาณล่าสุดสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 695,000 ล้านบาท รวมวงเงินกู้ชดเชยการขาดดุลตลอด 9 ปีงบประมาณสูงราว 4.6 ล้านล้านบาท แต่กลับสร้างเศรษฐกิจไม่ได้ หารายได้เข้าประเทศไม่เป็น

ทั้งนี้ การจัดงบประมาณรายจ่ายประจำปีของรัฐบาล เป็นตัวชี้วัดหนึ่งที่สะท้อนความสามารถของรัฐบาลได้อย่างดี ในสมัย ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยประกาศยุทธศาสตร์ “4 ปีซ่อม 4 ปีสร้าง” และ “คิดใหม่ ทำใหม่” แก้ปัญหาหนี้สินและสร้างความเจริญให้ประเทศมากมาย จนสามารถจัดงบประมาณสมดุล คือไม่จำเป็นต้องกู้มาชดเชยค่าใช้จ่ายใดๆของภาครัฐได้อย่างต่อเนื่องในปี 2548 และ 2549 แตกต่างจากยุคพลเอกประยุทธ์ นับตั้งแต่เป็นรัฐบาลมาตั้งแต่ปี 2557 หนี้สาธารณะเพิ่มจาก 5.69 ล้านบาท พุ่งไปเกือบ 10 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน หากต้องกู้แบบเศรษฐกิจไม่เติบโตเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆอีก 10 ปี ประเทศไทยอาจได้กลายเป็นประเทศที่มีหนี้ท่วมหัวสุดท้ายจะเอาตัวไม่รอดเป็นแน่

“รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ เปรียบเหมือนโรงงานล้าสมัย ผลาญเงินไปมากกับเครื่องจักรปะผุ คนงานคุณภาพไม่มีใครอยากร่วมงานด้วย ประเทศเวลานี้ต้องการการพลิกโฉมครั้งใหญ่ พรรคเพื่อไทยคิดใหญ่ทำเป็น เพราะเต็มไปด้วยบุคคลที่มีความรู้ความสามารถที่จะผลักดันนโยบายดีๆ ให้เกิดขึ้นได้จริง เหมือนที่เคยทำได้สำเร็จในสมัยรัฐบาลไทยรักไทยและเพื่อไทยในอดีต ขอให้ประชาชนทุกคนอดกลั้น รอแสดงพลังร่วมกันเลือกเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ ในวันเลือกตั้งที่จะมาถึง และฝากติดตามการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ในวันที่ 15-16 ก.พ.นี้ ที่พรรคเพื่อไทยพร้อมกระชากหน้ากากคนดี สาวไส้ความล้มเหลวตลอดกว่า 8 ปีของพลเอกประยุทธ์ ให้ประชาชนได้เห็นในทุกด้าน” นายชนินทร์ กล่าว

'ชินวรณ์ บุญยเกียรติ' เผยมีคนติดต่อมา ต้องการให้องค์ประชุมล่ม เพราะไม่อยากให้เปิดอภิปรายได้

เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่านายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมเปิดอภิรายทั่วไป ตามมาตรา 152 ซึ่งทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าจะต้องเปิดให้มีการอภิปราย แต่ยอมรับว่า มีคนติดต่อมาที่ตนเองว่าต้องการให้องค์ประชุมล่ม เพราะไม่อยากเปิดอภิปราย แต่ได้ยืนยันไปแล้วว่า การเปิดอภิปราย เป็นการรับฟังความเห็นจากฝ่ายค้าน หากไม่เปิดอภิปราย จะทำให้เกิดความเสียหาย นำไปขยายประเด็นนอกสภารัฐบาลก็จะยิ่งเสียหาย อีกทั้งรู้อยู่แล้วว่าเป้าหมายของฝ่ายค้านคืออะไร ดังนั้นทุกพรรคควรให้ความร่วมมือกัน

ส่วนท่าทีของพรรคภูมิใจไทย ที่จะให้ เอกสิทธิ์ ส.ส. พิจารณาว่าจะเข้าร่วมเป็นองค์ประชุมหรือไม่ นายชินวรณ์ กล่าวว่า นี่เป็นทางเลือกของแต่ละพรรค แต่ภาพร่วมพรรคร่วมรัฐบาลมีความพร้อมที่จะชี้แจงแล้ว โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ ที่ประกาศพร้อมจะเป็นองค์ประชุม ซึ่งเมื่อวานนี้ ได้ประสานกับ พรรคพลังประชารัฐ และ ภูมิใจไทยแล้ว ได้รับการยืนยันว่าจะ เป็นองค์ประชุม 

เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทย ได้ยืนยันกับวิปรัฐบาล แล้วหรือไม่ ว่าจะอยู่เป็นองค์ประชุมนายชินวรณ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นนายภราดร ปริศนานันทกุล โฆษกพรรคภูมิใจไทย พูดทำนองว่าจะเข้าร่วมเป็นองค์ประชุม ส่วนพรรคการเมืองจะตัดสินใจอย่างไร ถือเป็นความรับผิดชอบทางการเมืองของแต่ละพรรค 

ขณะนี้เดียวกัน วันที่ 23 มี.ค. นี้ สภาผู้แทนราษฎรจะครบวาระแล้ว หากจะขอเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ นายชินวรณ์ มองว่าในทางการเมืองคิดว่าเป็นไปไม่ได้แล้ว เพราะกำลังเริ่มเข้าสู่โหมดการเมืองตั้ง หลายพรรคการเมืองก็มุ่งเป้าไปที่การหาเสียงแล้ว 

สภาผู้แทนราษฎรประชุมอภิปรายทั่วไป ครม.เริ่มวันที่ 15 ก.พ. นี้

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2566 สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา รายงานว่านายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีคำสั่งนัดประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นพิเศษ ในวันพุธที่ 15 ก.พ. 2566 เวลา 09.30 น. และวันพฤหัสบดีที่ 16 ก.พ. 2566 เวลา 09.00 น. พิจารณาญัตติที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านฯ และคณะ เป็นผู้เสนอขอให้เปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ส่วนกรอบเวลาการประชุมนั้น วิป3 ฝ่าย คือ  คณะรัฐมนตรี (ครม.) วิปฝ่ายค้าน และวิปรัฐบาล ทำความตกลงให้ฝ่ายค้านได้เวลา 24 ชั่วโมงและรัฐบาลได้เวลา 8 ชั่วโมง  วันพุธที่ 15 ก.พ. ประชุมระหว่างเวลา 09.30 น. – 02.30 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 16 ก.พ. ฝ่ายค้านจะใช้เวลาในการอภิปรายไม่น้อยกว่า 12 ชั่วโมงในกรอบเวลาไม่เกินเวลา23.00 น. และเวลาจากนั้นจัดสรรให้ ครม.ตอบคำถามชี้แจง และในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ เริ่มอภิปรายในเวลา 09.00 น. ให้แล้วเสร็จภายในเวลา 24.00 น.  

อย่างไรก็ตามในการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา เรียกร้องให้ ครม. ให้ความสำคัญกับการอภิปรายในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นกลไกการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน เป็นการควบคุมตรวจสอบตามแนวทางนิติบัญญัติ จึงต้องไม่ปิดกั้นการอภิปรายซักถามข้อเท็จจริง และ ครม. ต้องเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎรรวมทั้งปฏิบัติหน้าที่ให้ครบถ้วน ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา152 จนเสร็จสิ้นการประชุมสภาผู้แทนราษฎรด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท