Skip to main content
sharethis





การเมือง


ปธ.คมช.ดันเต็มที่กม.มั่นคง "ชาติ"เหนือ"สิทธิ"


มติชน - ในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ในฐานะ ผอ.รมน.ระบุว่า ร่าง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายใน ราชอาณาจักร พ.ศ... ที่หลายฝ่ายมองว่าให้อำนาจ ผอ.รมน.มากเกินไปนั้น มีกรอบการใช้อยู่ จะใช้อำนาจตามอำเภอใจไม่ได้ เพราะมีนายกรัฐมนตรีและคณะทำงานเป็นกรอบอยู่ ดังนั้น จะต้องทำไปตามภายใต้กรอบของคณะกรรมการใหญ่



 


เมื่อถามว่า หลายฝ่ายห่วงใยเกรงว่าจะกระทบสิทธิมนุษยชน พล.อ.สนธิกล่าวว่า "เราต้องนึกผลประโยชน์ของชาติบ้านเมืองเป็นหลัก เรื่องอื่นไว้ทีหลัง" เมื่อถามว่า การมี พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวจะส่งผลดีต่อการบริหารงานความมั่นคง โดยเฉพาะการดูแลม็อบที่จะเกิดขึ้นในอนาคตหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า ความจริงแล้วเพิ่งได้อ่าน แต่ยังอ่านไม่ละเอียด แต่คิดว่าน่าจะดีขึ้น มันจะช่วยได้ในภาพรวมทั้งประเทศ



พล.อ.สนธิกล่าวว่า ไม่ทราบว่า สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะใช้เวลาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฉบันนี้นานเท่าใด เมื่อถามว่า อยากจะให้ สนช.ผ่าน 3 วาระรวดหรือไม่ เพื่อจะได้ดูแลกลุ่มม็อบต่างๆ พล.อ.สนธิกล่าวว่า ยังไม่ได้คิดจะต้องคุยกับ สนช.ก่อน ว่ามีกรอบของอำนาจได้แค่ไหน ซึ่งจะต้องศึกษาอีกนิดหนึ่ง เมื่อถามว่า ความจำเป็นที่จะต้องมี พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวคืออะไร เพราะขณะนี้มีทั้ง พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินและกฎอัยการศึกอยู่แล้ว พล.อ.สนธิกล่าวว่า มันต้องแยกกันและต่างระดับ มันอาจจะเหนือกว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินนิดหนึ่ง แต่อาจจะเล็กหรือน้อยกว่ากฎอัยการศึก



 


นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ อดีต ส.ว.นครราชสีมา กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้ให้อำนาจ ผอ.กอ.รมน.มากเกินไป ทันทีที่ประกาศบังคับใช้จะเกิดการลิดรอนสิทธิประชาชนทันที ควรจะกรองกันไหม เพราะกระทบกับเศรษฐกิจ สังคม สิทธิ และวิถีชีวิตคน เป็นการตัดตอนอำนาจโดยบุคคลคนเดียวคือ ผอ.รมน.สั่งการเลย



นายปณิธาน วัฒนายากร รองศาสตราจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การจะออกกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ถือเป็นเรื่องที่สอดคล้องกับประเทศที่จะต้องมีแผนแม่บท เพื่อแก้ไขปัญหาความมั่นคงสมัยใหม่ ถ้าไม่มีกฎหมายพวกนี้เลยจะเกิดช่องว่างทางความมั่นคง และหลายประเทศก็มีตามบริบทของประเทศตนเอง เพื่อรักษาเสถียรภาพภายใน



 


นายปณิธานกล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญที่ต้องขบคิดตามมาคือ ช่วงเวลาในการออกกฎหมาย จะออกช่วงไหน เพราะผู้พิจารณาคือ สนช.มาจากสายข้าราชการประจำ และทหาร ก็ไม่รู้ว่าหลักการและมาตรการในกฎหมายนี้จะเสียดุลหรือไม่ ถ้าอำนาจด้านความมั่นคงมากไปก็จะลิดรอนสิทธิประชาชน นอกจากนี้มาตรการต่างๆ ยังต้องเป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย มีการตรวจสอบการปฏิบัติจากฝ่ายศาล เช่น ข้อกำหนดเรื่องการขอหมายศาลหรือการลงโทษ และชดใช้ค่าเสียหายกรณีที่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.บ.นี้ผิดพลาดโดยเจตนา ซึ่งเป็นหลักสากลในการป้องกันการใช้อำนาจไม่ชอบธรรม



