'เพื่อไทย' ชูนโยบายดัน ‘โคราช’ เป็นฮับเศรษฐกิจการค้าและคมนาคมขนส่ง ทัดเทียมมหานครทั่วโลก - ย้ำไม่มีพรรคพี่พรรคน้อง ลั่นใครร่วมรัฐบาลต้องยอมรับนโยบาย ‘กระเป๋าตังค์ดิจิทัล’

6 พ.ค. 2566 เพจพรรคเพื่อไทย รายงานว่าที่หน้าว่าการอำเภอครบุรี อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค ผู้บริหารพรรค และ ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา อภิชา เลิศพชรกมล เขต 10 เบอร์ 1 และ อาทิตย์ หวังศุภกิจโกศล เขต 11 เบอร์ 4 

เศรษฐา ทวีสิน ปราศรัยว่า จังหวัดนครราชสีมา มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย และมี ส.ส.16 คน ใหญ่เป็นที่ 2 ของประเทศไทย รองจากกรุงเทพมหานคร ตนมีความฝันและความหวังที่จะเห็นจังหวัดนครราชสีมาไปได้ไกลที่สุด มีความเจริญรุ่งเรืองที่สุด เป็นศูนย์กลางการค้าโลกทัดเทียมมหานครต่าง ๆ ทั่วโลก 

จังหวัดนครราชสีมาตั้งอยู่ศูนย์กลางของการค้าขาย ไม่ใช่แค่ประเทศไทย ต้องเป็นศูนย์กลางของโลก ทั้งรถไฟความเร็วสูงและการคมนาคมทั้งหลาย พรรคเพื่อไทยจะเร่งก่อสร้างให้เป็นรูปธรรม ถ้าพรรคเพื่อไทยมา โคราชจะเป็นศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย มีสินค้าส่งออกไปถึงเมืองจีน ลาว และส่งตรงไปถึงนานาชาติได้ ถ้าพี่น้องปลูกพืชผัก นอกจากพรรคเพื่อไทยจะทำให้ราคาสินค้าดีแล้ว เราจะทำเรื่องของการขนส่งสินค้าและเข้าไปหาตลาดใหม่ๆด้วย 

สำหรับปัญหายาเสพติดที่วันนี้มีการระบาดไปทุกพื้นที่ ยาเสพติดเป็นศัตรูอันร้ายกาจของอนาคตลูกหลาน รัฐบาลปัจจุบันไม่สามารถบริหารจัดการได้อย่างเบ็ดเสร็จ พรรคเพื่อไทยมีนโยบายปราบปรามยาเสพติดขั้นเด็ดขาด รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะนั่งหัวโต๊ะจัดการผู้ค้ายาเสพติดทันที รวมถึงต่อต้านกัญชาเสรี และสนับสนุนกัญชาเพื่อการแพทย์อย่างเดียว 

“แต่ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าวันที่ 14 พฤษภาคม พี่น้องปันใจให้พรรคอื่น ผมอยากจะเดินหน้าเข้าสู่ทำเนียบด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น นโยบายเหล่านี้จะทำไม่ได้เลยถ้าเราไม่มี ส.ส.จำนวน 16 คน จากจังหวัดนครราชสีมาเข้าไปสนับสนุน เราต้องการเป็นแกนนำหลักในการจัดตั้งรัฐบาล วันนี้ผมจึงอยากอ้อนวอนขอให้พวกเราช่วยกันนำผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคเพื่อไทย เดินหน้าเข้าสู่สภาเพื่อเป็นตัวแทนของพี่น้องจังหวัดที่มีศักยภาพสูง ให้เป็นจังหวัดที่มีคุณภาพเดินไปข้างหน้าให้สมกับที่ควรจะเป็น วันที่ 14 พฤษภาคม ขอให้พี่น้องเข้าคูหา กาพรรคเพื่อไทย ทั้ง 2 ใบ แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน" เศรษฐา กล่าว

ย้ำไม่มีพรรคพี่พรรคน้อง ลั่นใครร่วมรัฐบาลต้องยอมรับนโยบาย ‘กระเป๋าตังค์ดิจิทัล’

มติชนออนไลน์ รายงานว่าเวลา 15.20 น. นายเศรษฐาพร้อมคณะ เดินทางปราศรัยต่อเวทีที่ 3 ที่โรงเรียนพิมายวิทยา อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เพื่อช่วยหาเสียงให้นายนิกร โสมกลาง ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา เขต 8 เบอร์ 6 และนายธีระยุทธ ตันติกุล ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา เขต 9 เบอร์ 7 โดยมีประชาชนมาฟังการปราศรัยเต็มพื้นที่

นายเศรษฐา ปราศรัยว่า ปัจจุบันพรรคร่วมรัฐบาลยังมาหาเสียงขอคะแนนเสียงพี่น้องอยู่ ตนเชื่อว่าพี่น้องก็คงปันใจให้กันบ้าง แต่ตนคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องพอ แปดปีที่ผ่านมามันเยอะพอแล้ว วันนี้ตนในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคพท. มาขอร้องพี่น้องประชาชนว่าวันที่ 14 พฤษภาคม หรือในอีกแปดวันข้างหน้า อยากให้เข้าคูหากาพรรคพท.ทั้งสองใบ ทั้งคนทั้งพรรค เราไม่มีพรรคพี่พรรคน้อง ไม่ต้องให้ใครมาบอกว่า ส.ส.เขตให้เขา ส.ส.พรรคให้พท. ส.ส.เขตมี 400 คน แล้วแบบนี้พรรคพท.จะเป็นรัฐบาลได้อย่างไร เราต้องเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล

นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า เรามีนโยบายดีๆ ทั้งขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทภายในสี่ปี เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท เติมเงินให้ครอบครัวที่มีรายได้ไม่ถึง 2 หมื่นบาทให้ครบ 2 หมื่นบาททุกเดือน รวมถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ที่จะเป็นนโยบายหลัก นโยบายใหญ่ที่แตกต่างจากทุกพรรค ที่ไม่ใช่จะมาให้ทีละ 500 หรือ 1,000 บาท จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย เราต้องเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ใครจะมาอยู่ร่วมกับรัฐบาลเรา ต้องเห็นด้วยกับนโยบายนี้

“ถ้าพี่น้องปันใจให้กับพรรคอื่น เกิดเขามาร่วมรัฐบาล แล้วเขาไม่เห็นด้วยผมจะออกนโยบายเหล่านี้ได้อย่างไร ผมขอความกรุณาขอความเห็นใจ เราขอให้พี่น้องกาเลือกพรรคเพื่อไทยทั้งสองใบ ผู้สมัครทั้ง 16 คนของพรรคเพื่อไทยต้องได้เป็นตัวแทนของพี่น้องชาวโคราช ทำให้พวกเราตื่นจากความฝัน ตื่นจากความหวัง” นายเศรษฐา กล่าว