ประชาไท-27 มิ.ย. 48 นายอัฮหมัดสมบูรณ์ บัวหลวง คณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.) ตัวแทนภาคประชาสังคมในพื้นที่ภาคใต้ ชวนสื่อไปดูความจริงจากโรงเรียนปอเนาะที่โดนสั่งปิดฐานก่อการร้าย ระบุเสียงจากชาวบ้าน สวนทางกับข้อเท็จจริงจากภาครัฐ

จากกรณีการปิดโรงเรียนญิฮาดวิทยา หรือปอเนาะญิฮาด อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายทหาระบุว่า เป็นแหล่งฝึกเยาวชนสำหรับการก่อการร้าย ด้วยการพบอาวุธต่างๆ และพื้นที่ที่ใช้ฝึก เช่น ร่องรอยสถานที่ยิงปืน กรรมการกอส. ชี้ว่า ชาวบ้านให้ข้อมูลในทางขัดแย้งกับฝ่ายรัฐ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรอยกระสุนบนต้นมะพร้าว ซึ่งชาวบ้านระบุว่า เป็นรูจากตัวด้วง ซึ่งปกติก็เห็นได้ทั่วไป โพรงมะพร้าวซ่อนอาวุธ เป็นผลมาจากฟ้าผ่า

รอยฟันบนต้นมะพร้าวที่บอกว่าเป็นการฝึกการใช้มีด ชาวบ้านบอกว่าเป็นการบากไว้เป็นเหมือนบันไดสำหรับการปีนซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก โดยที่ตนออกมากล่าวอย่างนี้ไม่ได้เป็นการเข้าข้างชาวบ้าน และไม่ได้บอกว่าข้อมูลของฝ่ายทหารไม่เป็นจริง เพียงแต่อยากให้สร้างความยุติธรรมให้กับพื้นที่ ด้วยการลงไปดูนอกจากนี้ในส่วนของกระบวนการสอบสวนที่มีการ สอบสวน 7 วัน 7 คืน ก็ควรชี้แจงให้ได้ชัดว่ามีกระบวนการอย่างไรเพื่อสร้างความไว้วางใจให้คนในพื้นที่

นายอัฮหมัดสมบูรณ์ ยังกล่าวต่อว่า รัฐต้องตอบข้อเท็จจริงในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ให้ได้ เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่มีความไม่ไว้วางใจ และจะนำไปสู่ความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันชาวบ้านยังเชื่ออยู่ว่า มีการส่งทีมอุ้มจากภาครัฐลงมาเก็บชาวบ้านตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2547 ซึ่งรัฐเองก็เสียเปรียบเนื่องจากไม่มีคำตอบในเรื่องนี้

นายอัฮหมัดสมบูรณ์ ยังระบุอีกว่าที่ผ่านมา ทหารตำรวจ มักมีชุดความคิดอยู่แล้ว เมื่อมีคดีต่างๆ ก็ชี้ว่าเป็นประเด็นการก่อการร้าย เพื่อให้ง่ายแก่การหาจำเลยและปิดคดี ทั้งๆที่หลายคดีเป็นคดีธรรมดา

ประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องง่ายๆในการชี้แจงความจริงออกมา แต่ถ้าไม่ทำอาจจะทำให้มีเหตุการณ์รุนแรงเพื่อแสดงการตอบโต้ เช่น เมื่อสั่งปิดโรงเรียนดังกล่าว วันต่อมาก็มีเหตุการณ์ ยิงกันที่ยะลา 3 คน ปัตตานี 3 คน อาจสันนิษฐานได้ว่าเป็นการแก้แค้นกัน

ภาพันธ์ รักษ์ศรีทอง