 


นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวว่า เนื้อหาของร่าง พ.ร.บ.ในหลายมาตราเข้าข่ายละเมิดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน เช่น การห้ามการชุมนุม การจับกุม คุมขังผู้ต้องสงสัยโดยไม่มีหมายศาล ยึดและอายัดทรัพย์สินผู้ต้องสงสัย เจ้าพนักงานที่ใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายนี้ไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่งและอาญาฯลฯ  แม้ว่าจะเห็นด้วยกับความจำเป็นในการรักษาความมั่นคงภายในประเทศและปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ แต่กองทัพไม่ควรฉวยโอกาสหรือลักไก่ผลักดันกฎหมายที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนมากเกินไป



 


"สนธิ"ท้าเปิดเทปลับ-เตือน"ม็อบไข่แม้ว"บุก บก.ทบ.เจ็บตัว


ผู้จัดการรายวัน - พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงกรณีที่แกนนำกลุ่มม็อบ"คนรักแม้ว" ที่สนามหลวง เตรียมแฉเทปลับ ที่อ้างว่า พล.อ.สนธิ เจรจาขอตำแหน่ง ผบ.ทบ. กับ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาเปิดที่ท้องสนามหลวง โดย พล.อ.สนธิ กล่าวว่า "โอ้โห ยอดเลย เอามาเลย ผมอยากฟัง"


        


 ผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่า เคยพูดขอตำแหน่ง ผบ.ทบ. กับ พ.ต.ท.ทักษิณ พล.อ.สนธิ กล่าวพร้อมหัวเราะ "ไม่มี ไม่มี ยืนยันผมมั่นใจตรงนี้"


 


วันเดียวกันนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ในฐานะผู้ช่วยเลขาธิการ คมช. กล่าวถึงมาตรการการรับมือกับกลุ่มผู้ชุมนุมในวันที่ 23 มิ.ย.นี้ว่า ต้องใช้การติดตามโดยดูสภาพทั่วๆไป พยายามไม่ให้เกิดความวุ่นวาย หรือความไม่เรียบร้อย และคิดว่าจะไม่ มีปัญหาบานปลาย เพราะว่าเราพยายามที่จะสื่อสารให้สาธารณชนให้ทราบว่า หนทางในการที่จะไปสู่ความสงบเรียบร้อยของประเทศชาติ มีชัดอยู่แล้ว คือจะต้องไปสู่การเลือกตั้ง และมีรัฐบาลใหม่ให้เร็วที่สุด และการใช้ความรุนแรงไม่ใช่หนทางที่เป็นทางออกของประเทศชาติ


        


สำหรับกลุ่มก่อกวนที่อาจจะทำให้เหตุการณ์วุ่นวายนั้น เราได้มีการติดตามดูพฤติกรรม และใช้การบันทึกหลักฐานไว้ ถ้าไม่กระทำผิดก็คงทำอะไรไม่ได้ แต่ถ้ามีการทำผิดกฎหมาย ก็ต้องดำเนินคดี เช่นเดียวกับกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ เราก็ได้เตรียมการรับมือไว้แล้ว แต่ว่ามาตรการหากเราทำ จะเกิดผลกระทบกับประชาชนแน่ๆ เพราะฉะนั้นอยากขอร้องกลุ่มมอเตอร์ไซค์ หรือประชาชนทั่วไปที่มาเดินขบวน อย่าก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อสังคม และขอเตือนไว้ว่า อย่าได้บุกเข้าใน บก.ทบ. เพราะจะเดือดร้อนต่อตนเอง


 


