Skip to main content
sharethis

จากกรณี ‘พิธา’ โพสต์ถึงปิยบุตร "มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ" แนะถ้ามีเวลาก็มาช่วยพรรค อีกฝ่ายโต้การวิจารณ์เป็นเรื่องพึงทำได้ ขณะที่ ‘ธนาธร’ ทวีตหย่าศึก ยันชาวอนาคตใหม่พร้อมดันพิธานั่งนายกฯ ส่วน ‘โรม’ ชี้ แม้มีถ้อยคำแรงไปบ้างแต่ทุกฝ่ายล้วนหวังดี

22 ก.พ. 66 หลายสำนักข่าวรายงานตรงกันกรณีวิวาทะระหว่างพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล กับ ปิยบุตร แสงกนกกุล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อและอดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ระบุว่าเมื่อคืนวานนี้ (21 ก.พ.) พิธา โพสต์เฟซบุ๊กรำลึก 3 ปีเหตุการณ์ยุบ พรรคอนาคตใหม่ช่วงคืน 21 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งช่วงหนึ่งได้กล่าวถึงปิยบุตร แสงกนกกุล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อและอดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ที่วิจารณ์ตนและพรรคก้าวไกลเมื่อวันก่อน

พิธาชี้ปิยบุตรมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ

แนะถ้าว่างก็มาช่วยพรรค

โดยพิธา กล่าวตอนท้ายของโพสต์ดังกล่าวระบุว่า ขณะที่ผมทบทวนตัวเองและการทำงานของกองอำนวยการเลือกตั้ง อาจจะมีเวลาอีก 3 เดือนที่เหลือหรือน้อยกว่า ผมเห็นว่ายังมีความเป็นไปได้อยู่ 2 ทางที่จะเกิดขึ้นได้ อยากให้คุณปิยบุตรทบทวนเช่นกัน

1) คุณปิยบุตรต้อง “เลิกมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ” เลิกทำตัวไม่เป็นมืออาชีพ ทำตามที่คุณธนาธรเคยขอไว้ กลับมาช่วยกันเท่าที่กฎหมายอนุญาต ทำให้คนที่เคยปรามาสอนาคตใหม่ ก้าวไกล คิดผิด และอนุญาตให้ผมและอีกหลายร้อยชีวิตที่พรรคมีสมาธิในการทำงานโค้งสุดท้าย

หรือ 2) ปล่อยให้เราเสียสมาธิจนเราลืมไปว่าศัตรูตัวจริงของเราคือใคร ทิ้งโอกาสในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ ทิ้งหยาดเหงื่อแรงงานของสมาชิกพรรค ทีมงานพรรค และปล่อยให้ 3 ป. ยังสืบทอดอำนาจต่อไป

ผมไม่แน่ใจว่าคุณปิยบุตรจะทำแบบนี้ไปอีกเท่าไร ผมว่าพอได้แล้วครับ แล้วมาเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ด้วยกัน ถึงแม้ว่าจะต่างคนต่างทำก็ตาม

ปิยบุตรซัดกลับ อย่าโพสต์เอาดีเข้าตัว

แจงวิจารณ์เพราะรัก

ด้านปิยบุตร ได้มาคอมเมนต์ตอบกลับใต้โพสต์ดังกล่าวมีใจความว่า ที่ผ่านมาพยายามวิจารณ์พรรคอย่างตรงไปตรงมา ไม่พาดพิงตัวบุคคล หากพิธาออกมาโพสต์ถึงตนเช่นนี้ ตนก็จะสื่อสารกับพิธาทางสาธารณะ ตนยืนยันว่ารักและสนับสนุนพรรคก้าวไกลเพราะเป็นพรรคที่จำเป็นในสถานการณ์ระยะเปลี่ยนผ่านเช่นนี้ และสิ่งที่พิธาเขียนเป็นการเอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้ตน คงปล่อยเอาไว้ไม่ได้และต่อจากนี้ตนจะวิจารณ์ทุกวันทุกประเด็นเพราะเป็นสิ่งที่พึงทำได้

