Skip to main content
sharethis

ศาลอาญาพิพากษาจำคุก 2 ปี 12 เดือน ไม่รอลงอาญา “อัฐสิษฎ” ในคดี ม.112 - พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ เหตุโพสต์ข้อความและภาพบนเพจเฟซบุ๊กชื่อ “BackArt” จำนวน 2 โพสต์ เมื่อช่วงเดือน มิ.ย. - ต.ค. 2564 ขณะนี้ทนายความกำลังยื่นขอประกันตัว

 

28 ก.พ. 2567 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงาน ศาลอาญาพิพากษาลงโทษจำคุก 6 ปี ในคดี ม.112 - พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ของ “อัฐสิษฎ” (สงวนนามสกุล) เหตุโพสต์ข้อความและภาพบนเพจเฟซบุ๊กชื่อ “BackArt” จำนวน 2 โพสต์ เมื่อช่วงเดือน มิ.ย. - ต.ค. 2564

ศาลระบุ การกระทำของจำเลยเป็นการทำผิดตามฟ้อง พิพากษาให้ลงโทษจำคุก กระทงละ 3 ปี รวม 6 ปี แต่มีเหตุบรรเทาโทษ ลดกึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 2 ปี 12 เดือน ไม่รอการลงโทษ และให้ริบโทรศัพท์ของกลาง

ขณะนี้ทนายความกำลังยื่นขอประกันตัว

ศูนย์ทนายความฯ รายงานเพิ่มเติม “อัฐสิษฎ” เป็นศิลปินวัย 29​ ปี ถูกสั่งฟ้องว่าเป็นผู้ทำเพจ BackArt วาดงานศิลปะแนวเสียดสีสังคมจำนวน 2 ภาพ ระหว่างเดือน มิ.ย.- ต.ค. 2564 ในข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) 

เวลา 15.46 น. หลังทนายยื่นคำร้องขอประกันอัฐสิษฎระหว่างอุทธรณ์ ศาลอาญามีคำสั่งส่งคำร้องให้ศาลอุทธรณ์พิจารณา ซึ่งโดยปกติจะใช้เวลา 2-3 วัน จึงจะทราบผลคำสั่ง ทำให้ในวันนี้อัฐสิษฎต้องถูกนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ  

เบื้องต้นในคดีนี้มี พ.ต.ท.แทน ไชยแสง เป็นผู้กล่าวหา ย้อนไปเมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2565 เวลา 07.30 น. อัฐสิษฎถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 12 นาย จากกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (กก.1 บก. ปอท.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เข้าจับกุมและตรวจค้นในบ้านพักที่จังหวัดนครราชสีมาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 2359/2565 ลงวันที่ 4 พ.ย. 2565 และหมายค้นจากศาลจังหวัดพิมายที่ 19/2565 ลงวันที่ 7 พ.ย. 2565

หลังจากที่ตำรวจได้ตรวจยึดคอมพิวเตอร์, โทรศัพท์ และเมาท์ปากกาวาดภาพของอัฐสิษฎไว้เป็นของกลางในคดีนี้ อัฐสิษฎได้ถูกนำตัวจากจังหวัดนครราชสีมามายังกรุงเทพมหานครในวันเดียวกันนั้นเพื่อทำบันทึกจับกุมและแจ้งข้อหาที่ บก.ปอท. โดยตำรวจได้แจ้งข้อหา หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) ระบุว่า สาเหตุมาจากเพจเฟซบุ๊ก BackArt ได้เผยแพร่ภาพและข้อความที่เข้าข่ายลักษณะบิดเบือน พาดพิง เสียดสี ด้อยค่าสถาบันกษัตริย์ และจากการสืบสวนพบว่า อัฐสิษฎเป็นเจ้าของบัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าว 

ในชั้นจับกุมและสอบสวนซึ่งไม่มีทนายความเข้าร่วม อัฐสิษฎให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ได้รับว่าเป็นผู้วาดและเป็นเจ้าของบัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าว โดยไม่ได้มีเจตนาพาดพิงสถาบันกษัตริย์แต่อย่างใด จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องขอฝากขังอัฐสิษฎต่อศาลอาญา เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2565 โดยศาลอนุญาตให้ฝากขัง ก่อนอนุญาตให้ประกันระหว่างสอบสวน วงเงินประกัน 90,000 บาท แต่เนื่องจากเขาไม่สามารถติดต่อครอบครัวได้ เพราะโทรศัพท์ถูกตำรวจยึดไป อัฐสิษฎจึงถูกนำตัวไปขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ก่อนครอบครัวมายื่นประกันเมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2565      

ต่อมาวันที่ 31 ม.ค. 2566 พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 6 ได้ยื่นฟ้องคดีนี้ต่อศาลอาญา โดยสาระสำคัญของคำฟ้องมีดังนี้ เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2564 ต่อเนื่องถึงวันที่ 7 ต.ค. 2564 จำเลยได้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ BackArt โพสต์ภาพวาดและข้อความว่า “ออกแบบคาแรคเตอร์มือปืนที่เก่งที่สุดในโลก….จอห์นวิคยังต้องกราบ” อัยการระบุว่า เมื่อตีความและอ่านออกเสียงประกอบภาพย่อมต้องนึกถึงรัชกาลที่ 9 อันเป็นการจาบจ้วง ล่วงเกิน ใส่ร้าย ใส่ความ ดูหมิ่นรัชกาลที่ 9 ทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศ

และเมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2564 ต่อเนื่องถึงวันที่ 7 ต.ค. 2564 จำเลยได้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ BackArt โพสต์ภาพวาดคล้ายชายกำลังกัดกินแผนที่ประเทศไทย และข้อความ “ทางออก ประเทศไทย?” อัยการระบุว่า จำเลยมีเจตนาให้ประชาชนที่ได้เห็นภาพและอ่านข้อความมีความรู้สึกว่า รัชกาลที่ 10 กัดกินประเทศไทย อันเป็นการจาบจ้วง ล่วงเกิน ใส่ร้าย ใส่ความ ดูหมิ่นรัชกาลที่ 10 ทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศ

ภายหลังศาลรับฟ้อง ได้อนุญาตปล่อยชั่วคราวจำเลยระหว่างการพิจารณาคดี 

เดิมศาลมีกำหนดนัดสืบพยานจำนวน 4 นัด ระหว่างวันที่ 23-26 ม.ค. 2567 แต่ในนัดสืบพยานนัดแรก อัฐสิษฎได้เปลี่ยนคำให้การจากปฏิเสธเป็นรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ศาลจึงมีคำสั่งให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะรายงานต่อศาลก่อนนัดฟังคำพิพากษาในวันนี้ (28 ก.พ. 2567)

 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net