ฝ่ายประชาธิปไตย พรรคการเมือง และชนชั้นนำ: ข้อคิดเห็นบางประการ

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
 
 
อ่านความเคลื่อนไหวทางการเมืองช่วงนี้แล้วรู้สึกว่าผมต้องออกความคิดอะไรบางอย่าง ความคิดที่ว่านั่นก็คือฝ่ายประชาธิปไตยจะต้องทบทวนความสัมพันธ์ของตนเองกับพรรคการเมืองและชนชั้นนำเสียใหม่..
 
คำว่า “ฝ่ายประชาธิปไตย” ของผมในที่นี้หมายถึงคนที่ลุกขึ้นมาเพื่อต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมในทางการเมือง สิทธิ เสรีภาพ รวมไปถึงการเรียกร้องให้เกิดประชาธิปไตยในประเทศทั้งระบบ ขจัดความไร้มาตรฐานในทางการเมือง บังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งในขณะนี้เป็นใครไม่ได้เลยนอกจากขบวน “แดง” ที่เรียกร้องสิ่งเหล่านี้อย่างจริงจัง (ซึ่งผมจะไม่กล่าวถึงข้อบกพร่องในขบวนให้เสียเวลาเพราะก็มองเห็นกันอยู่มากมาย) ..
 
หลังราชประสงค์แตกเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 เป็นต้นมา คนเสื้อแดงเคียดแค้นชิงชังรัฐบาลไปทั่ว รัฐบาลเองก็รู้ว่าตนเองทำอะไรลงไปเมื่อตอนสลายประชาชน ใครยิงใครผมคิดว่าพวกเราต่างรู้กันดีในระดับปรากฏการณ์และตามแต่ละทัศนคติของตนเอง ..
 
2-3 วันที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์อันถือว่าเป็นแกนนำพรรครัฐบาลได้ออกแผนปรองดองระหว่างพรรคการเมืองด้วยกัน ซึ่งมุ่งเป้าไปที่พรรคเพื่อไทย แผนปรองดองดังกล่าวมีหัวใจหลักสำคัญก็คือความต้องการจับมือกันระหว่างพรรคการเมืองเพื่อไปสู่ความปรองดองสมานฉันท์แห่งชาติ โดยเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2553 ปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ว่ามีแนวทางปรองดองที่สอดรับกับรัฐบาลท่ามกลางเสียงคัดค้านระงมจาก สส. ภายในพรรคและสมาชิกพรรคเพื่อไทยว่าการออกแถลงการณ์ดังกล่าวจะทำให้เสียแนวร่วมจากมวลชนเสื้อแดงอันถือว่าเป็นฐานเสียงที่สำคัญที่สุดของพรรคแต่รองหัวหน้าพรรคกลับยืนยันว่าได้พูดคุยกับ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” แล้ว แต่ในที่สุด พรรคเพื่อไทยก็มีท่าทีว่าขอปรองดองกับรัฐบาลโดยได้ออกแถลงการณ์ 5 ข้อสนับสนุนแผนการดังกล่าว .."
 
ใครที่ไม่ค่อยติดตามการเมืองก็ยังรู้เลยว่าความสัมพันธ์ระหว่างคนเสื้อแดงกับตระกูลชินวัตรที่มี ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ที่มีบทบาทอย่างสูงต่อขบวนเสื้อแดงนั้นแนบแน่นเพียงใด ..
 
การเคลื่อนไหวของรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความคิดและท่าทีของ ทักษิณ ชินวัตร ที่มีต่อสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ ผมเดาของผมเองว่าคุณทักษิณคงประเมินอะไรออกหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมของชนชั้นนำของฝ่ายการเมืองที่ต้องการ “ปรองดอง” กันเองเพราะสถานการณ์เฉพาะหน้าเรื่องเลือกตั้งและการ “ต่อรอง” ..
 
หลายอย่างที่ผมพอรู้มาคร่าวๆ ก็คือ การต่อสู้โดยแนวทางมวลชนของเสื้อแดงประสบความพ่ายแพ้หลายต่อหลายครา ในระหว่างทางที่พ่ายแพ้ก็ย่อมต้องมีสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นเพื่อเป็นข้อเสนอและข้อต่อรองระหว่างชนชั้นนำด้วยกัน มิพักต้องพูดถึงสถาบันที่อยู่สูงกว่านั้นมีความสลับซับซ้อนที่พวกเราไม่เคยรู้ เกมการเมืองครานี้จึงเปรียบเสมือนการเล่นซ่อนหาท่ามกลางแดนประหารของแต่ละฝ่ายที่ต้องการจัดการกับผู้ที่พ่ายแพ้ออกไปจากเกม ..
 
ชนชั้นนำของแต่ละฝ่ายจึงต้องการจับมือกันชั่วคราวเพื่อผลประโยชน์ข้างหน้า ในที่นี้ก็คือการเลือกตั้งใหญ่ทั่วไปที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกปีกว่าๆ นี้ ..
 
ผมกลัวว่าสิ่งที่เขากำลังจะเฉดหัวทิ้งก็คือพี่น้องที่ออกมาต่อสู้ในทางการเมืองครับ ..
 
การบาดเจ็บล้มตายถูกคำนวณออกมาเป็นสมการการต่อรองทางการเมืองอันไร้น้ำหนักยิ่ง “แกนนำ” บางคนเชื่อว่าคนเสื้อแดงตายเพื่อประชาธิปไตยแล้วจะได้ “ราคา” ต่อรองกับ “เจ้ามือ” และ “ขาประจำวง” ..
 
แต่อนิจจา..เขาถูกเจ้ากินเรียบรอบวงในครั้งนี้ ส่วนขาประจำวงก็ได้บ้างเสียบ้างคละกันไป.. 
 
พี่น้องที่รักประชาธิปไตยออกมาต่อสู้เรียกร้องบนท้องถนนต้องถูกยกย่องเชิดชูจิตใจว่าพวกเขามีอุดมการณ์ที่เข้มแข็ง ไม่มีสิ่งอื่นใดที่เขาต้องการมากไปกว่าความยุติธรรมและประชาธิปไตย แต่แกนนำ ชนชั้นนำ และฝ่ายการเมืองทั้งหลายที่เป็นแนวร่วมของขบวนก็ย่อมต้องการผลประโยชน์จากการต่อสู้ของพี่น้องประชาชนทุกครั้ง (และทุกสี) ..
 
เมื่อใดที่ฝ่ายประชาธิปไตยต่อสู้ได้รับชัยชนะ คนที่เข้าไปเสวยสุขก็คือนักการเมืองและชนชั้นนำในทางการเมือง นี่เป็นสิ่งที่เป็นธรรมชาติที่สุดก็จริง แต่ผมต้องการชี้ให้เห็นว่าการต่อสู้ของพี่น้องประชาชนจะต้องไม่ถูกหักหลังจากบุคคลที่เขาอุ้มชู พวกเขาเชื่อมั่นในตัวตนของผู้คนเหล่านั้น พวกเขาสู้เพื่อประชาธิปไตยที่พวกเขาต้องการกำหนดชีวิตของตนเอง กำหนดตัวแทนของตนเองในสภาฯ กำหนดนโยบายของตนเองภายใต้พรรคการเมืองที่เขาเลือก รวมไปถึง “กำหนดอุดมการณ์ประชาธิปไตย” ที่มีประชาชนเป็นเจ้าของประเทศหรืออันเป็น “ระบอบประชาธิปไตยอันมีประชาชนเป็นเจ้าของประเทศ” ..
 
การกระทำของพรรคเพื่อไทยอันมีมวลชนแดงสนับสนุนเป็นจำนวนมากต้องคำนึงถึงจิตใจของผู้ที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย มิใช่พอเห็นว่าฝ่ายประชาธิปไตยทำท่าจะพ่ายแพ้ในแนวทางมวลชนแล้วตนเองจะปฏิเสธขบวนไปจับมือกับศักดินาเพื่อมุ่งผลประโยชน์เฉพาะหน้า ..
 
แบบนี้เป็นการกระทำที่ไร้ซึ่งความสำนึกต่อการต่อสู้ของประชาชนนะครับ ..
 
วันนี้ ฝ่ายประชาธิปไตยจะต้องทบทวนความสัมพันธ์ของตนเองกับพรรคการเมืองและชนชั้นนำทางการเมืองเสียใหม่ สิ่งที่เสื้อแดงทำได้ก็คือต้อง “สถาปนาสถาบันแดง” ขึ้นมาให้ได้ อันจะเป็นตัวจุดประกายให้แก่การต่อสู้และการบีบบังคับพรรคการเมืองที่มีฐานของคนเสื้อแดงทำตามที่ขบวนเรียกร้อง ชนชั้นนำจะไม่สามารถปฏิเสธความยินยอมพร้อมใจของมวลชนฐานรากที่พวกเขายืนอยู่ได้หากฐานรากในทางการเมืองเข้มแข็งด้วยตนเอง คิดอะไรได้ด้วยตนเอง กำหนดอุดการณ์ประชาธิปไตยของตนเองได้.. 
 
ที่ผมกล้าพูดเช่นนี้ก็เพราะว่ามวลชนแดงที่เราเห็นๆ กันนั้นมีความคิดความอ่านที่ไปไกลมากมายกว่าที่เราสัมผัสจากภายนอก คำว่าไปไกลไม่ใช่เรื่องของการล้มเจ้าล้มสถาบันพระมหากษัตริย์แต่เป็นเรื่องของการสถาปนารัฐไทยที่มีประชาชนเป็นเจ้าของประเทศ คนเสื้อแดงต้องการจัดวางความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนและรัฐขึ้นมาใหม่ภายใต้อุดมการณ์ประชาธิปไตย ..
 
ประชาธิปไตยที่ทุกคนต้อง “เท่าเทียมกัน” 
 
พรรคเพื่อไทยและคุณ ทักษิณ ชินวัตร ต้องเลิกคิดว่าประชาชนเป็นเครื่องมือได้แล้วครับ .. 
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท