การเมือง

 

 

จาตุรนต์อัด ทำประชามติรธน. ข่มขู่ประชาชน หลอกลวงโลก

สำนักข่าวเนชั่น - นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงการทำประชามติกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่า ที่ผ่านมาผู้มีอำนาจมีความพยายามข่มขู่ประชาชน หรือทำให้เข้าใจผิดว่าสามารถลงประชามติสนับสนุนได้เพียงทางเดียว แล้วใครที่ไม่เห็นด้วย ก็เป็นพวกขัดขวางคิดร้ายต่อบ้านเมือง

 

ที่น่าเป็นห่วงคือ การแก้ไขเพิ่มเติมในพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ เรื่องการเพิ่มฐานความผิดแก่ผู้ที่จงใจทำให้เกิดความเข้าใจผิดในรัฐธรรมนูญ ทำให้ผู้มีสิทธิ์ ออกเสียงไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง เรื่องนี้ถือเป็นการปิดหูปิดปากประชาชน ร่วมทั้งต้องการจับมือประชาชน มากาบัตรให้สบันสนุนรัฐธรรมนูญเท่านั้น และที่บอกว่าทำให้เกิดความเข้าใจผิดในรัฐธรรมนูญนั้นหมายความว่าอย่างไร และใครจะเป็นผู้ตัดสิน ถ้าหากว่ามีใครออกมาวิจารณ์รัฐธรรมนูญว่าเป็นเผด็จการ แล้วรัฐบอกว่านั้นเป็นการบิดเบือน อย่างนี้คนที่พูดก็ต้องถูกดำเนินคดี ดังนั้นใครที่คิดจะแสดงความเห็น ก็ต้องคิดแล้วคิดอีก เท่ากับว่าเป็นการข่มขู่ไม่ให้คนออกมาแสดงความเห็นนั่นเอง อีกทั้งเรื่องการห้ามเผยแพร่ผลโพลก็เป็นการปิดกันเสรีภาพของประชาชน

 

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ความคิดเหล่านี้เป็นความคิดที่ดูถูกประชาชน มีความคิดที่ต้องการปิดหูปิดตาปิดปาก แล้วจับมือประชาชน เพื่อให้มาเป็นเครื่องมือรับรองรัฐธรรมนูญ การลงประชามติที่จะเกิดขึ้นก็จะเป็นเรื่องหลอกลวงชาวโลกว่าประชาชนเห็นด้วยแล้ว ตรงนี้ต้องช่วยกันเรียกร้องให้ สนช. ดูร่างกฎหมายเกี่ยวกับประชามติให้ดี และเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจทั้งหลาย เลิกข่มขู่ประชาชนได้แล้ว และถ้ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ยังไม่มีการปรับเปลี่ยนเนื้อหา คิดว่าจะไม่ผ่านประชามติ หรือถ้าผ่านก็ด้วยมาจากความเข้าใจผิดของประชาชนที่ว่ามีหน้าที่ในการรับรองรัฐธรรมนูญเท่านั้น หรือเกิดจากความกลัวที่ว่า ถ้าไม่ผ่านจะได้รัฐธรรมนูญที่เลวกว่าเดิม ซึ่งทั้งหมดเกิดจากการข่มขู่ประชาชน

 

 

"ป๋าเปรม" เป็นพรีเซนเตอร์ รณรงค์การลงประชามติและเลือกตั้ง

ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กกต.มีหนังสือขอความอนุเคราะห์ถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เพื่อเป็นพรีเซนเตอร์ประกอบภาพยนตร์รณรงค์การออกเสียงประชามติ และการเลือกตั้ง

 

ภาพยนตร์รณรงค์ดังกล่าวมีความยาวประมาณ 45-47 วินาที ขณะนี้ทาง กกต.ได้ส่งบทคำพูดในการรณรงค์ไปให้ พล.อ.เปรม ดูเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้เพื่อรณรงค์ กระตุ้น และปลุกจิตสำนึกให้ประชาชนคนไทยทุกคนมีความรัก ความสามัคคี รู้จักสิทธิและหน้าที่ เพื่อฟื้นฟูระบบประชาธิปไตยให้ดีขึ้น

 

นายสุทธิพลกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ พล.อ.เปรมแสดงความเป็นห่วงกับประธานกกต.เรื่องของการซื้อสิทธิขายเสียง ซึ่ง กกต.ได้ชี้แจงว่า มีมาตรการหลายอย่างในการป้องกันและป้องปราม ขณะเดียวกันก็จะรณรงค์เพื่อให้ประชาชนตื่นตัวในเรื่องการซื้อสิทธิขายเสียง

 

จึงได้กราบเรียนพล.อ.เปรมเพื่อขอความกรุณาในเรื่องดังกล่าว การประชาสัมพันธ์ครั้งนี้จะเป็นผลงานชิ้นโบแดงของกกต. ซึ่งคาดว่าจะสามารถเผยแพร่ออกอากาศได้ในเดือนมิถุนายนนี้

 

 

อภิสิทธิ์ชี้ท้ายที่สุด สสร. ยังเป็นผู้ตัดสินร่างรธน.

เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงร่างรัฐธรรมนูญฉบับคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญการปฏิรูปการเมือง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่กำหนดให้ส.ว.มาจากการเลือกตั้งว่า ก็เป็นความเห็นหนึ่ง

 

เขากล่าวว่า ที่จริงแล้ว พวกเราไม่เคยบอกว่า เรื่องจำนวนส.ส.หรือระบบเลือกตั้ง เป็นความเป็นความตาย ประชาธิปัตย์พูดถึงแต่เรื่องความเป็นประชาธิปไตยเท่านั้น แต่ก็ยังไม่ค่อยแน่ใจว่า การสรรหามาเลือกมันจะแก้ปัญหาได้หรือไม่ เพราะเท่ากับคนก็ยังไม่มีเสรีภาพจริงๆ คือถ้าคนที่ประชาชนอยากเลือกไม่ถูกกสรรหา ประชาชนก็เลือกไม่ได้ ก็ยังอยากให้ไปแก้ปมในเรื่องอำนาจส.ว.ด้วยซ้ำ เราไปตั้งต้นผิดต้นตอของปัญหาที่ผ่านมาคือ มีส.ว.ที่มีอำนาจมาก แล้วเราก็ไม่สามารถค้นหาวิธีที่เลือกเข้ามาแล้วเป็นกลางทางการเมืองได้ วิธีแก้ปัญหาที่ง่ายสุดคือ ลดอำนาจที่มากของส.ว.เสีย เพราะที่ผ่านมาในที่สุดส.ว. ก็ไม่เคยได้ใช้อำนาจในเรื่องการถอดถอน

 

นายอภิสิทธิ์กล่าวกรณีกกต.ระบุการปรับแก้พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ โดยมีการเพิ่มโทษ อาจส่งผลให้ประชาชนออกมาใช้เสียงประชามติน้อยลงว่า เขาเห็นว่า หลักในการร่างนั้น อะไรที่ผิดกฎหมายเลือกตั้งก็ต้องผิดกฎหมายประชามติ

 

เขายังกล่าวว่า ตอนนี้ถ้าเป็นความเห็นเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ก็กังวลเหมือนกันว่าจะมีการตีความไปอีกว่า เป็นการสร้างความเข้าใจ ผิด ดังนั้นถ้าใครเคลื่อนไหวแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต เปิดข้อมูลข่าวสารให้มากที่สุด ก็ไม่ต้องกังวลอะไร แต่ถ้าใครจะขัดขวางในลักษณะไม่ต้องการให้เกิดประชามติ ไม่ต้องการให้คนไปใช้สิทธิอย่างนั้นก็เป็นความผิด

 

 

กลุ่มคนวันเสาร์ฯ คึก ประชาชน 300 ทยอยฟังแถลง

ไอ.เอ็น.เอ็น. - การรวมตัวกันของกลุ่มคนวันเสาร์ ไม่เอาเผด็จการ หน้าอิมพีเรียลเวิลด์สำโรง สมุทรปราการ หลังจากได้เดินทางจากท้องสนามหลวง เป็นไปอย่างคึกคัก หลังประชาชนกว่า 300 คนได้มาร่วมฟังการปราศรัยของ นายสุชาติ นาคบางไทร และนายวิภูแถลง วัฒนภูมิไทย แกนนำและโฆษกกลุ่มคนวันเสาร์ฯ ที่ได้ยืนหยัดเจตนารมณ์ในการต่อต้านเผด็จการ และล้มล้างระบบอำมาตยธิปไตย และเอาประชาธิปไตยกลับคืนมา

 

การปราศรัยยังมีการตั้งโต๊ะล่ารายชื่อ เพื่อยื่นถวายฎีกา เรียกร้องให้ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กราบถวายบังคลลาออกจากตำแหน่ง พร้อมเผยแพร่สมุดปกม่วง รวมเนื้อหาบทบาทของ พล. อ.เปรมที่ไม่เหมาะสม พร้อมเปิดจองเหรียญจตุคามรามเทพรุ่น 1 บาท ปราบกบฏอีกด้วย

 

 

"สุรยุทธ์"ลั่นไม่ออก ซัดทหารเก่าผลประโยชน์

เว็บไซต์คมชัดลึก - พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันในรายการ "เปิดบ้านพิษณุโลก" จะไม่ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก่อนหมดวาระ แม้จะมีแรงกดดันทางการเมืองจากกลุ่มผลประโยชน์เข้ามาเป็นระยะๆ

 

นายกรัฐมนตรียอมรับว่า แปลกใจที่กลุ่มผลประโยชน์กลุ่มหนึ่งที่ก่อนหน้านี้เคยให้การสนับสนุน แต่กลับอยากให้ลาออก แต่มีกลุ่มที่เคยไล่แต่กลับอยากให้อยู่ แต่ก็ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะจะเป็นการหมิ่นประมาท

 

พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งที่จะเป็นฟางเส้นสุดท้ายในเรื่องนี้ คือ เรื่องที่ถือว่าเป็นกฎกติกา คือ การปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2549 นายกฯ กล่าวว่าเขาได้รับการฝึกมาให้เคารพในกฎ กติกา มารยาท เพราะฉะนั้น ถ้ามาตามกฎ กติกา มารยาทแล้ว ตนปฏิบัติตามหมด

 

 

กลุ่มพีทีวีแจ้งจับ พล.อ.สนธิฐานละเว้น

เว็บไซต์คมชัดลึก - นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธานกรรมการบริหารสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมพีทีวี พร้อมผู้บริหาร เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนกองปราบปรามเพื่อดำเนินคดีกับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ กรณี พล.อ.สนธิ ให้สัมภาษณ์ ระบุหลังเกิดการรัฐประหารมีข้าราชการเสนอสินบนให้ตนถึง 40-100 ล้านบาท แลกกับตำแหน่งอธิบดี โดยให้สัมภาษณ์ถึง 2 ครั้ง ทั้งนี้ จึงมองว่า พล.อ.สนธิ เพิกเฉยและละเว้นที่จะดำเนินคดีกับข้าราชการที่เสนอสินบน ทั้งที่รู้ว่าบุคคลนั้นเป็นใคร

 

 

"ชวน"เปิดทางอดีต ส.ส. 3 จชต.ให้กำลังใจชาวบ้าน

ผู้จัดการออนไลน์ - "ชวน หลีกภัย" เรียกอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในสามจังหวัดชายแดนใต้ จำนวน 18 นาย เข้าพบ แนะให้ลงพื้นที่ให้กำลังใจประชาชน กลัวไทยพุทธทิ้งบ้านหนี พร้อมร่างยุทธศาสตร์แก้ปัญหา

 

นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า พรรคมีความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่รุนแรงเพิ่มขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และหากรุนแรงมากกว่านี้ตนกลัวคนไทยพุทธจะหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งลักษณะเช่นนี้เป็นอันตรายมาก ในประชุมจึงได้แบ่งภารกิจในการทำงานให้อดีต ส.ส.ของพรรค 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 6 ภารกิจ คือ ด้านการศึกษาศาสนา เศรษฐกิจ สังคม การเมือง และ ด้านวัฒนธรรม ไปทำแผนยุทธศาสตร์นำเสนอรัฐบาล เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติในการแก้ปัญหาต่อไป และนำไปใช้หากพรรค ปชป.กลับมาบริหารประเทศ

