ณัฐชนน ผู้ต้องขังคดีการเมืองจากการถูกกล่าวหาครอบครองประทัดยักษ์เข้าที่ชุมนุมแยกดินแดง ได้รับการปล่อยตัวจากคุกเนื่องจากเข้าสู่ช่วงพักโทษ หลังติดคุกตั้งแต่วันที่ถูกจับกุมมาเกือบ 2 ปีโดยไม่มีโอกาสได้สู้คดี

30 ก.ค. 2567 เวลา 10.00 น.  ณัฐชนน หรือ มะ อดีตช่างไฟฟ้า ผู้ต้องขังคดีครอบครองวัตถุระเบิดได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพหลังถูกคุมขังจนได้พักโทษ โดยมีญาติและประชาชนที่มาร่วมให้กำลังใจประมาณ 10 คน

ณัฐชนน (เสื้อขาวตรงกลาง) และคนที่มารอรับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณัฐชนน จะต้องติดกำไลติดตามตัวหรือกำไล EM ในระหว่างพักโทษด้วยและเขาได้กล่าวสั้นๆ ว่า “หลังจากออกมาแล้วขอกลับไปคุมประพฤติก่อน”

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเคยรายงานถึงเหตุการณ์ที่ทำให้ณัฐชนนถูกจับกุมไว้ว่า ณัฐชนน หรือ “มะ” อายุ 25 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนจับกุมตั้งแต่ 12 มิ.ย.2565 ในการชุมนุมทางการเมืองที่แยกดินแดงเพื่อเตรียมเดินไปบ้านของประยุทธ์ จันทร์โอชาในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) โดยเขาถูกจับกุมพร้อมท่อ PVC โดยข้างในเป็นประทัด แต่ไม่ได้มีสะเก็ดหรือเศษแก้วแต่อย่างใด ทั้งยังมีการพบสายไฟฟ้ายาวหนึ่งคืบ และหางปลา ซึ่งเขาบอกว่าเป็นอุปกรณ์การทำงาน

ทั้งนี้ศูนย์ทนายความฯ ระบุไว้ว่ากว่าจะได้รับทราบว่าเขาถูกขุมขังก็ล่วงเลยมาถึงช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2565 แล้วหลังจากศาลมีคำพิพากษาในคดีของเขาเมื่อวันที่ 9 ส.ค.2565 อย่างไรก็ตามตลอดกระบวนการตั้งแต่ถูกจับกุมเขาไม่มีทนายความอยู่ด้วยและตำรวจก็ไม่ได้แจ้งสิทธิในการมีทนายความให้กับเขา และเขาถูกคุมขังนับตั้งแต่วันที่ถูกควบคุมตัวแม้ว่าญาติจะเคยยื่นขอประกันตัวณัฐชนนก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษาถึง 4 ครั้ง จนวันที่มีการพิจารณาคดีเขาจึงเลือกรับสารภาพเพราะไม่มีใครให้ปรึกษาและไม่คิดว่าโทษจะหนัก

ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกณัฐชนนทั้งหมด 6 ปี แต่ลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือ 3 ปี เนื่องจากณัฐชนนรับสารภาพ อย่างไรก็ตามศาลไม่รอการลงโทษ และณัฐชนนเลือกไม่อุทธรณ์คดีเพราะเมื่อประเมินแล้วเขาไม่ต้องการรอคำพิพากษาไปอีก 1 ปี และถ้าคดีสิ้นสุดก็จะได้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาอภัยโทษได้ตามวาระต่างๆ

ทั้งนี้เมื่อนับจำนวนวันที่ณัฐชนนถูกคุมขังแล้วรวมเป็นเวลาเกือบ 2 ปี (723 วัน) ทำให้เข้าเกณฑ์พักโทษจนได้รับการปล่อยตัวในวันนี้แต่ณัฐชนนจะยังต้องเข้าสู่กระบวนกาคุมความประพฤติอีก 372 วันจนกว่าจะครบกำหนดโทษ

ณัฐชนน อดีตช่างไฟฟ้าในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เคยเล่าให้กับทนายความระหว่างอยู่ในเรือนจำว่า ตัวเขาเองเริ่มติดตามการเมืองนับตั้งแต่ปี 2563 เนื่องจากผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นกับครอบครัวจากปัญหาราคาสินค้าที่สูงขึ้นทั้งที่ค่าแรงต่ำที่เขาเห็นว่าเกิดจากการบริหารงานของรัฐบาลที่ล้มเหลว และยังได้เห็นว่าเมื่อมีคนหนุ่มสาวออกมาชุมนุมก็ถูกสลายการชุมนุมด้วยการใช้ความรุนแรงทำให้เขาเข้าร่วมการชุมนุมด้วย

“ผมเห็นถึงความไม่ยุติธรรมในสังคมที่เกิดขึ้นกับแกนนำ ผู้ชุมนุมที่ออกมาเรียกร้องเพื่อให้บ้านเมืองดีขึ้น ผมเลยไปม็อบ ไปช่วยม็อบ เป็นผู้ชุมนุม ผมเห็นทุกอย่างที่รัฐทำกับประชาชน  ผมทนไม่ไหวแล้ว ผมเข้าใจสภาพของผู้ชุมนุมที่ดินแดงว่าทำไมเค้าถึงตอบโต้เจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างนั้น ตัวผมเองยังทนไม่ได้เลย” ณัฐชนนกล่าวในบทสัมภาษณ์ของศูนย์ทนายความ