ทีมเศรษฐกิจเพื่อไทย เผยลงพื้นที่สาทร สะท้อนปัญหา ประชาชนทุกระดับรายได้ นักธุรกิจเดือดร้อนหนัก

'คณะทำงานเศรษฐกิจเพื่อไทย' ลงพื้นที่สาทร สะท้อนปัญหา ประชาชนทุกระดับรายได้ และนักธุรกิจเดือดร้อนหนัก ดอกเบี้ยแพง ค่าครองชีพสูง ค่าไฟฟ้าแพง น้ำมันแพง ทั้งที่ต้องถูกลงแล้ว แถมราคาก๊าซหุงต้มจะพุ่งขึ้น 

13 ก.พ.2566 ทีมสื่อพรรคเพื่อไทย รายงานต่อสื่อมวลชนว่า จุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตสาทร บางรัก ปทุมวัน และ โฆษกคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนและพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ ได้ลงพื้นที่เขตสาทร เพื่อรับฟังปัญหาของประชาชนในพื้นที่ โดยได้เข้าร่วมงานทำบุญของหมู่บ้านจันทรานิเวศน์ และเข้ารับฟังความเห็นของคนในชุมชน โดยประชาชนในทุกระดับรายได้ต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันถึงภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ การต้องแบกภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น และยังมีแนวโน้มที่จะต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงขึ้นไปอีก ซึ่งจะหนักมากเพราะรายได้ยังไม่ฟื้นจากปัญหาเศรษฐกิจในหลายปีที่ผ่านมา อีกทั้งค่าครองชีพที่สูงมาก จากเงินเฟ้อปีที่แล้วสูงถึง 6.08% สูงที่สุดในรอบ 24 ปี และเงินเฟ้อเดือนมกราคมปีนี้ก็ยังสูงต่อเนื่องถึง 5.02% ซึ่งซ้ำเติมเงินเฟ้อเดิมที่สูงอยู่แล้ว ทำให้ข้าวของแพง ค่าใช้จ่ายสูง รายได้ไม่พอค่าใช้จ่าย 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าไฟฟ้าที่พุ่งสูง โดยเฉพาะค่าไฟฟ้าของภาคธุรกิจที่สูงถึงหน่วยละ 5.33 บาท ซึ่งภาคธุรกิจได้เรียกร้องขอให้ลดราคาลง ให้ต่ำกว่าหน่วยละ 5 บาท ซึ่งสามารถทำได้จากราคาค่าพลังงานของโลกที่ราคาลดลง โดยเฉพาะก๊าซ LNG ราคาลดลง จากฤดูหนาวของประเทศฝั่งตะวันตกใกล้จะพ้นแล้ว อีกทั้งค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น และ ปริมาณก๊าซธรรมชาติที่นำขึ้นมาจากอ่าวไทยที่มีราคาถูกได้มีปริมาณมากขึ้น น่าจะสามารถลดราคาไฟฟ้าได้แล้ว การลดราคาค่าไฟฟ้านอกจากจะลดต้นทุนการผลิตสินค้าได้แล้ว ยังทำให้ความสามารถแข่งขันของไทยดีขึ้น เรื่องราคาพลังงานที่ลดลงหลังฤดูหนาวของประเทศตะวันตกนี้ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยได้เคยเตือนไว้แล้วตอนที่สนับสนุน คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 ฝ่าย หรือ กกร. ที่เรียกร้องไม่ให้ขึ้นค่าไฟฟ้า เพราะอีกไม่นานราคาพลังงานก็ลดลงแล้วและราคาก็ลดลงจริงๆ 

นอกจากนี้ราคาน้ำมันดีเซลที่จะลดเพียง 50 สตางค์ก็ลดราคาน้อยเกินไป เพราะราคาน้ำมันดิบตลาดโลกได้ลดลงมาเท่ากับก่อนสงครามรัสเซียยูเครนแล้ว อีกทั้งเงินบาทก็แข็งค่า ปัจจุบันมีการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันของน้ำมันดีเซลอยู่สูงถึงกว่าลิตรละ 6 บาท ซึ่งควรจะต้องลดการเก็บเงินเข้ากองทุนลงบ้างเพื่อช่วยประชาชน แต่ที่แย่ที่สุดคือราคาค่าก๊าซหุงต้มที่จะขึ้นราคาอีกเป็น 423 บาทต่อ ถัง 15 กก. ในวันที่ 1 มีนาคมที่จะถึงนี้ จากราคา 318 บาทเมื่อปีที่แล้ว จะเป็นการเพิ่มภาระให้กับประชาชนอย่างมาก จึงอยากให้รัฐบาลได้หาทางบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน 

โฆษกคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ระบุด้วยว่า จากการลงพื้นที่สาทร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประชาชนมีรายได้สูงและอาจจะสูงที่สุดเขตหนึ่งของประเทศ ประชาชนยังลำบากขนาดนี้ ประชาชนในพื้นที่อื่นที่รายได้น้อยกว่ามากคงไม่ต้องพูดถึง ว่าประชาชนจะลำบากกันขนาดไหน ดังนั้นจึงอยากให้มั่นใจได้ว่า หากพรรคเพื่อไทยได้รับความไว้วางใจให้เป็นรัฐบาล ราคาพลังงานที่เป็นต้นทุนของสินค้าเกือบทุกชนิดจะต้องลดลง เพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้มีแผนงานไว้แล้ว อีกทั้งยังมีนโยบายเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนในทุกกลุ่ม รวมถึงการสร้างโอกาสใหม่ๆให้กับคนรุ่นใหม่ที่จะหารายได้เพิ่มขึ้นและมีโอกาสเป็นเศรษฐีในอนาคต หากขยันและมีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง ขอให้มั่นใจในพรรคเพื่อไทย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท