'เจตน์-ประพันธ์ุ' 2 ส.ว.มองเสียงข้างมากประชาชนไม่พอ ต้องดูคุณสมบัติอื่นๆ-ไม่แตะ ม.112

ส.ว. เจตน์ และ ส.ว. ประพันธ์ ให้สัมภาษณ์ออนไลน์กับจอมขวัญ เมื่อ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา ชี้ว่า ได้เสียงข้างมากประชาชนยังไม่ใช่ปัจจัยชี้ขาดให้ ส.ว. เลือก 'พิธา' เป็นนายกฯ ต้องดูคุณสมบัติอื่นๆ ประกอบ รวมถึงนโยบายแก้มาตรา 112

 

ท่ามกลางกระแสการวิจารณ์และกดดันให้สมาชิกวุฒิสภาเลือกนายกรัฐมนตรีที่มาจากเสียงข้างมากของประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา รายการ "มีเรื่องLive Ep.พิเศษ - โหวตให้? - โหวตไม่?" เผยแพร่ทางช่องยูทูบ "Jomquan" ดำเนินรายการโดย จอมขวัญ หลาวเพ็รช์ ผู้ประกาศข่าว มีการสัมภาษณ์ออนไลน์ สมาชิกวุฒิสภา 2 คน ได้แก่ เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิกวุฒิสภา และ ประพันธ์ุ คูณมี ต่อประเด็นการโหวตสนับสนุน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ คนที่ 30 ของประเทศ

ประพันธ์ุ: เลือกตามเสียงข้ามมากไม่ได้เป็นปัจจัยเดียว ต้องพิจารณาคุณสมบัติอื่น รวมถึงมาตรา 112

ประพันธ์ คูณมี หนึ่งใน 250 ส.ว. ได้กล่าวผ่านรายการของจอมขวัญว่า การโหวตสนับสนุนพิธา เป็นนายกฯ ยังเร็วเกินไปที่จะตอบตอนนี้ เนื่องจากเพิ่งจบการเลือกตั้ง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ยังไม่ได้รับรองพิธา ว่ามีคุณสมบัติเป็น ส.ส.หรือไม่ และสุดท้าย ยังไม่แน่ใจว่าพิธา จะผ่านการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ หรือผ่านมาจนถึงการโหวตแคนดิเดตนายกฯ ในการประชุมร่วม 2 สภาหรือไม่

ประพันธ์ุ ยืนยันว่า การได้เสียงข้างมากจากประชาชนในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อ 14 พ.ค.ที่ผ่านมาไม่ได้แปลว่า ส.ว.จะต้องโหวตสนับสนุนพิธา เป็นนายกฯ อันนี้เป็นคนละเรื่องกัน และมองว่าการได้เสียงข้างมากเป็นเพียงแค่ปัจจัยเดียวเท่านั้นไม่ใช่ปัจจัยชี้ขาด แม้ว่าพิธา จะได้เสียงสนับสนุน 14 ล้านเสียง แต่อีก 25 ล้านเสียงไม่ได้เลือก การอ้างว่าเป็นฉันทามติเลือกพิธา เป็นนายกฯ ไม่ถูกต้อง แต่ต้องดูคุณสมบัติอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น จุดยืนทางการเมืองของคุณ และความประพฤติในจริยธรรม ประสบการณ์ วัยวุฒิ และความสามารถที่จะสามัคคีพรรคการเมืองต่างๆ มาร่วมกับคุณ และ ส.ว.แต่ละคนมีหลักการของตัวเอง 

นอกจากนี้ ต่อประเด็นมาตรา 112 มีผลต่อการตัดสินใจสนับสนุนของประพันธ์ุ หรือไม่นั้น ประพันธ์ุ ระบุว่า ถ้าพรรคก้าวไกลยังแตะเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะสนับสนุน เพราะการแก้มาตรา 112 มันเป็นการลดพระเกียรติของพระมหากษัตริย์ มันเป็นการยกเลิกบทคุ้มครองประมุขของรัฐ ขัดกับรัฐธรรมนูญ

"ผมถามพิธา ว่าการแก้ไขมาตรา 112 เป็นความต้องการของประชาชนทั้งประเทศรึเปล่า เป็นความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ หรือสนองกิเลศตัณหาของคุณเอง" ประพันธ์ุ กล่าว

ประพันธ์ุ ทิ้งท้ายด้วยว่า การแก้ไขมาตรา 112 ไม่เท่ากับการแก้ไข แต่เป็นการยกเลิกบทคุ้มครองพระมหากษัตริย์ เนื่องจากทำให้พระมหากษัตริย์เหมือนอยู่ในฐานะบุคคลธรรมดา ถูกฟ้องหมิ่นประมาทได้ และต้องไปแจ้งความเอง ซึ่งจริงๆ แล้ว เจตนารมณ์ของมาตรา 112 เขาคุ้มครองในฐานะประมุข และเขามองว่าประชาชนส่วนใหญ่ ยังไม่เอากับเรื่องนี้  

