คณะที่ปรึกษา “รมต.สาทิตย์” ลงพื้นที่ตั้งโต๊ะหารือกับสมัชชาคนจนเขื่อนราษีไศล-หัวนา

 

6 ตุลาคม 2552 เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. คณะที่ปรึกษา นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและประธานการแก้ไขปัญหากลุ่มสมัชชาคนจน นำโดย นายสาธร วงศ์หนองเตย และนายภูเบศ จันทนิมิ พร้อมด้วยนายชัยพันธ์ ประภาสะวัติ ที่ปรึกษาสมัชชาคนจน รวมถึงนายอำเภอราษีไศล และเจ้าหน้าที่กรมชลประทาน ลงพื้นที่ตั้งโต๊ะหารือกับสมัชชาคนจน กรณีปัญหาเขื่อนราษีไศลและเขื่อนหัวนา กว่า 2,000 คน ที่ได้ตั้งหมู่บ้านคนจน ปักหลักชุมนุมเรียกร้องสิทธิในที่ดินทำกินและการแก้ปัญหาผลกระทบจากการสร้างเขื่อนทั้งสอง ที่ สันเขื่อนราษีไศล ต.หนองแค อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ มาได้เป็นเวลา 124 วันแล้ว ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 2552 ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ได้รับข้อเสนอจากกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อนำไปพิจารณาแก้ไขปัญหาต่อไป

บรรยากาศในที่ชุมนุมเป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่เวลา 13.00 น. ชาวบ้านมารวมตัวกันที่หน้าเวทีกลาง เพื่อรอพบคณะที่ปรึกษาฯ ได้มีการเปิดเวทีวัฒนธรรม ร้องรำทำเพลง เล่นหมอลำ รวมทั้งตกแต่งเวทีด้วยผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาชาวบ้าน อาทิเช่น เครื่องมือหาปลา, แอก ไถ และคราดเทียมควาย, เสื่อกก-ผือ, กระติบข้าว, กระด้ง, หวดนึ่งข้าว, เครื่องมือวิดน้ำขนาดเล็ก, ผ้าซิ่น เป็นต้น เพื่อแสดงออกถึงวิถีชีวิตที่ดำรงอยู่ด้วยการพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติในแถบลุ่มน้ำมูนตอนกลางบริเวณนี้

ต่อมาเวลาประมาณ 17.00 น. คณะที่ปรึกษาฯ เดินทางมาถึงเขื่อนราษีไศล และได้กล่าวปราศรัยกับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยนายสาธร วงศ์หนองเตย กล่าวว่า “รัฐบาลชุดนี้มีความห่วงใยความเดือดร้อนของประชาชน และก็ได้เปิดประตูทำเนียบให้ตัวแทนผู้เดือดร้อนกลุ่มต่างๆเข้าไปนำเสนอปัญหาและมีการประชุมร่วมกันมาแล้ว 2 รอบ โดยมีนายกรัฐมนตรีนั่งเป็นประธาน ซึ่งรัฐบาลไม่ละเลยการเมืองภาคประชาชน แต่ปัญหาต่างๆมีเยอะมากก็จะพยายามแก้ปัญหาให้ได้”

“ต้องยอมรับความจริงว่า ปัญหาสั่งสมมานานเหลือเกิน ก็ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและปรึกษาในคณะที่ปรึกษาฯ รวมถึงมีการหารือกับอ.ชัยพันธ์ ที่ปรึกษาสมัชชาคนจนด้วย ก็จะพยายามคลี่คลายและแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด ต่อไปนี้อาจจะมีการพาแกนนำไปแลกเปลี่ยนและให้ข้อมูลความทุกข์ร้อนของพี่น้องกับทางคณะที่ปรึกษาฯและนายกอภิสิทธิ์โดยตรง เพื่อให้การแก้ปัญหาประสบผลสำเร็จโดยเร็ว ซึ่งทางรัฐบาลชุดนี้คิดว่าวิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด คือการนั่งบนโต๊ะพูดคุยกัน ปรึกษาหารือร่วมกันทุกฝ่าย ซึ่งเมื่อได้พูดคุยกันทำความจริงให้ปรากฏ ทำให้ต่างฝ่ายต่างยอมถอยคนละก้าว หลายพื้นที่ที่มีความรุนแรงมากกว่านี้แต่ก็สามารถคลี่คลายไปด้วยดี”นายสาธร กล่าว

นายสาธร ทิ้งท้ายว่า “โดยหลักกฎหมายก็มีอยู่แต่ก็ต้องนำความจริงของพี่น้องประชาชนมาร่วมพิจารณาด้วย และจะพยายามคลี่คลายความเดือดร้อนทุกข์ใจของประชาชนให้ดีที่สุด ซึ่งประเทศไทยเราน่าอยู่ที่สุด มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ รัฐบาลก็พยายามทำความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนให้มากที่สุดและขอขอบคุณพี่น้องที่ให้โอกาสมาพบปะและหารือการแก้ไขปัญหาในวันนี้”

ด้านนายภูเบศ จันทนิมิ กล่าวเสริมว่า “ขอยืนยันว่า รัฐบาลนายกอภิสิทธ์ ไม่เคยทอดทิ้งพี่น้อง ตรงไหนทำได้ พิสูจน์ได้ว่าเป็นปัญหาของพี่น้อง ที่ได้รับความเดือดร้อนจากโครงการของรัฐบาลไม่ว่าชุดใด ก็จะไม่เพิกเฉย ซึ่งคนที่ได้รับความเดือดร้อน ถ้ามีการพิสูจน์ว่าเป็นความจริง อีกไม่นานทุกปัญหาต้องได้รับการแก้ไข”

หลังการพูดคุยพบปะกับชาวบ้านจบลง คณะที่ปรึกษาฯได้เปิดโต๊ะปรึกษาหารือกับแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมและกรมชลประทานเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง ซึ่งทางสมัชชาคนจนได้มีข้อเสนอต่อคณะที่ปรึกษาดังนี้

เขื่อนหัวนา

   1.หยุดการดำเนินการเร่งรัดปิดเขื่อนหัวนา จนกว่าการแก้ไขปัญหาทุกอย่างจะแล้วเสร็จ
   2.จัดให้มีวงปรึกษาหารือเรื่องระดับน้ำ และราคาค่าชดเชยที่ดินที่ได้รับผลกระทบจากเขื่อนหัวนา โดยมีองค์ประกอบในการประชุมที่สามารถตัดสินใจได้
   3.การศึกษาผลกระทบต้องมีการตรวจสอบแผนติดตามและดูข้อมูลที่แก้ไขแล้วร่วมกันระหว่าง สมัชชาคนจนและกรมชลประทาน ก่อนนำเข้าคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา

เขื่อนราษีไศล
   1.กรณีการชดเชยที่ดิน เมื่อมีการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม  2552 นี้แล้ว ให้เร่งนำผลการตรวจสอบที่ดินเข้า ครม. โดยเร็ว
   2.กรณีราษฎรที่ได้รับผลกระทบจริงจากการกักเก็บน้ำของเขื่อนราษีไศลที่มีนาอยู่เหนือระดับน้ำ 119 ม.รทก.ให้มีกระบวนการตรวจสอบที่ดินของผู้เดือดร้อนเหนือระดับ +119 ม.รทก.ตามกระบวนการตรวจสอบและแก้ปัญหาผลกระทบที่ดำเนินมาแล้ว
   3.กรณีแปลงที่ดินของราษฎรเกิดการทับซ้อน ให้เร่งรัดกระบวนการทำงานการคำนวณพื้นที่-อ่านแปล และนำเข้าคณะทำงานอุทธรณ์
   4.การศึกษาผลกระทบทางสังคม
-ให้เรียกประชุมคณะกรรมการศึกษาผลกระทบเพื่อพิจารณารายงานฉบับสมบูรณ์ และพิจารณาข้อเสนอมาตรการและแผนปฏิบัติการในรายงานเพื่อให้มีการปฏิบัติจริง
-ให้นำผลการศึกษาและแผนปฏิบัติการที่คณะกรรมการศึกษาเห็นชอบเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติแผนและงบประมาณในการดำเนินการตามแผนต่อไป

ซึ่งทางคณะที่ปรึกษาฯก็ได้รับข้อเสนอของกลุ่มผู้ชุมนุมไปนำเสนอต่อนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย เพื่อพิจารณาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อไป แต่หากมีข้อติดขัดประการใด ก็จะนำเรื่องกลับมาให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องพูดคุยหาข้อตกลงอีกครั้ง รวมทั้งเสนอให้ทุกฝ่ายปรึกษาหารือและร่วมมือกันแก้ไขปัญหาด้วยเหตุด้วยผล

จากนั้นตัวแทนสมัชชาคนจนได้มอบกระติบข้าวเหนียวสานจากต้นกก เป็นที่ระลึกแก่คณะทำงานที่ปรึกษาฯ นายอำเภอราษีไศล และเจ้าหน้าที่กรมชลประทาน ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินทางกลับในเวลาประมาณ 19.30 น.

ภายหลังนางผา กองธรรม แกนนำชาวบ้าน เผยว่า “วันนี้เป็นนิมิตหมายที่ดี ที่คณะที่ปรึกษาได้มาพบปะพี่น้อง นอกจากนี้นายอำเภอราษีไศลคนใหม่ก็มาด้วยก็มา คนใหญ่คนโตมาเห็นคนน้อย ซึ่งต่อมาจะทำให้ทำงานราบรื่นขึ้น กรมชลประทานก็รับปากว่าจะทำอะไรก็จะมาปรึกษาหารือกับเราก่อน ซึ่งทางเราก็เสนอเพิ่มเติมไปว่าว่าอยากให้นายกรัฐมนตรีมาเยี่ยมเยียนและรับฟังปัญหาของพี่น้องที่นี่ด้วยตนเอง ให้ได้มาเห็นสภาพที่เป็นจริง เพื่อการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง”

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท