Skip to main content
sharethis

นักข่าวอินเดียถูกนายหน้าที่ดินขับรถเอสยูวีทับเสียชีวิต หลังเผยแพร่ข่าวแย่งยึดที่ดินเพื่อสร้างโรงกลั่นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในอินเดีย ได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง ล่าสุดจับผู้ต้องสงสัยได้แล้ว กลุ่มสิทธิแสดงความชื่นชมและขอให้มีการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดโดยเร็ว

ศศิกานต์ วาริช นักข่าวอินเดียอายุ 48 ปี ต้องจากลาแม่ ภรรยา และบุตรชายวัย 19 ปี ไปอย่างไม่มีวันกลับ จากการเผยแพร่ข่าวสำคัญในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นเป็นภาษามราฐี เกี่ยวกับการตั้งโรงกลั่นของบริษัทรัตนากิริและปิโตรเคมีจำกัด ที่หมู่บ้านบาร์ซู รัฐมหาราษฏระ ประเทศอินเดีย ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่บางส่วนออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย

ผู้ขับรถทับศศิกานต์ ได้แก่ พันทรีนาท แอมเบอร์การ์ ประกอบอาชีพนายหน้าที่ดิน ตำรวจระบุว่าเขาถูกจับกุมทันที หลังเหตุการณ์ ก่อนหน้านี้ชื่อของพันทรีนาทปรากฎอยู่ในรายงานของศศิกานต์ว่าเป็นตัวตั้งตัวตีในการตั้งโรงกลั่น และเคยถูกแจ้งความในข้อหาข่มขู่ชาวบ้านและทำร้ายนักสิทธิที่ออกมาคัดค้านหลายครั้งแล้ว

"ทำไมคนที่รู้กันดีว่าเป็นพวกตามตื๊อและสนับสนุนการตั้งโรงกลั่น ถึงเผยแพร่รูปตัวเองอยู่คู่กับนายกรัฐมนตรี มุขยมนตรี และรองมุขยมนตรี" ศศิกานต์ตั้งคำถามต่อกรณีที่พันทรีนาทแปะโปสเตอร์ตามที่ต่างๆ มีเนื้อหาแสดงความขอบคุณต่อผู้นำทางการเมืองที่นำการพัฒนามาสู่ชุมชน ในบทความสุดท้ายก่อนที่เขาจะเสียชีวิต

วันที่ 6 ก.พ.2566 ศศิกานต์ยืนอยู่ใกล้ปั๊มน้ำมันบนทางด่วนราชปุระและถูกพันทรีนาทขับรถเอสยูวีชนทับร่างของเขาและลากออกไปประมาณ 100 เมตร พลเมืองดีพยายามเข้าช่วยเหลือและส่งตัวไปยังโรงพยาบาลในทันที แต่สุดท้ายเสียชีวิตในวันต่อมา พันทรีนาทหนีจากจุดเกิดเหตุ แต่ถูกจับได้อย่างรวดเร็ว

แม้ศศิกานต์จะไม่ได้ใส่ชื่อตนเองในรายงานข่าว แต่ ซาดาชิฟ เกอร์การ์ บรรณาธิการของหนังสือพิมพ์มหานกรีทามส์ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว The Wire ว่าศศิกานต์ติดตามรายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้มาโดยตลอด และพันทรีนาทคงได้เบาะแสจากชาวบ้านที่แชร์ประเด็นนี้โซเชียลมีเดีย

ธนันเจย์ กัลการ์นี สารวัตรสถานีตำรวจรัตนากิริระบุว่าศาลสั่งฝากขังพันทรีนาทไว้กับตำรวจแล้วและจะถามคำให้การในวันนี้ (14 ก.พ.) และอยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติมเกี่ยวกับแรงจูงใจและลักษณะอาชีพของผู้ต้องสงสัย ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าจะมีการขยายเวลาฝากขังหรือไม่

ตำรวจราชปุระบันทึกว่าคดีนี้เข้าข่ายเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา แต่สมาคมนักข่าวท้องถิ่นและครอบครัวของศศิกานต์เรียกร้องให้ตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาต่อพันทรีนาท ด้าน วิเนยัก เราท์ ส.ส. พรรคศิวะเสนา ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลระบุว่าจะเขียนจดหมายถึงนายกรัฐมนตรีนเรนทระ โมที และอภิปรายในสภาเกี่ยวกับเรื่องนี้

ผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน และคณะกรรมการปกป้องนักข่าว องค์กรสิทธิสื่อสากล ออกมาชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำการจับกุมผู้ต้องสงสัยได้อย่างรวดเร็ว และขอให้ดำเนินการสอบสวนทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมครั้งนี้อย่างละเอียด

องค์กรสิทธิสื่อตั้งท้วงติงเช่นกันว่า แม้รัฐมหาราษฏระตามรายงานในปี 2560 พบว่าเป็นเพียงรัฐเดียวในอินเดียที่มีการออกกฎหมายคุ้มครองคนทำงานสื่อ ทว่าข้อเท็จจริงที่ว่าศศิกานต์เคยถูกข่มขู่มาหลายครั้งแล้ว และถูกฆาตกรรมลงในที่สุด แสดงให้เห็นว่ารัฐมหาราษฏระยังคงหละหลวมในการบังคับใช้กฎหมาย

 

แปลและเรียบเรียงจาก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net