Skip to main content
sharethis

รองนายกฯ ลาว เสนอใช้ ‘เงินกีบ’ ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ หวังสู้วิกฤตเงินเฟ้อต่อเนื่อง

19 มิ.ย. 66 สำนักข่าวชายขอบรายงานอ้างอิงข้อมูลจากเพจเฟซบุ๊ก Tholakong ระบุว่า พัววิไล หล้าคำฟอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงการป้องกันความสงบ ของ สปป.ลาว ได้เสนอต่อคณะกรรมการคุ้มครองเขตเศรษฐกิจพิเศษ แขวงบ่อแก้ว ให้มีการใช้สกุลเงินกีบในการซื้อขาย-แลกเปลี่ยน หรือชำระค่าบริการต่างๆ ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ค่าเงินกีบแข็งขึ้น สู้วิกฤตเงินเฟ้อต่อเนื่อง

โดยรัฐบาลลาวออกหนังสือแจ้งให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ร้านค้า ที่เปิดกิจการการในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำใช้เงินกีบ มีใจความสำคัญระบุว่า

1. สินค้าและค่าบริการทั้งหมดที่มีเครื่องหมายการค้าชัดเจนอยู่ภายในเขตต้องระบุราคาเป็นสกุลเงินกีบ (อัตราแลกเปลี่ยนให้กำหนดตามอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารกลางแห่ง สปป.ลาว)  

2. ทุกๆ ร้านค้าต้องติดป้ายประโยคที่ว่า “ส่งเสริมการบริโภคการใช้สกุลเงินกีบ” เป็นภาษาจีนและภาษาลาว โดยวิสาหกิจและร้านค้าสามารถมารับได้สำนักงานสภาบริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ

3. ถ้าหากว่าพบว่าวิสาหกิจ หรือบุคคลใดไม่รับการชำระสินค้าในสกุลเงินกีบ กรณีที่พนักงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจพบจะต้องหยุดกิจการทั้งหมด พร้อมทั้งเสียค่าปรับ

4. โดยหนังสือแจ้งฉบับนี้มีผลตั้งแต่วันที่ลงชื่อเป็นต้นไป

ทั้งนี้ เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงในเขตเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ฝั่งตรงข้ามกับอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย โดยรัฐบาลลาวให้สัมปทานกับนักธุรกิจจีนกลุ่มดอกงิ้วคำ ที่มีจ้าวเหว่ย นักธุรกิจจีนสัญชาติมาเก๊าเป็นเจ้าของ โดยมีรายได้หลักมาจากคาสิโนคิงส์โรมันที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งที่ผ่านมาเขตเศรษฐกิจแห่งนี้ถูกมองว่าเป็นแหล่งรวมอาชญากรรม ทั้งยาเสพติด การค้ามนุษย์ การค้าสัตว์ป่า แหล่งรวมแก็งค์คอลเซนเตอร์และมิจฉาชีพออนไลน์ โดยชาวจีนจำนวนมากได้หลั่งไหลมาประกอบอาชีพภายในเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมทองคำนี้และใช้เงินหยวนเป็นสกุลหลัก ขณะที่ประชาชนลาวโดยรอบแทบไม่ได้รับผลประโยชน์โดยเฉพาะการจ้างงาน

สำหรับสถานการณ์เงินเฟ้อในลาว สำนักข่าวเรดิโอฟรีเอเชีย ภาคภาษาลาว รายงานว่าปัจจุบันชาวลาวและผู้ประกอบการค้าขายพบปัญหาการเอาเงินกีบไปแลกเงินตราต่างประเทศไม่ได้ เพราะธนาคารไม่มีเงินตราต่างประเทศให้แลกจึงทำให้หลายคนต้องไปแลกเงินตราต่างประเทศที่ตลาดมืด ซึ่งก็ยิ่งทำให้อัตราค่าเงินกีบสูงกว่าธนาคารเรื่อยๆ เป็นต้นว่า เงินกีบประมาณ 550 กีบจะสามารถแลกเงินบาทได้ประมาณ 1 บาท ส่วนอัตราเงินกีบของธนาคารจะอยู่ที่ประมาณ 530 กีบต่อ 1 บาท แต่ทางธนาคารก็ไม่มีเงินตราต่างประเทศให้ชาวลาวแลกเปลี่ยน

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมา เรดิโอฟรีเอเชีย รายงานว่า ธนาคารอุตสาหกรรมและการค้าจีน สาขานครหลวงเวียงจันทน์จะเปิดศูนย์ให้บริการสำหรับสะสางเงินหยวนในลาว ภายในเดือนมิถุนายนนี้ ตามการอนุญาตของธนาคารแห่ง สปป.ลาวเพื่อส่งเสริมการใช้เงินกีบและเงินหยวนให้มากขึ้น ทั้งการค้าและการลงทุนระหว่างลาว-จีน แทนการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจในลาวมีประสิทธิภาพในการชำระสะสางเงินหยวนดีขึ้น บรรเทาปัญหาเงินกีบอ่อนค่า 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net