"แค่เรื่องเดียว ก็แทบไม่ได้แล้ว เป็นนายกรัฐมนตรี ต้องเรียนรู้ที่จะสามัคคีคนในชาติให้เป็น และเรียนรู้ที่จะขอความสนับสนุนจากคนที่มีการสนับสนุนจากคนเห็นต่าง และอะไรที่เป็นนโยบายที่เขารับไม่ได้ คุณก็ต้องพร้อมที่จะยกเลิก" ประพันธ์ุ กล่าวทิ้งท้าย 

นพ.เจตน์: ไม่แตะ 112 มีแนวโน้มโหวตหนุน

ขณะที่ นพ.เจตน์ อีกหนึ่ง ส.ว. ที่มาร่วมรายการ กล่าวว่า สำหรับตัวเองว่าจะโหวตสนับสนุนพิธา เป็นนายกฯ นั้นอาจยังเร็วไปที่จะตอบเรื่องนี้ เนื่องจากข้อมูลวันนี้กับในอนาคตอาจจะมีความแตกต่างกัน วันนี้ข้อมูลเกี่ยวกับพิธา และพรรคก้าวไกล ชุดหนึ่ง แต่เมื่อถึงวันลงมติ ถ้าพิธา ไม่โดนเรื่องกรณีถือหุ้นสื่อ iTV หรืออื่นๆ วันนั้น เขาอาจเปลี่ยนความคิด นพ.เจตน์ เผยด้วยว่าเขามีหลักเกณฑ์ในการโหวตสนับสนุน 2 เรื่อง คือ ในประเทศคือเรื่องมาตรา 112 และการเมืองระหว่างประเทคือการเลือกเข้าข้างประเทศตะวันตก ซึ่งเขาเชื่อว่าสถานการณ์แบบนี้ประเทศไทยควรวางตัวเป็นกลางกับประเทศมหาอำนาจ 

นพ.เจตน์ กล่าวว่า เรื่องมาตรา 112 ตรงนี้ แม้ว่าจะเป็นพันธะสัญญาให้ไว้กับประชาชนของพรรคก้าวไกล แต่เท่าที่ติดตาม มี ส.ว.อีกจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วยกับการแตะมาตรา 112 รวมถึงประชาชนอีกจำนวนมาก ถ้ามีการส่งกฎหมายเข้าสู่สภาแล้ว เขากลัวว่าจะทำให้เกิดการแตกแยกของคนในชาติอย่างรุนแรง

นพ.เจตน์ ระบุว่า เขายังไม่ได้ตีตกพิธา จากการโหวตสนับสนุนนายกฯ เพราะตอนนี้พิธา ไม่ได้ระบุเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ในข้อตกลงร่วมกัน (MOU) ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งอันนี้เป็นเรื่องของอนาคต 
 
"ถ้าคุณบอกว่าจะไม่แตะมาตรา 112 ผมพร้อมที่จะโหวตให้… แต่ถ้าไม่อะไรเปลี่ยนแปลงแล้ว ผมก็ลำบากใจที่จะโหวตให้ ในเรื่องนี้ข้อเดียว ผมติดค้างในใจอยู่คือ มันมีปัญหาเรื่องสถาบันกษัตริย์ และเรื่องอื่นๆ อีก เอาเฉพาะมาตรา 112 ก่อน" นพ.เจตน์ กล่าว 

จอมขวัญ ถามย้ำว่า ถ้าสมมติว่าพรรคก้าวไกล ไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายมาตรา 112 เนื่องจากได้ให้สัญญาตอนหาเสียงกับประชาชนไว้ หมายความว่า นพ.เจตน์ จะไม่โหวตสนับสนุน พิธา เป็นนายกฯ นั้นใช่หรือไม่ นพ.เจตน์ ระบุว่า "ในหลักการแพทย์ มันเสียสละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต เพราะว่าผมคิดว่า พิธา และพรรคก้าวไกล มันมาถึงจุดที่สำคัญ ก็คือการขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 บริหารประเทศ ซึ่งตรงนี้มันจะมีความสำคัญ และก็ทรงคุณค่ากับพิธา อย่างมาก"

จอมขวัญ ถามประพันธ์ุ และ นพ.เจตน์ ว่ามีสมาชิกวุฒิสภาคนอื่นๆ ที่พร้อมจะโหวตสนับสนุนพิธา หรือไม่นั้น ทั้งสองคนเผยว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบ แต่ว่าวันที่ 23 พ.ค. 2566 จะมีการประชุม ส.ว. น่าจะทำให้มีความชัดเจนเรื่องนี้มากยิ่งขึ้น แต่มองว่าก็มี ส.ว. ที่โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กโหวตสนับสนุนพิธา อยู่ 

ทั้งสอง ส.ว. กล่าวตรงกันด้วยว่า การที่พรรคก้าวไกล จะได้เสียงสนับสนุนจาก ส.ว.ขึ้นอยู่กับการประสานงาน พร้อมฝากถึงผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลด้วยว่า อย่าใช้วิธีการกดดัน และข่มขู่ เพราะเขาไม่เชื่อว่าจะมี ส.ว. เลือกนายกฯ ด้วยความกลัว 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท