Skip to main content
sharethis

โฆษก คสช. ยอมรับส่งทหารประกบติด ‘พรรคการเมือง-แกนนำ’ เพื่อความเรียบร้อย หวั่นปลุกปั่นสร้างความเกลียดชัง 'อนาคตใหม่' พบปะชาวกรุงที่สวนลุม 'รวมพลังประชาชาติไทย' เดินคารวะแผ่นดินที่ย่านเยาวราช  'ไทยศรีวิไลย์' เตรียมบุก ป.ป.ช.เร่งชี้มูลทุจริต GT200 เจ้าหน้าที่รัฐ พร้อมเล็งยื่นตรวจสอบโครงการ DLIT สพฐ.กว่า 7 พันล้าน 'อภิสิทธิ์' ลุย 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอเสียงหนุนนั่งต่อหัวหน้าประชาธิปัตย์ต่อ


พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) (แฟ้มภาพ)

28 ต.ค. 2561 พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ทหารไปร่วมสังเกตการณ์พรรคการเมืองต่างๆ ที่ออกมาทำกิจกรรมในช่วงนี้ว่าเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามแนวทางเพื่อไปดูแลความเรียบร้อยทั่วไป เป็นในลักษณะดูภาพรวมกว้างๆ และเชื่อว่าคงไม่ได้ไปจำกัดสิทธิการดำเนินการอะไร ถ้าการกระทำอยู่ในกรอบกฎหมาย โดยหลักเพื่อให้การดำเนินการต่างๆ เช่น การหาสมาชิกพรรคของกลุ่มหรือบุคคลสามารถดำเนินการไปได้ด้วยความเรียบร้อย และอยู่ในกรอบที่คสช.ผ่อนคลายให้สามารถทำบางกิจกรรมได้ในช่วงนี้ เชื่อว่าในทางปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ยังคงดำเนินการอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่กระทบต่อกิจกรรมตามวัตถุประสงค์ของพรรคการเมืองที่ดำเนินการนั้นๆอยู่ในกรอบที่กฎหมายกำหนด ส่วนข้อกังวลในเรื่องสิทธิเสรีภาพ ความจริงเรื่องนี้ไม่ได้กระทบ โดยเฉพาะกับสังคมส่วนใหญ่ในการดำเนินชีวิตทั่วไป ซึ่งมีเพียงบางบุคคล หรือบางกลุ่มนิยมใช้เป็นวาทกรรมยัดเยียดชี้นำสังคม

"คสช.จำเป็นต้องทำให้ทุกกฎหมายโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการปกป้องสิทธิคนส่วนใหญ่สามารถบังคับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วงนี้ยังคงไม่อยากให้มีการดำเนินการใดๆ ที่สุ่มเสี่ยง หรือใช้เวทีนี้ผิดไปจากเจตนารมย์ เช่น การแฝงให้ข้อมูลลักษณะปลุกปั่นสร้างกระแสความเกลียดชังกัน หรือกรณีการใช้เวทีนี้เป็นที่แสดงออกทางอารมณ์เกลียดชังกันจนกระทบภาพบรรยากาศในการเดินหน้าประเทศ อีกทั้งมองว่าในช่วงนี้พรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองส่วนใหญ่เข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการสร้างและรักษาบรรยากาศที่จะเอื้ออำนวยต่อการเตรียมการเลือกต้ัง" พ.อ.วินธัย กล่าว

'อนาคตใหม่' พบปะชาวกรุงที่สวนลุม

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2561 ที่ผ่านมานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และกรรมการบริหารพรรค นำทีมผู้สนับสนุนพรรคและแคนดิเดต ผู้สมัคร ส.ส.กทม.และปริมณฑล วิ่งออกกำลังกายที่สวนลุมพินี พร้อมทักทายแนะนำตัวกับประชาชนที่มาเดิน-วิ่งออกกำลังกายซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี นายธนาธรกล่าวว่า ได้รับเชิญมาร่วมงานเดินต่อต้านความรุนแรงต่อผู้หญิง ของมูลนิธิเพื่อนหญิง จึงถือโอกาสชวนสมาชิกพรรคออกกำลังกายร่วมกันในตอนเช้า อีกทั้งสวนลุมพินียังเป็นแหล่งพักผ่อน และพื้นที่สีเขียวที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ จึงเป็นโอกาสดีที่ทีมอนาคตใหม่จะได้ไปแนะนำตัวกับชาวกรุงเทพฯ ในช่วงของการเปิดรับสมัครสมาชิกพรรค

นายธนาธรยังได้เข้าร่วมงานเดินต่อต้านความรุนแรงต่อผู้หญิง ของมูลนิธิเพื่อนหญิง โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนักแสดงชื่อดังอย่างแคทรียา อิงลิช และปณิตา ธรรมวัฒนะ ร่วมงานด้วย ซึ่งในงาน มีกลุ่มสตรีจากหลากหลายวัย หลายจังหวัด และอาชีพ เข้ามาทักทายและขอถ่ายรูปกับนายธนาธรอย่างคับคั่ง พร้อมทั้งให้กำลังใจการทำงานของพรรคอนาคตใหม่ เช่นเดียวกับเอกอัครราชทูตสวีเดนและภริยา หนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของงาน ซึ่งกล่าวกับนายธนาธรว่า “เราสนับสนุนความเปลี่ยนแปลงเสมอ”

'รวมพลังประชาชาติไทย' เดินคารวะแผ่นดินที่ย่านเยาวราช มั่นใจประชาชนตื่นตัวการเลือกตั้งครั้งนี้มากกว่าครั้งก่อนย้ำไม่คิดแย่งฐานเสียงพรรคใด

เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2561 ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) พร้อมด้วยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานคณะทำงานรณรงค์เชิญชวนประชาชนเป็นสมาชิกพรรค นำคณะผู้จัดตั้งพรรค ปฏิบัติการเดินคารวะแผ่นดินวันที่สามย่านเยาวราช โดยเริ่มต้นเดินเท้าจากซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ หรือ วงเวียนโอเดียน ไปยังศาลเจ้าแม่กวนอิม มูลนิธิเทียนฟ้า เพื่อสักการะเจ้าแม่กวนอิม จากนั้น เดินต่อไปตามถนนเยาวราช สำเพ็ง ท่าน้ำราชวงศ์ วัดเล่งเน่ยยี่ ถนนเจริญกรุง วัดไตรมิตรวราราม ระยะทางรวมประมาณ 4 กิโลเมตร

โดยนายสุเทพ กล่าวว่าที่เลือกมาเดินเยาวราช เพราะได้รับประสบการณ์จากเมื่อครั้งที่เป็นแกนนำ กปปส.เชิญชวนชาวเยาวราชร่วมกันต่อสู้ ซึ่งครั้งนั้นพบว่าพี่น้องเชื้อสายจีนชาวเยาวราช เป็นบุคคลที่มีความจงรักภักดีต่อแผ่นดินสูงมาก หลายคนให้กำลังใจเพราะแผ่นดินไทยให้โอกาสตระกูลชาวจีนได้ผ่านพ้นความทุกข์ยาก ชาวเยาวราชจึงจะสนับสนุนคนที่มุ่งมั่นทำความดีให้กับบ้านเมือง วันนี้ตนจึงได้มาที่นี่ เพื่อให้ชาวเยาวราชทราบว่า รปช.ตั้งใจทำสิ่งที่ดีให้เกิดขึ้น สร้างการเมืองของประชาชน พร้อมกันนี้เชื่อมั่นว่าประชาชนคนไทยทุกคนคำนึงเรื่องที่จะให้ประเทศอยู่รอดต่อไป มากกว่าการยึดติดพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง หากประเทศไม่สงบเรียบร้อยก็จะเดินหน้ากันไม่ได้ ดังนั้นขออย่าคิดว่าจะมาแย่งฐานเสียงจากพรรคใดวันนี้ประชาชนนับหนึ่งใหม่แล้ว

ส่วนเสียงตอบรับจากการเดินย่านสุขุมวิทเมื่อวันที่ 26 ต.ค. เมื่อเปรียบเทียบกับย่านวรจักรในวันที่ 25 ต.ค. นั้นนายสุเทพกล่าวว่าย่านวรจักรมีความอบอุ่นกว่าเพราะเป็นชุมชนเดิม แต่ย่านสุขุมวิทเป็นย่านธุรกิจมากกว่า แต่ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

ทั้งนี้จะปรับกลยุทธ์เน้นเข้าหาชุมชนมากกว่าหรือไม่นั้น นายสุเทพกล่าวว่าก็พยายามเดินให้มากที่สุด ให้ทั่วถึงที่สุด เพื่อเชิญชวนคนมาสมัครเป็นเจ้าของพรรค ขณะที่ความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองอื่นๆนั้น ส่วนตัวไม่มีเวลาสนใจพรรคการเมืองอื่น ไม่ใช่ว่าไม่ให้ความสำคัญ แต่ภาระหน้าที่ในพรรคตนเองนั้นหนักหนา ไม่มีเวลาติดตามเบื้องหน้าเบื้องลึกของแต่ละพรรคว่าเป็นอย่างไร

นายสุเทพ กล่าวอีกว่ามั่นใจว่าการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปีหน้านั้น ประชาชนจะตื่นตัวมาก และมีส่วนร่วมกว่าครั้งก่อนๆ และย้ำว่า รปช.ไม่มีแนวคิดที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ประชาชนลงประชามติเห็นชอบ ไม่ติดใจที่ใครเป็นคนร่าง เช่นเดียวกับยุทธศาสตร์ชาติ ก็ไม่มีแนวคิดที่จะแก้ไขเช่นกัน

'ไทยศรีวิไลย์' เตรียมบุก ป.ป.ช.เร่งชี้มูลทุจริต GT200 เจ้าหน้าที่รัฐ พร้อมเล็งยื่นตรวจสอบโครงการ DLIT สพฐ.กว่า 7 พันล้าน

เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2561 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวว่า ตน พร้อม นายณัชพล สุพัฒนะ หรือ มาร์ค พิทบูล รองหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ และ คณะ ในวันอังคารที่ 30 ตุลาคม 2561 เวลา 11.00 น. จะเดินทางไปที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อยื่นหนังสือถึง พลตำรวจเอก วัชรพล ประสานราชกิจ ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อเร่งรัดชี้มูลความผิดคดีทุจริต GT200 หลัง กรมราชองครักษ์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัท เอวิเอ แซทคอม จำกัด พร้อมกรรมการ และเจ้าหน้าที่ในบริษัทรวม 5 ราย เป็นจำเลยที่ 1-5 ในคดีการจัดซื้อเครื่องตรวจจับอาวุธวัตถุระเบิด และสารเสพติดรุ่น GT200 รวม 3 ครั้ง เป็นเงิน 9 ล้านบาท เนื่องจากเครื่อง GT200 ไม่สามารถใช้งานได้ โดยศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภค ได้ตัดสินคดีความแพ่งดังกล่าว ไม่รับคำฎีกา เมื่อ 29 ส.ค.61 ของบริษัท เอวิเอ แซทคอม จำกัด เรื่อง การขาดอายุความ ถือว่าคดีทางแพ่งถึงที่สุดแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ศาลแพ่ง พิพากษาให้บริษัท เอวิเอ แซทคอม จำกัด ชำระเงิน 9 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 บาท/ปี นับตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย. 2557 ที่ผ่านมา

นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า เมื่อกลางเดือนกันยายน 2561 ศาลเเขวงดอนเมืองได้อ่านคำพิพากษา คดีที่อัยการคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้อง กลุ่มจำเลย บริษัท เอวิเอ แซทคอม จำกัด ซึ่งศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุก 10 ปี นายสุทธิวัฒน์ จากการขายเครื่อง GT 200 รวม 12 สัญญา กระทงละ 3 ปี จำนวน 12 กระทง รวม 36 ปี แต่ตามมาตรา 91 (1) แห่งประมวลกฎหมายอาญา กำหนดให้จำคุกได้ไม่เกิน 10 ปี และมีโทษปรับ 72,000 บาท รวมมูลค่า 600 ล้านบาท ซึ่งสำนวนนั้น กองทัพบก เป็นผู้เสียหาย โดยจำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธ ขอสู้คดีในขั้นอุทธรณ์ และทราบว่าช่วง ปลาย กันยายน 2651 คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับสำเนาคำพิพากษาจำคุก 7 ปี เจ้าของผลิตภัณฑ์ และ เอกสารประกอบจากศาลประเทศอังกฤษ แล้วนั้น ความเสียหายที่เกิดกับหน่วยงานภาครัฐทั้ง 18 หน่วยงาน วงเงิน จัดซื้อเครื่องตรวจระเบิด GT200 และ Alfa6 แพงเกินจริง แล้วทำงานไม่ได้ผล ซึ่งมีการจัดซื้อหลายครั้งจากหลายหน่วยงาน กว่า 1,137 ล้านบาท

