Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

ในที่สุดรัฐบาลก็เตรียมประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 15 เขตพื้นที่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ระหว่างวันที่ 23-25 ตุลาคมนี้

ประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย จึงต้องเคารพสิทธิการชุมนุมของประชาชนอย่างสันติวิธีปราศจากอาวุธ และก็เป็นไปตามรัฐธรรมนูญฉบับอัปยศ 2550 ด้วย ไฉนรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่มักอ้างว่า ประชาชนสนับสนุน มิใช่อำมาตย์ กองทัพ พวกคลั่งชาติ หนุนหลัง จึงกล้าประกาศออกกฎหมายลิดรอนสิทธิเสรีภาพในสังคมประชาธิปไตย
 
รัฐบาลก็อ้างว่าคนเสื้อแดงจะไปทำให้การประชุมนี้ต้องเสียบรรยากาศ กลัวคนเสื้อแดงจะล้มการประชุม กระนั้นหรือ ?
 
ถามว่า ประชาชนทุกกลุ่ม มิเพียงคนเสื้อแดง มีสิทธิในการชุมนุมอย่างสันติวิธีหรือไม่? ในสังคมประชาธิปไตย รัฐบาลไม่มีสิทธิใช้อำนาจหยุดยั้งการชุมนุม มีแต่รัฐบาลอำนาจนิยมเผด็จการเท่านั้นที่กระทำอย่างนี้ แม้ว่าปากจะบอกว่า รักประชาธิปไตยก็ตาม
 
นักสื่อสารมวลชน นักวิชาการ ปัญญาชนทั้งหลาย ผู้อ้างว่า รักประชาธิปไตย จะเมินเฉยให้รัฐบาลใช้อำนาจในทางที่ไม่ชอบธรรมกระนั้นหรือ? หรือพวกท่านก็รักประชาธิปไตยเพียงลมปากเท่านั้นเอง
แล้วองค์กรสิทธิมนุษยชนทั้งหลายล่ะว่าไงบ้าง?
 
การลิดรอนสิทธิชุมนุมของประชาชน เป็นการทำลายสิทธิพื้นฐานในสังคมประชาธิปไตย และเป็นการบ่อนทำลายสิทธิมนุษยชน พวกท่านทราบกันดี ?
 
ผู้อ้างตัวว่านักสิทธิมนุษยชน กระทั่งสร้างประวัติศาสตร์ให้กับตนเองและองค์กรของท่านว่า รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เป็นรัฐประหารเพื่อประชาชน คราวนี้ท่านจะไม่ออกมาแถลงข่าวทางทีวีคัดค้าน พ.ร.บ.ความมั่นคงเลยหรือ? ในฐานะที่ท่านสังกัดองค์กรสิทธิมนุษยชนระดับสากล
 
ผู้อำนวยการสมาคมสิทธิเสรีภาพ ผู้ปีนป่ายกำแพงรัฐสภาร่วมกับคุณจอน อึ้งภากรณ์ เพื่อคัดค้าน พ.ร.บ.ฉบับนี้ ตอนนี้รัฐบาลอภิสทธิ์นำมาใช้จริงๆแล้ว จะว่าไงกัน ?
 
คงไม่ช้านักหรอก ที่จะได้เห็นผู้นำองค์กรสิทธิมนุษยชนเหล่านี้ออกมาให้ความเห็นว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้ลิดรอนสิทธิมนุษยชน รัฐบาลไม่ควรนำ พ.ร.บ.มาใช้
 
เพราะอย่างไรเสีย พวกเขาไม่ออกมาไม่ได้ ยังไงก็ต้องคัดค้านในฐานะนักสิทธิมนุษยชน พวกเขาต้องดูดีอยู่ตลอดกาล ไม่อย่างนั้นคนในแวดวงโดยเฉพาะแวดวงสากลจะสงสัยถึงบทบาทนักสิทธิมนุษยชนไทยกัน
 
แต่พวกเขาจะแสดงบทบาทพอเป็นน้ำจิ้มเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้พุ่งทวนธนูสกัดกั้นกฎหมายนี้อย่างจริงจังมากนัก
 
ทำไม? จึงคิดเช่นนั้น
 
ปกติ พวกเขาเป็นนักเคลื่อนไหว มีทั้งยุทธศาสตร์ยุทธวิธี มีความเจนจัดในการลงสนามรบ มีประสบการณ์กองโตในการคัดค้านนโยบาย กฎหมายต่างๆ ที่ไม่ชอบธรรม
 
พวกเขาจะวางจังหวะก้าว การเคลื่อนไหวประเด็นต่างๆ อย่างรอบด้านรัดกุม เพื่อหยุดยั้งความไม่ชอบธรรมต่างๆ อย่างเป็นกระบวน อย่างเป็นขบวน มีข่าวต่อสาธารณะอย่างต่อเนื่อง
 
พวกเขาจะประสานสื่อ หาช่องทางออกสนทนารายการสื่อ จัดการสัมมนา หาแนวร่วม รวมกลุ่มกันบุกไปทำเนียบรัฐบาลยื่นหนังสือคัดค้านต่อนายกรัฐมนตรี เผลอๆ ปีนทำเนียบด้วย
 
เพียงแต่งานนี้ ไม่ได้เป็นรัฐบาลที่พวกเขาจงเกลียดจงชัง พวกเขาจึงไร้แผนการที่ช่ำชอง พวกเขาจึงมีสองมาตรฐาน
 
งานนี้ พวกเขาคงเพียงออกมาไม่ให้องค์กรสิทธิมนุษยชนดูน่าเกลียดเท่านั้น คอยดูก็แล้วกัน
 
เพราะพวกเขากลัวเข้าทางเสื้อแดง
 
เพราะพวกเขากลัวเข้าทางทักษิณ
 
เพระพวกเขาเลือกทางรัฐบาลอภิสิทธิ์
 
เพราะพวกเขาเลือกทางอำมาตยาธิปไตย
 
เพราะพวกเขาไม่ได้ยึดมั่นประชาธิปไตย
 
มันเป็นเช่นนั้นเอง ตถาคต
 
ท่านนักสิทธิมนุษยชนทั้งหลายว่าไง?

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net