 

นายชวน เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนอยากให้ผู้รับผิดชอบให้ผู้ใหญ่ในรัฐบาลแสดงความรับผิดชอบมากกว่าที่เป็นอยู่ ให้ลงพื้นที่ให้มากกว่าที่ผ่านมาและที่สำคัญให้หน่วยที่สนับสนุนในการทำงานของตำรวจและทหารในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้มีการทำงานให้มีเอกภาพมากขึ้น เพราะจากการสังเกตจากภายนอกหน่วยงานสนับสนุนต่างหน่วยงานต่างทำ จึงทำให้การแก้ปัญหาไม่สำเร็จแล้วยังเพิ่มเงื่อนไข

 

 

พัลลภ ปิ่นมณี เป็นประธานในพิธีเททอง และกดพิมพ์ทำฤกษ์วัตถุมงคลท้าวจตุคาม รามเทพ

กรมประชาสัมพันธ์ - พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี ที่ปรึกษาผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเป็นประธานในพิธีเททองและกดพิมพ์ทำฤกษ์วัตถุมงคล ท้าวจตุคารามเทพ รวมใจไทยทั้งชาติ 4 ภาค 1 แผ่นดิน รุ่นบุญบันดาล ซึ่งจัดสร้างขึ้นโดยพันเอกมนัส คงแป้น ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดยะลา ทั้งนี้เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนในพื้นที่ หลังประสบปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มาเป็นระยะเวลานาน

 

 

พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี ได้กล่าวกับประชาชนที่เข้าร่วมในพิธีว่า สถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ทุกฝ่ายจะต้องให้ความร่วมมือกันแก้ไขปัญหา ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐฝ่ายเดียว ไม่สามารถยุติปัญหาในเร็ววันได้ ขอให้ประชาชนทุกคนช่วยกันดูแลผืนแผ่นดินไทย อย่าให้ผู้ที่ไม่หวังดีกระทำการอันใดได้ ซึ่งตนเองพร้อมที่หาแนวทางในการแก้ไขปัญหา เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยไว้

 

 

"นายกฯ" เตือนนิยม "จตุคาม"ระวังตกเป็นเหยื่อโฆษณา

เว็บไซต์เดลินิวส์ - พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความนิยมของประชาชนเรื่องจตุคามรามเทพ ถึงขนาดมีข่าวว่ารัฐบาลจะเก็บภาษีจากการสร้างจตุคามรามเทพว่า เป็นเรื่องธรรมดา มีอะไรที่ขึ้นก็ต้องมีลง พระพุทธเจ้าท่านสอนไว้แล้ว อนิจจังไม่เที่ยง ชาวบ้านต้องคิด ถ้าท่านเป็นคนพุทธ ท่านต้องคิดว่ามีอะไรขึ้นก็ต้องมีลง เพราะฉะนั้นถ้าเผื่อราคาขึ้นไป ต้องนึกว่าวันหนึ่งราคาต้องลง เราคงได้เห็นในเรื่องเหล่านี้มาพอสมควรในช่วงชีวิตของเรา สมัยตนเด็ก ๆ มีเรื่องของแก้ว ที่เรียกว่า "โป่งคาม" ในตอนนี้ก็ขึ้นเหลือเกินสักพักหนึ่ง พอตกทุกคนก็ทิ้งไม่มีราคา

 

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อ ว่าขอให้ทุกคนยึดถือแนวทางที่รัฐบาลได้พยายามที่จะนำเสนอคือ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระราชทานว่า การที่จะทำสิ่งใด พิจารณาที่จะดำเนินการสิ่งใดดูด้วยเหตุด้วยผลให้รอบคอบ และอยู่ในฐานะที่เราควรจะรับได้ไหม ถ้าเผื่อว่าเกินไป ไม่ควรจะเป็นอย่างนั้น เราจะตกเป็นเหยื่อของการโฆษณา ยิ่งในสมัยปัจจุบันโลกของเราแคบลง ทุกอย่างสามารถที่จะหมุนเวียนและออกมาเป็นราคาเป็นค่าของเงินได้ทั้งนั้น เราก็จำเป็นจะต้องดูกันในส่วนนี้ให้รอบคอบ