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ความเสียหายนี้เอกชนจะมีความผิดแต่ฝ่ายเดียวคงไม่ได้ จะต้องมีเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องร่วมกันรับผิดชอบแตกต่างกัน ทั้งทางอาญา-ทางวินัย(อยู่ในราชการ)-ทางละเมิด กับ เจ้าหน้าที่รัฐ ณ ขณะนั้น ปี 2548-2553 อาทิ อดีตเจ้ากระทรวง อดีต ผบ.ทบ.-ผบ.ทอ-ผบ.ทร.-ผบ.ตร. อดีตเจ้ากรม อดีตอธิบดี อดีตผู้ว่าฯ อดีตผู้อำนวยการ เจ้าหน้าที่จัดซื้อจัดจ้าง เจ้าหน้าตรวจรับพัสดุ ว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 (ฮั้ว) และต้องรับผิดชอบ พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 มากน้อยลดหลั่นกันไป คดีนี้ก็คล้ายกับคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย คดีทุจริตรถดับเพลิงเรือดับเพลิง กทม.

“เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รับเรื่องร้องเรียนอยู่ 2 เรื่อง คือ 1. การอาจจะทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างโครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยีการศึกษาทางไกลผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ (DLIT) ของ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขึ้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ งบประมาณ ปี 2560-2562 งบประมาณกว่า 7 พันล้านบาท 2. ร้องเรียนข้าราชการระดับสูง 2 ราย สังกัด กระทรวงศึกษาธิการ อาจจะพัวพันการกระทำความผิดการปล่อยเงินกู้นอกระบบให้กับครูอัตราดอกเบี้ยสูงเกินกว่ากฎหมายกำหนด ซึ่งถ้าเป็นเรื่องจริงก็จะเข้าข่ายผู้มีอิทธิพล ซึ่ง คสช. กำลังปราบปรามอยู่ในขณะนี้” นายมงคลกิตติ์ กล่าว

นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า ข้อสังเกตการจัดซื้อจัดจ้างโครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยีการศึกษาทางไกลผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ (DLIT) ในแต่ละ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา-มัธยมศึกษา 1. มีผู้ยื่นราคา 3-4 เจ้า ซ้ำๆ กัน ซื้อของมาจากแหล่งผู้ผลิตแค่ไม่กี่ราย มีการลดราคาแค่หลักร้อยเป็นไปได้อย่างไร ทั้งที่เป็นระบบ อี-บิลดิ้ง น่าจะต้องตรวจสอบ 2. มีการจัดซื้อรวมกันทั้ง ทีวี และ โน้ตบุ๊ก เป็นราคารวมไม่สามารถแยกซื้อได้ 3. มีการล็อกหน้าจอแสดงผลของทีวีในสเปก ให้แสดงผลเป็นของ สพฐ.ป้องกันขโมย ผู้รับจ้างรู้ได้ไงว่าจะได้งานเพราะต้องสั่งผลิตล่วงหน้าหลายเดือนเป็นจำนวนมากๆ 4. ราคากลางอาจสูงเกินจริงกว่าราคาท้องตลาด ซึ่งโครงการดังกล่าวได้เข้ามาแทนที่การดำเนินนโยบายประชานิยมของพรรคเพื่อไทย คือ โครงการแท็บเล็ตพีซีเพื่อการศึกษาไทย ที่ใช้งบกว่า 8,000 ล้านบาท ณ ปัจจุบันพังหมดแล้วกลายเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ กว่า 3 ล้านกว่าเครื่อง ฉะนั้น ในช่วงสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป จะดำเนินการยื่นหนังสือต่อ รมว.ศึกษาธิการ และ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ทั้ง 2 เรื่อง ให้ตรวจสอบต่อไปก่อนความเสียหายจะเกิดขึ้น

'อภิสิทธิ์' ลุย 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอเสียงหนุนนั่งต่อหัวหน้าประชาธิปัตย์ต่อ

เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2561 นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะผู้สมัครแข่งขันเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พบปะสมาชิกพรรคในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) ที่โรงแรมซีเอส ปัตตานี โดยมีสมาชิกพรรคจาก11เขตเลือกตั้งในพื้นที่จชต.มากกว่า 2,000 คน ให้การต้อนรับจนล้นห้องแกรนบอลลูม ออกมาจนต้องตั้งเต้นท์รองรับด้านข้างของพื้นที่โรงแรม โดยมีแกนนำพรรคอาทิ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ นายขำนิ ศักดิเศรษฐ์ รองหัวหร้าพรรค นายนิพนธ์ บุญญามณี นายก อบจ.สงขลา นายกรณ์ จาติกวนิช ฝ่ายยุทธศาสตร์พรรค นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ นายสามารถ มะลูลีม อดีตส.ส.กทม. นายศิริโชค โสภา อดีตส.ส.สงขลา นายนริศ ขำนุรักษ์ อดีต ส.ส.พัทลุง นายฮอศารี ม่าเหล็ม อดีตส.ส.สตูล และนายอันวาร์ สาและอดีต ส.ส.ปัตตานี

โดยตอนหนึ่งนายอภิสิทธิ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า การหยั่งเสียงหัวหน้าพรรคไม่ใช่ครั้งแรกของพรรคประชาธิปัตย์ แต่เป็นครั้งแรกของประเทศไทย ขอเชิญชวนให้ทุกคนไปลงคะแนนเลือกหัวหน้าพรรคในวันที่ 1-3 พ.ย. นี้ทางโทรศัพท์ หรือหากใครไม่สะดวกก็เดินเข้าคูหาได้ในวันที่ 5 พ.ย. ซึ่งเป็นกำหนดของชาวใต้ ซึ่งหากตนได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคต่อก็จะต้องเร่งนำทัพสู่การเลือกตั้ง เพราะการเมืองแบบนี้เศรษฐกิจจะดียาก เพราะคนทำงานขาดตัวเชื่อมโยง เศรษฐกิจที่ดีจริงจะต้องสะท้อนผ่านราคาสินค้าเกษตร อาทิ ยางพารา ปาล์ม มะพร้าว และประมง จึงต้องพาประเทศออกจากการเมืองนี้ สิ่งที่เราต้องการ คือ 1.ต้องเป็นประชาธิปไตย ที่รู้ถึงว่าประชาชนต้องการอะไร 2.ต้องเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถมีประสบการณ์เพื่อแก้ปัญหา 3.ต้องซื่อสัตย์สุจริต ปัญหาในภาคใต้โดยเฉพาะ ปัญหาการประมงที่ได้รับผลกระทบจากการออกมาตรการที่ไม่เข้าใจปัญหาของรัฐบาลจนสร้างความเดือดร้อนให้ชาวประมงของประเทศ ที่ถูกทำลายไปครึ่งหนึ่งแล้ว ทุกครั้งที่มีส.ส.สหภาพยุโรปมาพบ ตนจะชี้แจงว่า ไทยไม่มีความคิดที่จะค้ามนุษย์ การออกมาตรการเช่นนี้ส่งผลกระทบต่อวิถีของคนไทย สร้างความเดือดร้อนให้ชาวประมง ซึ่งส.ส.สหภาพยุโรปบอกตนว่า เขากดดันเรื่องการค้ามนุษย์จริง แต่การออกมาตรการเป็นเรื่องของรัฐบาลไทยเอง ซึ่งหากตนได้เป็นหัวหน้าพรรคและเป็นรัฐบาล ปัญหาของประชาชน ต้องได้รับการแก้ไขเพราะถือเป็นนโยบายตามคำสั่งของประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้าพบสมาชิก คณะนายอภิสิทธิ์ได้เดินทางไปสักการะหลวงปู่ทวดวัดช้างให้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองจ.ปัตตานี และได้ร่วมลอดใต้ท้องช้าง ซึ่งเชื่อกันว่าจะเป็นศิริมงคล และสมปรารถนาตามที่ขอ


ที่มาเรียบเรียงจาก มติชนออนไลน์ สำนักข่าวไทย [1] [2] ผู้จัดการออนไลน์ กรุงเทพธุรกิจ



 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net