ก่อนหน้านี้ปิยบุตรได้โพสต์วิจารณ์ถึงจุดยืนและยุทธศาสตร์การหาเสียงของพรรคก้าวไกลอย่างต่อเนื่อง

‘ธนาธร’ ยัน ชาวอนค.หนุนพิธา

‘โรม’ รับโต้กันแรง แต่ทุกฝ่ายล้วนหวังดี

ด้านธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ทวีตข้อความเมื่อเช้าวันนี้ (22 ก.พ.) ระบุว่า "ครบ 3 ปียุบพรรคอนาคตใหม่ ผู้มีอำนาจทำลาย poltical project ของเราไม่ได้ ชาวอนาคตใหม่ ผม ปิยบุตร พร้อมสนับสนุน #ก้าวไกล ส่งพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

 

 

ขณะที่ไทยพีบีเอสรายงานถึงรังสิมันต์ โรม โฆษก และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงวิวาทะทางการเมืองระหว่างปิยบุตรและพิธาว่า ทุกฝ่ายอยากจะเห็นการกระทำของแต่ละฝ่ายที่ดีต่อกัน อย่างปิยบุตรโพสต์เฟซบุ๊กวิพากษ์วิจารณ์หลายเรื่อง เชื่อว่าปิยบุตรอยากเห็นพรรคก้าวไกลประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง ส่วนพิธาอาจจะคาดหวังให้ปิยบุตรทำในส่วนอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อการเคลื่อนไหวในเรื่องประชาธิปไตย จนสุดท้ายสามารถบรรลุเป้าหมายตั้งแต่ตั้งพรรคอนาคตใหม่จนถึงยุบพรรค และมาถึงวันนี้

ทั้งนี้ หากมองเบื้องหลังถ้อยคำรุนแรง ทุกคนต่างมีความปรารถนาดี จึงเป็นเหตุผลที่พิธาและพรรคก้าวไกลอยากให้ปิยบุตรช่วยเท่าที่ช่วยได้ ซึ่งต้องยอมรับว่าหลังจากที่ปิยบุตรถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ปิยบุตรก็ไม่สามารถเข้ามามีบทบาทในพรรคได้ ดังนั้นจึงอาจทำเท่าที่ทำไหว เพื่อให้ประเทศไทยผลจากยุค 3 ป. แต่อาจจะมีคำพูดที่รุนแรงกันบ้าง ซึ่งตอนก็คิดว่าจะต้องปรับจูนกันใหม่

เมื่อถามว่า ภายในพรรคไม่ได้เป็นปัญหาใช่หรือไม่ โฆษกพรรคก้าวไกลกล่าวว่า คนที่เป็นสมาชิกพรรคและสนับสนุนพรรคก้าวไกล เขารักทุกคน ทั้งธนาธร ปิยบุตร และพิธา รักทุกคนที่เคยเป็นองคาพยพในพรรคอนาคตใหม่ แต่ถ้าถามว่าเป็นไปได้ไหมที่จะมีความไม่เข้าใจกัน มองว่าเป็นเรื่องทั่วไป เป็นธรรมดาของความเป็นพรรคการเมือง ทั้งนี้ไม่ปฏิเสธว่า การใช้ถ้อยคำรุนแรงแล้วไม่มีปัญหา คงไม่เป็นแบบนั้น แต่ก็ไม่ถึงขนาดจะทำให้พรรคก้าวไกลไม่สามารถเดินหน้าเลือกตั้งต่อได้