แนวร่วมนปก.คนใหม่ จรัล ดิษฐาอภิชัย


ไอ.เอ็น.เอ็น. - แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการนำโดย นายแพทย์เหวง  โตจิราการ แถลงข่าวเปิดตัว นายจรัล ดิษฐาอภิชัยกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นแนวร่วม นปก. โดย นายจรัล ชี้แจงเหตุผลการเป็นแนวร่วม เพราะต้องการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและเชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบต่อตำแหน่งหน้าที่ ขณะที่ นายแพทย์เหวง ระบุเตรียมเดินทางไปให้กำลังใจพลตรีฉลาด  วรฉัตร ที่หน้ารัฐสภา ในวันพรุ่งนี้ เพราะมีแนวคิดในการรวบรวมรายชื่อประชาชน เพื่อถวายฎีกาคัดค้านร่างพระราชบัญญัติรักษาความมั่นคงภายใน  นอกจากนี้ทางกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ เตรียมติดรายชื่อประชาชน 1 แสนชื่อในวันพรุ่งนี้ถึงวันที่ 24 มิถุนายน  เพื่อให้ประชาชนถอนชื่อได้เพื่อความโปร่งใส โดยในวันที่ 15 มิถุนายน จะนำรายชื่อไปยื่นที่สำนักราชเลขาธิการ สำนักพระราชวัง  โดยจะไม่เดินทางไปที่บ้านสี่เสาเทเวศร์  เพื่อหลีกเลี่ยงความรุนแรง


 


อาชญกรรมไฮเทคหนาว!  กม.คอมพ์ฯบังคับใช้/ แฮกเกอร์-ส่งภาพลามกเจอคุก


แนวหน้า -  มีรายงานข่าวจาก ทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ตามที่ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ได้ผ่านความเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดได้มีประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 124 ตอนที่27 กง ฉบับวันที่ 18 มิถุนายน 2550 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ



 


พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว มีทั้งหมด 30 มาตรา โดยในส่วนความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ได้มีการกำหนดความผิดไว้อย่างละเอียด ถึงการกระทำโดยมิชอบ ทั้งการเข้าถึงข้อมูล โดยไม่ได้รับอนุญาต(แฮกเกอร์) การดักรับข้อมูล การเผยแพร่ข้อมูลกระทบต่อความมั่นคง ศีลธรรมอันดี สร้างความหวาดวิตก ฯลฯ ล้วนเป็นความผิด ต้องได้รับโทษทั้งจำทั้งปรับแล้วแต่ฐานความผิด



 


แหล่งข่าว กล่าวด้วยว่า พ.ร.บ.คอมฯ ดังกล่าว จะทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความคล่องตัวในการดำเนินคดี ซึ่งที่ผ่านมา ไม่สามารถตั้งข้อหาเอาผิดต่อผู้กระทำผิดด้านคอมพิวเตอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการเผยแพร่ข้อมูล กระทบความมั่นคงของรัฐ หรือ การส่งข้อมูลจาบจ้าง หมิ่นเบื้องสูง รวมถึงการปลุกระดม เพื่อสร้างความวุ่นวาย ที่ผ่านมาทำได้เพียงแค่ปิดเวปไซต์แต่ต่อไปนี้จะสามารถเอาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้



 


สำหรับเนื้อหา อาทิ มาตรา 14 ระบุไว้ว่า ผู้ใดกระทำความผิดดังต่อไปนี้ต้องโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ได้แก่ 1. นำเข้าสู่ระบบคอมฯ ซึ่งข้อมูลคอมฯปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมฯอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน 2. นำเข้าสู่ระบบคอมฯ ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน 3. นำเข้าสู่ระบบ ซึ่งข้อมูลคอมฯใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา 4. นำเข้าสู่ระบบคอมฯ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมฯนั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ 5.เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลตามข้อ 1 ,2, 3, 4


 