 

 

 

เศรษฐกิจ

 

 

เงินบาทสัปดาห์นี้ มีโอกาสแข็งค่าขึ้นอีก หลังทำสถิติแข็งค่าที่สุดในรอบ 9 ปี

ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - ศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงานว่า ค่าเงินบาทในรอบสัปดาห์ที่แล้ว แข็งค่า ทำสถิติสูงสุดในรอบ 9 ปีครึ่งที่ระดับ 34.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากการไหลเข้าของเงินทุนจากต่างประเทศ แรงเทขายเงินดอลลาร์สหรัฐอย่างหนักของธนาคารต่างชาติ ตลอดจนความอ่อนแอของเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถูกกดดันต่อเนื่อง หลังจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.ของสหรัฐออกมาสร้างความผิดหวังให้กับตลาด

 

การแข็งค่าของเงินบาทยังเป็นไปในทิศทางเดียวกับสกุลเงินในภูมิภาคอีกด้วย ทั้งนี้ เงินบาทสามารถรักษาความแข็งแกร่งได้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งสัปดาห์ แม้ว่าจะมีแรงซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐที่ระดับประมาณ 34.62 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงกลางสัปดาห์ ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่า เป็นการแทรกแซงจากธนาคารแห่งประเทศไทยก็ตาม

 

ค่าเงินบาทในประเทศสัปดาห์นี้ มีโอกาสแข็งค่าขึ้นเช่นเดียวกับทิศทางของสกุลเงินภูมิภาค ท่ามกลางความไม่แน่นอนของแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐ โดยจุดสนใจของตลาดในสัปดาห์นี้จะอยู่ที่การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ เช่น ดัชนีราคาผู้บริโภคและตัวเลขภาคอสังหาริมทรัพย์ในเดือนเมษายน ผลสำรวจภาคการผลิตของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กและสาขาฟิลาเดลเฟีย และดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐ จัดทำโดยรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนในเดือน พ.ค.

 

ส่วนภาวะตลาดหุ้นในสัปดาห์ที่หน้า บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย และศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ดัชนีมีแนวโน้มแกว่งตัวในช่วงแคบ ขณะที่นักลงทุนคงจะให้ความสนใจการรายงานผลประกอบการไตรมาส1/50 ของบริษัทจดทะเบียนซึ่งจะมีการรายงานออกมาเป็นสัปดาห์สุดท้าย และมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล ซึ่งจะส่งผลต่อทิศทางของหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศ

 

ขณะที่การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นจะเริ่มตอบรับการคาดการณ์เกี่ยวกับการประชุมอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ ธปท.ในวันที่ 23 พฤษภาคม มากขึ้น ส่วนปัจจัยต่างประเทศ ได้แก่ การปรับตัวของตลาดหุ้นต่างประเทศและราคาน้ำมันในตลาดโลก

 

 

ปตท.เร่งสอบปั๊มขายแก๊สโซฮอล์สูงเกินจริงพบสั่งฟันเด็ดขาด

เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการร้องเรียนจากผู้ใช้รถยนต์ว่าได้เข้าไปเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 จากสถานีบริการน้ำมันปตท.ย่านลาดปลาเค้า กทม. พบว่ามีการตั้งราคาจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ถึง 29.19 บาทต่อลิตร ทั้งที่ราคาจริงควรอยู่ที่ 26.69 บาทต่อลิตรหลังจากมีการปรับราคาน้ำมันครั้งล่าสุด โดยในเรื่องนี้ทางปตท.จะเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะเดียวกันก็จะทำหนังสือถึงสถานีบริการน้ำมันปตท.ทั้ง 1,200 แห่งทั่วประเทศ มิให้มีพฤติกรรมดังกล่าว หากตรวจพบจะมีบทลงโทษ และผู้บริโภคสามารถแจ้งดำเนินคดีตามกฎหมายได้ด้วย อย่างไรก็ตามยอมรับว่าอาจมีบางกรณีที่สถานีบริการน้ำมันอาจสับสน เพราะหลายแห่งอยู่ระหว่างการเปลี่ยนถ่ายถังน้ำมันจากการจำหน่ายเบนซินมาเป็นแก๊สโซฮอล์

 

สำหรับยอดจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ หลังกระทรวงพลังงานสร้างกลไกราคาให้ต่ำกว่าเบนซิน 91, 95 ที่ 2.80-3.30 บาทต่อลิตรนั้น ก็พบว่ายอดขายไม่ขยายตัวมากนัก เพราะผู้ที่ยังใช้เบนซิน 95 ในขณะนี้ ส่วนใหญ่ใช้รถยนต์ราคาแพง และเป็นกลุ่มที่มีฐานะดี จึงไม่สนใจส่วนต่างราคา เพราะมีความรู้สึกไม่มั่นว่าใช้แก๊สโซฮอล์จะมีความปลอดภัยต่อเครื่องยนต์หรือไม่

 

"การใช้มาตรการราคามาช่วย ก็อาจจะเป็นดาบสองคม เพราะยิ่งทำให้คนกลุ่มนี้เชื่อมั่นว่าแก๊สโซฮอล์มีปัญหา รัฐจึงต้องใช้ราคาเข้ามาเป็นส่วนจูงใจ ซึ่งส่วนตัวคิดว่ามาตรการที่จะได้ผลในการชักจูงคนใช้แก๊สโซฮอล์ คือ ต้องให้ค่ายรถยนต์ออกมาตรการรับรองความปลอดภัยการใช้แก๊สโซฮอล์ หากรถเก่าที่ใช้แก๊สโซฮอล์ไม่ได้ ก็ควรจะเรียกคืน เพื่อให้ลูกค้าเกิดความสบายใจว่าสามารถใช้แก๊สโซฮอล์ได้ " นายวิทยา กล่าว

 

เขากล่าวต่อว่า รัฐบาลควรยกเลิกการขายเบนซิน 95 เพราะหากยังไม่ยกเลิก ก็จะเกิดปัญหาต่อเนื่องมาอีกมาก ทั้งยอดขายแก๊สโซฮอล์ไม่ขยับ เอทานอลล้นตลาด ขณะเดียวกันโรงกลั่นฯ และผู้ค้าน้ำมัน ก็ต้องรับภาระต้นทุนการค้าที่สูงขึ้นด้วย ในขณะเดียวกันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงก็ไม่สามารถเก็บเงินเข้ากองทุนฯ ได้เต็มที่

 

 

ธปท.ชี้ คนใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ

เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท.รายงานว่า ธุรกิจบัตรเครดิตไตรมาสแรกปีนี้ ซบเซาหนัก ยอดใช้จ่ายลดลงกว่า 3,000 ล้านบาท เช่นเดียวกับยอดสินเชื่อคงค้างทั้งระบบ ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งธนาคารไทย - สาขาต่างชาติและนอนแบงก์ เหตุประชาชนไม่เชื่อมั่นในภาวะเศรษฐกิจ ทำให้ระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น

 

อย่างไรก็ตาม คาดว่าแนวโน้มธุรกิจบัตรเครดิตปี 2550 น่าจะยังคงขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง แม้ผู้ประกอบการจะทำการตลาดอย่างหนักเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต แต่ผู้บริโภคยังคงมีความอ่อนไหวต่อแนวโน้มของเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอลงต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น

 

 

 

ต่างประเทศ

 

 

ไฟไหม้ภาพเหมาเจ๋อตุง ที่จตุรัสเทียนอันเหมิน

เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - พยาน 2 คนที่เห็นเหตุการณ์ระบุว่า เกิดไฟไหม้อย่างเป็นปริศนากับภาพขนาดใหญ่ของเหมา เจ๋อ ตุง ที่แขวนอยู่ที่จตุรัส เทียนอันเหมิน กลางกรุงปักกิ่งในวันนี้ นักการทูตรายหนึ่ง พร้อมกับช่างภาพอีกคนที่บังเอิญได้เห็นเหตุการณ์เปิดเผยกับสำนักข่าวตะวันตกว่า เกิดเปลวเพลิงขึ้นที่บริเวณด้านซ้ายของภาพ เมื่อช่วงบ่ายโดยพยานทั้งสอง บอกว่าพวกเขาไม่รู้ว่าทำไม และอย่างไร จึงเกิดเปลวไฟขึ้นที่รูปของเหมา

 

พวกเขาบอกว่าเห็นเปลวไฟ และควันสีดำที่บริเวณมุมด้านล่างของภาพ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจีนประมาณ 100 นายพยายามช่วยกันดับไฟ และกันประชาชนไม่ให้เข้ามาในบริเวณดังกล่าว ผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งบอกว่า เมื่อพวกเขาลงมาจากแท็กซี่ ตำรวจก็บอกให้พวกเขากลับออกไป และพวกเขาก็ไม่ได้เห็นตอนที่ไฟเริ่มลุก แต่เห็นว่าพื้นที่ประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ของภาพกลายเป็นสีดำ และเมื่อพวกเขากลับมาที่นี่ในอีก 10 นาทีถัดมา เจ้าหน้าที่ก็กำลังจัดการกับขี้เถ้าและกำลังทำความสะอาดภาพอยู่

 

ภาพต้นแบบของเหมาภาพนี้ ถูกเขียนขึ้นเมื่อปี 2493 โดยจิตรกร ชื่อ จาง เฉิน จี้ และต่อมามันก็กลายเป็นต้นแบบของภาพเหมา เจ๋อ ตุง ทุกภาพ ที่ถูกนำไปประดับตามอาคารโดยรอบจตุรัสแห่งนี้ เพื่อเป็นเกียรติกับผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อปี 2492

 

 

นายกไต้หวันประกาศลาออก

ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - นายซู เจิน ชาง นายกรัฐมนตรีไต้หวันวัย 60 ปี ประกาศลาออกจากตำแหน่งอย่างกะทันหัน หลังจากไม่ได้รับเลือกให้เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของไต้หวัน ในนามของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า หรือ DPP ในปีหน้า และกล่าวว่า เค้าเต็มใจจะสนับสนุนพรรค DPP อย่างอิสระจากตำแหน่ง ทั้งนี้ คำประกาศการลาออกดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่พรรคฝ่ายค้านพยายามขัดขวางร่างงบประมาณฉบับใหม่ของรัฐบาล

 

สำหรับผู้ได้รับการเลือกให้เป็นตัวแทนของพรรค DPP ในการชิงตำแหน่งประธานาธิบคนใหม่ของไต้หวัน คือ นายแฟรงก์ เซียะ ซึ่งได้รับเสียงสนับสนุนอย่างถล่มทลายในการลงมติไม่ถึง 1 สัปดาห์ ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีซูประกาศว่าจะลาออกจากตำแหน่ง เพื่อทุ่มเวลาให้กับการรณรงค์หาเสียง หากได้รับการแต่งตั้งจากพรรคให้เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ประธานาธิบดีเฉิน สุ่ยเปี่ยนก็สนับสนุนเค้าให้ลงสมัครเลือกตั้งในครั้งนี้

 

 

 

คุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม

 

 

น้ำท่วมขังพื้นที่เกษตรในเชียงใหม่ กว่าพันไร่แล้ว

กรมประชาสัมพันธ์ - เหตุฝนตกหนัก ส่งผลให้น้ำท่วมขังพื้นที่เกษตรในอำเภอแม่วาง อำเภอแม่แตงและกิ่งอำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ กว่าพันไร่แล้ว

 

 