เมื่อถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากกระทบกับพรรคหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้มีเรื่องคริส โปตระนันท์ อดีตสมาชิกพรรคและผู้ก่อตั้งกลุ่มเส้นด้ายลาออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นสถานการณ์ใกล้เลือกตั้ง รังสิมันต์กล่าวว่ากรณีคริส ขอให้ตัดไปได้เลย เพราะไม่เป็นปัญหาอะไร เป็นเรื่องธรรมดาที่มีความเห็นส่วนตัวที่อาจจะไม่เห็นด้วยกับแนวทาง ก็เดินออกไป เป็นเรื่องธรรมดามาก คงไม่สามารถโยงกันได้

กรณีคำวิพากษ์วิจารณ์จากปิยบุตรก็พยายามที่จะปรับ เอามาเป็นกระจกส่องตัวเอง แต่ก็ยอมรับว่าบางถ้อยคำอาจจะรุนแรง บางทีมันก็อาจจะขัดต่อความรู้สึกที่เวลาเราลงพื้นที่ก็จะเห็นว่า การตอบรับของประชาชนเป็นเรื่องที่ดี แต่ว่าแน่นอน มันก็อาจจะเป็นความเห็นที่ไม่ตรงกัน ถามว่าจะกระทบไหม ผมยังมองในแง่บวก ว่ามันคือการถกเถียงกัน คือ การพูดคุยกัน อาจจะใช้คำที่รุนแรงกันบ้าง แต่มันก็อยู่ในระดับนั้น แต่ไม่ถึงขนาดว่าที่จะทำให้เกิดความแตกแยกของพรรค ถ้ามีความแตกแยกของพรรค อาจจะบอกว่ามีปัญหาระยะยาว อันนี้อาจจะเป็น แต่กรณีนี้ยังไม่ถึงจุดนั้น

เมื่อถามว่า จะมีการนัดเคลียร์ใจกับปิยบุตรหรือไม่  โฆษกพรรคก้าวไกลกล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ เพราะตนยังไม่ได้เป็นคนนัดอะไร แต่คิดว่าเป็นกระบวนการที่ต้องนำไปคิด มองว่าการพูดคุยก็คือทางออก ซึ่งพรรคก้าวไกลต่างจากพรรคการเมืองอื่นเพราะว่าค่อนข้างเปิดพื้นที่ในการแสดงความคิดเห็น

รังสิมันต์ กล่าวถึงกรณีที่ธนาธรที่โพสต์สนับสนุนพรรคก้าวไกลว่า ก็ชัดเจนว่าธนาธรยังยืนยันในทวิตเตอร์ว่าพรรคก้าวไกลเป็นพรรคการเมืองที่เป็นคำตอบของสังคมไทย เป็นพรรคการเมืองที่รับมรดกจากพรรคอนาคตใหม่ และเชื่อว่าธนาธรก็เป็นเพื่อนที่เดินร่วมทาง อาจจะไม่ใช่รถคันเดียวกันแต่ปลายทางเดียวกันซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี  

พร้อมย้ำว่า นโยบายพรรคก้าวไกลมีความแหลมคมมาก หากไม่สามารถก้าวข้ามผ่านได้ เราได้ที่นั่งในสภาไม่มากพอที่จะทำให้นโยบายที่แหลมคมประสบความสำเร็จ เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ดังนั้น ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาเข้มข้น มีความท้าทายรออยู่ ต้องก้าวผ่าน

เมื่อถามว่า มีอะไรฝากถึงปิยบุตรหรือไม่ โฆษกพรรคก้าวไกลกล่าวว่า คงไม่ได้ฝากถึงใครเฉพาะเจาะจง แต่ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องของการวิพากษ์วิจารณ์ ใครก็แล้วแต่สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใด เราอยู่ในอยู่ในบริบทที่สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่ส่วนตัวมองไปถึงเรื่องต้องเอาชนะศัตรูทางการเมือง ดังนั้น ต้องเอา 3 ป.ออกจากการเมืองให้ได้ ไม่เช่นนั้นประเทศฉิบหายแน่ๆ ดังนั้นต้องช่วยกันเดินหน้า

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net