ซีทีเอ็กซ์เจ๊ง!สุวรรณภูมิป่วน-สั่ง ทอท.ใช้คนทำงานแทน


ผู้จัดการรายวัน - พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานคณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยภายหลังการประชุมวานนี้ (21 มิ.ย.) ว่า ได้รับรายงานกรณีที่เครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด ซีทีเอ็กซ์ 9000 สนามบินสุวรรณภูมิมีปัญหาแล้ว ซึ่งได้สั่งการให้ฝ่ายบริหาร ทอท.เร่งตรวจสอบหาสาเหตุ และรายงานผลให้ทราบแล้ว พร้อมทั้งให้หาแนวทางป้องกันปัญหาในระยะยาวด้วย ถือว่าเกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัย และเป็นอุบัติเหตุในการปฏิบัติงาน


       


นางกัลยา ผกากรอง รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทอท.กล่าวว่า เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.50 เครื่องซีทีเอ็กซ์ มีปัญหาโดยเหลือที่ใช้งานได้เพียง 5 เครื่อง จากทั้งหมด 26 เครื่อง และช่วงเช้าวันที่ 21 มิ.ย.มีการแก้ไขให้ใช้งานได้เป็น 16 เครื่อง ทั้งนี้จากรายงานเบื้องต้น สาเหตุที่ทำให้เครื่องซีทีเอ็กซ์ใช้งานไม่ได้เนื่องจาก มีการเปลี่ยนอุปกรณ์ UPS อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบทำให้เที่ยวบินเกิดความล่าช้า หรือมีกระเป๋าของผู้โดยสารตกค้างแต่อย่างใด โดย ทอท.ได้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าโดยการใช้กำลังคนเข้ามาจัดการเป็นระบบ Manual แทน


         


 แหล่งข่าวจาก ทอท.กล่าวว่า สาเหตุที่แท้จริงของปัญหาที่เกิดขึ้นจะต้องรอให้เจ้าหน้าที่จากจีอีอินวิชั่นจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เดินทางเข้ามาตรวจสอบ และทาง ทอท.จะต้องดำเนินการตรวจสอบร่วมด้วยซึ่งความเห็นนั้นยังแตกต่างใน 2 ส่วน คือ เจ้าหน้าที่ของ ทอท.เชื่อว่าเกิดจากไวรัส ทำให้ระบบขัดข้องในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ที่ได้ตรวจสอบเรื่องนี้เชื่อว่าไม่ได้เกิดจากไวรัส เพราะซอฟต์แวร์ระบบการทำงานของซีทีเอ็กซ์เป็นระบบปิดและมีระบบการป้องกัน แต่มองว่าอาจมีการวางยาหรือมีเจตนาที่จะทำให้เกิดปัญหาเช่นนี้ขึ้น


         


ปลด"วุฒิพงษ์"พ้นทีโอที ชี้ไร้วุฒิภาวะ-หยาม รมต.


ผู้จัดการรายวัน - นายชิต เหล่าวัฒนา กรรมการบริษัท ทีโอที กล่าวภายหลังการประชุมบอร์ดเมื่อวานนี้ (21 มิ.ย.) ว่าที่ประชุมได้มีมติปลดนายวุฒิพงษ์ เพรียบจริยวัฒน์ ออกจากตำแหน่งกรรมการและรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ รวมถึงตำแหน่งประธานคณะกรรมการการจัดตั้งบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ เทเลคอมพูลโดยที่ประชุมมีมติแต่งตั้ง พ.อ.นที ศุกลรัตน์ กรรมการทีโอที เป็นรักษากรรมการผู้จัดการใหญ่ ทีโอที และแต่งตั้งนายกิตติ ตีรเศรษฐ กรรมการทีโอที เป็นประธานคณะทำงานเทเลคอมพูล แทนนายวุฒิพงษ์


         


สำหรับสาเหตุการปลดนายวุฒิพงษ์ ออกจากตำแหน่งนั้น นายชิต ให้เหตุผลว่าเป็นเพราะมีแนวทางการทำงานไม่สอดคล้องกับผู้บังคับบัญชา และมีการปฏิบัติตนไม่เหมาะสมต่อการเป็นรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ และตำแหน่งกรรมการบริษัท ที่ได้มีการแสดงออกทางวาจา หรือ ใช้ถ้อยคำที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ในแง่ที่ส่งผลกระทบอีกทั้งยังแสดงถึงความบกพร่องทางด้านบุคลิกภาพทางการบริหารงาน อย่างกรณี การใช้คำที่พาดพิงการทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที เกี่ยวกับโครงการเทเลคอมพูล การแจ้งผลการดำเนินกิจการทีโอทีต่อสาธารณะว่าในปัจจุบัน ทีโอทีอยู่ในสถานะที่เป็นลบ ดำเนินธุรกิจเป็นไปได้ลำบาก โดยการกระทำดังกล่าวขัดต่อระเบียบของคณะกรรมการ


ด้านนายวุฒิพงษ์ กล่าวว่า การปลดครั้งนี้ไม่รู้สึกโกรธหรืออาฆาต มาตรร้าย แต่รู้สึกเสียดายที่ไม่สามารถแก้ไขและพลิกฟื้นให้ทีโอทีดีขึ้นตามความตั้งใจ อย่างโครงการเทเลคอมพูลที่อยากเข้ามาดำเนินการตั้งแต่ก่อนเข้ามาทำหน้าที่เป็นบอร์ดทีโอทีมานานแล้ว แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นก็เข้าใจและชี้แจงให้ พล.อ.สพรั่ง ได้รับทราบรวมถึงทำความเข้าใจกับ รมว.ไอซีที


 


เวทีนปก.ร้อยเอ็ดล่ม "นิสิต-นิรันดร์"ต้องยุติหลังตร.แจ้งว่าเป็นพท.ประกาศกฏอัยการศึก


กรุงเทพธุรกิจ -  นายนิสิต สินธุไพร อดีตส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคไทยรักไทย ได้โทรศัพท์รายงานมายังเวทีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยฯ ที่ท้องสนามหลวงว่า ในวันนี้การชุมนุมของประชาชนที่ จ.ร้อยเอ็ด ได้เริ่มตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นมา แต่เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากถูกสกัดกั้นจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตั้งแต่ในระดับตำบล เทศบาล อำเภอ และจังหวัด ที่พยายามสกัดกั้นไม่ให้ประชาชนเข้าร่วมการชุมนุมในวันนี้ แต่ในที่สุดมีประชาชนสามารถหลุดรอดการสกัดกั้นออกมาร่วมชุมนุมได้จำนวนกว่า 1,000 คน


        


ล่าสุดตนและแกนนำที่จัดการชุมนุมที่ จ.ร้อยเอ็ด ได้ถูกผู้ว่าราชการจังหวัดและฝ่ายตำรวจ เข้าไปสอบถามถึงเจตนารมย์การจัดเวทีการชุมนุมในวันนี้ ซึ่งตนก็แจ้งเจตนารมย์ของพวกเราว่า เราเดินทางมาเรียกร้องประชาธิปไตย และขับไล่ระบอบเผด็จการ ในที่สุดทางฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐได้ปล่อยตัวออกมาโดยไม่มีการแจ้งข้อหาใดๆ


 


ส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ นายประเสริฐ บุญเรือง ได้แจ้งว่า การชุมนุมของจังหวัดกาฬสินธุ์ในวันนี้มีประชาชนเข้าร่วมหลายพันคน และพร้อมที่จะต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยร่วมกับเวทีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยฯที่ท้องสนามหลวงจนกว่าจะได้ประชาธิไตยกลับคืนมา


ตนขอยืนยันว่าประชาชนชาวจ.กาฬสินธุ์ พร้อมที่จะเดินทางเข้าร่วมชุมนุมที่ท้องสนามหลวงทุกเมื่อ โดยจะนำประชาชนที่รักประชาธิปไตยไม่น้อยกว่า 40,000 คนเดินทางเข้ามาร่วมเวทีที่ท้องสนามหลวงได้ทุกเมื่อ


 


ป.ป.ช.ปัดสอบ"สุรยุทธ์-ภริยา"ครอบครองที่ดินเขายายเที่ยง


ผู้จัดการออนไลน์ - นายกล้าณรงค์ จันทิก กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการร้องเรียนเรื่องครอบครองที่ดินเขายายเที่ยงว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติไม่รับพิจารณาเรื่องที่นายสุดชาย บุญไชย ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.เมื่อวันที่ 11 ม.ค.50 โดยกล่าวหาว่า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี พ.อ.หญิง ท่านผู้หญิงจิตรวดี จุลานนท์ ภริยา และ พล.อ.สุรฤทธิ์ จันทราทิพย์ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ กองทัพบก กรณีถือครองที่ดินบนเขายายเที่ยง ต.ตำบลคลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา โดยมิชอบ


 


"กรณีที่ไม่รับพิจารณาเรื่องดังกล่าว เพราะไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เนื่องจาก พล.อ.สุรยุทธ์ ได้พ้นจากการดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด ตั้งแต่ ปี 2546 ส่วน พ.อ.หญิง ท่านผู้หญิงจิตรวดี พ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ ตั้งแต่ ปี 2545 ดังนั้นข้อกล่าวหานายกฯ และท่านผู้หญิงในชั้นนี้หลุดไปแล้ว เพราะเกินกว่า 2 ปี ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย"กรรมการ ป.ป.ช. กล่าว


 






เศรษฐกิจ


"บาทแข็ง"ดันต้นทุนไทยพุ่ง  ขีดความสามารถพ่ายเวียดนาม-จีน


แนวหน้า - นายณัฐพล ณัฎฐสมบูรณ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เปิดเผยภายในงานสัมมนาเรื่อง "ค่าเงินบาทกับการปรับตัวของอุตสาหกรรมไท: แนวโน้มและผลกระทบ" ว่า สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) ได้วิเคราะห์ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นปี2549จนถึงปัจจุบัน โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 34.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯหรือแข็งค่าขึ้นกว่า 15.5% ซึ่งช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ได้สะท้อนให้เห็นว่าภาวะค่าเงินบาทมีอัตราแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันลดลงโดยเฉพาะเมื่อส่งออกสินค้าไปยังตลาดส่งออกหลักอย่างกลุ่มสหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา ทำให้สินค้าไทยมีราคาสูงกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ



 


ชี้เงินสะพัด4หมื่นล้านบาท  "จตุคาม"พยุงหลายธุรกิจ


แนวหน้า -  ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุกระแสจตุคามรามเทพ ส่งผลบวกหลายธุรกิจ โดยปีนี้คาดว่าจะมีเม็ดเงิน สะพัด 40,000 ล้านบาท ขณะที่แนวโน้มกระแสความนิยมยังคงมีต่อเนื่อง แต่จะไม่แรงเท่าปีนี้ เพราะผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น


 






ภาคใต้


"สุรยุทธ์"ปัดเจรจาโจรใต้-ถ้าคุยในฐานะคนไทยได้


ผู้จัดการรายวัน -- พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบกและประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ภารกิจหลักในการเดินทางไปครั้งนี้ คือ จะเชิญผู้บัญชาการกองกำลังในพื้นที่มาพูดคุยว่า มีปัญหาอุปสรรคในการทำงานด้านยุทธการที่จะต้องปรับแก้หรือไม่ เพราะขณะนี้มีความเป็นห่วงด้านยุทธการว่า ยุทธวิธีที่ดำเนินอยู่ในขณะนี้ เหตุใดจึงเกิดช่องว่าง


 


ด้าน พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับจากการปฏิบัติภารกิจที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และน่าน ถึงกรณีที่นายสะแปอิง บาซอ แกนนำกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ติดต่อขอเจรจาว่า นายสะแปอิง ยังไม่มีการติดต่อเข้ามา คงเป็นเพียงข่าวที่ปรากฏในสื่อ ตนยังไม่ได้รับการติดต่อโดยตรง แต่ยอมรับว่าภรรยาของนายสะแปอิง ได้เคยติดต่อมายังตนจริง แต่นานมาแล้วหรือประมาณเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยภรรยานายสะแปอิงได้เขียนจดหมายมาบอกถึงปัญหาที่เกิดขึ้น รวมถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร


 


ส่วนหลักการของรัฐบาลในเรื่องการเจรจายังเหมือนเดิมหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แนวทางของรัฐบาลคงบอกได้ว่าเป็นการยืนยันหลักการเดิมคือเปิดโอกาสในการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นระหว่างกัน คงไม่ได้ขอเจรจาในลักษณะมีฝ่ายหรือมีอะไรกัน แต่เป็นการพูดคุยกันในฐานะที่เป็นคนไทยด้วยกัน


 






คุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม


พระพยอมแจง"จตุคำ"ไม่ล้อเลียนจตุคาม


สำนักข่าวเนชั่น - พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่มีเจตนาที่ล้อเลียน หรือลบหลู่ องค์จตุคามรามเทพ  เพราะขนมคุกกี้ที่ทำขึ้นไม่มีส่วนไหนที่คล้ายคลึงกับองค์จตุคาม เพียงมีลักษณะทรงกลม และไม่ได้กล่าวหาหรือระบุชื่อเกจิอาจารย์องค์ใดให้เสื่อมเสีย พร้อมยืนยันว่ายังจะทำคุกกี้ "จตุคำ" ต่อไป   เชื่อว่าไม่น่าจะสร้างความแตกแยกระหว่างพระสงฆ์กับฆราวาสที่เลื่อมใสศรัทธาองค์จตุคาม


         


น้ำป่าจากเพชรบรูณ์หลากเข้าท่วมนาข้าว พิจิตรแล้ว


ไอ.เอ็น.เอ็น. - จากการที่เกิดพายุลมพัดแรงและมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาเพชรบรูณ์ไหลบ่า เข้าสู่จังหวัดพิจิตรแล้ว โดยเฉพาะ 4 ตำบลของอำเภอวังทรายพูน ต.หนองปลาไหลต.หนองพระ ต.หนองปล้อง ต.วังทรายพูน น้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบรูณ์ ได้ไหลเข้สู่ลำคลองห้วยตัดไม้ และเอ่อล้น-ลำคลองเข้าท่วมไร่นาและพื้นที่ทำการเกษตรเสียหายกว่า 5 พันไร่ โดยเฉพาะนาข้าวที่พึ่งหว่านต้องจมอยู่ใต้น้ำเสียหายและถ้าภายใน 1-2 วันนี้ ยังมีฝนตกลงมาอีก นาข้าวของเกษตรใน อำเภอวังทรายพูน ต้องได้รับความเสียหายจำนวนมาก


 






ต่างประเทศ


โพลล์ชี้มุสลิมอินโดฯกว่า 90%เชื่ออิสลามไม่ให้ใช้ความรุนแรง


ผู้จัดการออนไลน์ -  เอเจนซี - ผลสำรวจจัดทำโดยบริษัทอินโดบาโรมิเตอร์และสถาบันวาฮีดซึ่งเผยแพร่เมื่อวันนี้(21) ระบุว่า 93%ของชาวมุสลิมในอินโดนีเซียเชื่อว่าศาสนาอิสลามไม่อนุญาตให้ใช้ความรุนแรงและการก่อการร้ายโจมตีคนนอกศาสนาและโจมตีความชั่วร้าย


อย่างไรก็ดี โพลล์ระบุว่ายังมีคนบางกลุ่มที่อาจจะถูกชักจูงให้เข้าร่วมก่อเหตุรุนแรงโจมตีผู้อื่นโดยอ้างว่ากระทำไปเพื่อศาสนา นอกจากนี้ ชาวมุสลิมกว่าครึ่งมองว่าเหตุระเบิดฝีมือนักรบอิสลามมิสต์ยังคงเป็นภัยคุกคามต่อประเทศ


 


โพลล์ชิ้นนี้สำรวจความเห็นของชาวมุสลิมกว่า 1,000 คนจากทั่วอินโดนีเซีย เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา





       


 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net