นายประจญ ปรัชญ์สกุล ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ล่าสุดได้รับรายงานว่าพื้นที่ อำเภอแม่วาง อำเภอแม่แตง และกิ่งอำเภอดอยหล่อ มีน้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตร โดยตำบลแม่วิน ตำบลบ้านกาด ตำบลทุ่งปี้ และตำบลแม่วาง น้ำได้ท่วมพื้นที่การเกษตร ไร่ถั่วเหลือง 100 ไร่ ไร่ข้าวโพด 10 ไร่ และนาข้าวกว่า 10 ไร่ ส่วนที่ตำบลสันป่ายาง ตำบลขี้เหล็ก ตำบลบ้านช้างและตำบลสบเปิง อำเภอแม่แตง น้ำได้ท่วมพื้นที่เกษตรโดยเฉพาะไร่ถั่วเหลืองมีน้ำท่วมกินพื้นที่บริเวณกว้างกว่า 1,900 ไร่ นอกจากนี้น้ำยังได้ท่วมที่ตำบลสองแคว กิ่งอำเภอดอยหล่อด้วย

 

ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจ.เชียงใหม่ออกประกาศเตือนประชาชนและขอความร่วมมืออำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แจ้งเตือนประชาชนและเตรียมแผนอพยพหนีภัยในภาวะฉุกเฉินไว้ให้พร้อม

 

ขณะที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ ได้พยากรณ์อากาศช่วงระหว่างวันที่ 11-17 พฤษภาคมนี้ไว้ว่า ร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่ปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศ มีฝนตกชุกหนาแน่น โดยเฉพาะบริเวณด้านรับลมมรสุมหรือบริเวณภาคเหนือด้านตะวันตก ในระยะนี้ ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ส่วนผู้ที่ปลูกพืชในระยะนี้ควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่การเพาะปลูก เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง

 

 

เหยื่อเห็ดมรณะดับอีกศพร่อแร่ 3 ราย

เดลินิวส์ - นพ.นิวัติชัย สุจริตจันทร์ รอง ผอ.รพ.น่าน เปิดเผยว่า ผู้ป่วยจากการรับประทานเห็ดไข่ห่านขาวตีนตัน ซึ่งเป็นเห็ดมีพิษทำลายตับ ที่นอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.น่าน 7 ราย และขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว 3 ราย แต่ต้องดูอาการให้แน่ชัดอีกครั้ง จึงจะให้ไปพักฟื้นที่บ้านได้ ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการหนัก 4 รายนั้น ล่าสุดได้เสียชีวิตแล้ว 1 รายเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา คือนายสุข วงศ์อุด อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 บ้านผาคับ หมู่ 2 ต.บ่อเกลือใต้ อ.บ่อเกลือ จ.น่าน และนับเป็นรายแรกของ จ.น่าน ที่เสียชีวิตจากการกินเห็ดพิษในปี 50

 

นพ.นิวัติชัย กล่าวด้วยว่า ส่วนผู้ป่วยอีก 3 ราย ซึ่งมาจากหมู่บ้านเดียวกับของผู้เสียชีวิต มีอาการทรุดหนัก เกิดภาวะตับวาย แพทย์ต้องนำเข้ารักษาในห้องไอซียูและใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ตลอดเวลา โดยทางทีมแพทย์พยายามช่วยชีวิตอย่างเต็มที่ แต่ด้วยปริมาณพิษจากเห็ดที่ได้รับประทานเข้าไป เกิดภาวะทำให้ ตับถูกทำลายอย่างมากและคาดว่าจะเสียชีวิตทั้ง 3 ราย

 

รอง ผอ.รพ.น่าน กล่าวว่า ขอแจ้งเตือนประชาชนโดยเฉพาะที่อาศัยในพื้นที่ อ.ทุ่งช้าง อ.เชียงกลาง อ.ปัว และ อ.บ่อเกลือ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่พบเห็ดไข่ห่านขาวตีนตันเป็นจำนวนมาก จะต้องระวังในการรับประทานเห็ดอย่างมาก หรือถ้าไม่แน่ใจถึงความปลอดภัย ควรงดการบริโภคเห็ด รวมถึงประชาชนที่ต้องซื้อเห็ดตามท้องตลาดมารับประทาน จะต้องสอบถามแหล่งที่มาและชนิดของเห็ดให้แน่ชัดก่อนนำมารับประทาน และเพื่อความปลอดภัย ควรเลือกซื้อแต่เห็ดที่มา จากฟาร์มเพาะเห็ดเกษตรกรรมเท่านั้น