ศาลปกครองกลาง สั่ง 'อสมท.' จ่าย ‘บ.ไร่ส้ม’ ที่ ‘สรยุทธ’ พิธีกรชื่อดังเป็นปธ.กรรมการ 55.7 ล้าน คดีโฆษณาเกินเวลา ทนาย 'ไร่ส้ม' เผยเตรียมคุยบริษัทฯอีกครั้งจะยื่นอุทธรณ์ต่อหรือไม่ จากฟ้องคดีเรียกค่าเสียหายเต็ม 100 ล้าน
25 ก.ย.56 คมชัดลึกออนไลน์ รายงาน 13.30 น. นายสุชาติ ศรีวรกรตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง เจ้าของสำนวนมีคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ 1141/2551 ที่บริษัท ไร่ส้ม จำกัด ซึ่งมีนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรและผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ชื่อดังเป็นประธานกรรมการ ยื่นฟ้องบริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นคู่สัญญาผลิตรายการโทรทัศน์ "คุยคุ้ยข่าว" ออกอากาศทางช่อง 9 อสมท. หรือสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนท์ กรณีเรียกเก็บค่าโฆษณาส่วนเกิน โดยไม่ให้ส่วนลดทางการค้า 30% ตามข้อสัญญา และค่าโฆษณาที่ บมจ.อสมท.ได้โฆษณาเกินส่วนแบ่งตามเวลาที่ตกลงไว้ไทม์แชร์ลิ่่งสัดส่วน 50/50 โดยวันนี้ทั้ง 2 ฝ่าย มีเพียงผู้รับมอบอำนาจ เดินทางมาศาลฟังคำพิพากษา
ขณะที่องค์คณะพิจารณาข้อเท็จจริงประกอบข้อสัญญาและกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว เห็นว่า บ.ไร่ส้มได้ทำการโฆษณาเกินเวลาจริงในปี 2548-2549 และ บมจ.อสมท. ได้มีหนังสือวันที่ 20 ต.ค.2549 แจ้งให้ บ.ไร่ส้ม ชำระเงิน 138,790,000 บาทโดยไม่พิจารณาให้หักลด 30 % ตามข้อตกลงในสัญญา เพราะบ.ไร่ส้มไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงในการขอโฆษณาส่วนที่เกินเวลา ซึ่งในการเรียกชำระเงินนั้น บ.ไร่ส้ม ได้ยินยอมชำระเงินดังกล่าวไปแล้ว แต่ภายหลังเห็นว่าควรได้รับส่วนลด 30 % เพราะตามวิธีปฏิบัติคือให้มีการโฆษณาไปก่อนแล้ว บมจ.อสมท.จะแจ้งให้ บ.ไร่ส้ม ซื้อเวลาที่เกินในภายหลัง ดังนั้น บ.ไร่ส้ม จึงมีหนังสือวันที่ 1 ก.พ.2551 ขอเงินคืนในส่วนที่หักลด
ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ก่อนที่จะแพร่ภาพออกอากาศแต่ละครั้ง บ.ไร่ส้มได้ส่งใบคิวโฆษณาที่ระบุรายละเอียดผลิตภัณฑ์จำนวนเวลาโฆษณาอย่างละเอียดให้ บมจ.อสมท.ทราบล่วงหน้าเพื่อจะตรวจสอบให้ความเห็นชอบการโฆษณา แต่เมื่อพบว่ามีรายการโฆษณาเกินเวลา เจ้าหน้าที่ อสมท.ก็ต้องตรวจสอบว่ามีเวลาว่างพอให้โฆษณาได้หรือไม่ แต่กลับปรากฏว่า บมจ.อสมท.ได้ให้แพร่ภาพส่วนที่เกินเวลาแล้วไม่ได้โต้แย้งทักท้วงว่า บ.ไร่ส้ม ทำไม่ถูกต้องตามข้อตกลง และยังปรากฏอีกว่า บ.ไร่ส้ม เคยมีหนังสือขอซื้อเวลาโฆษณาส่วนเกินในเดือน มี.ค.2548 รวม 8 วันพร้อมขอส่วนลด 30 % โดยการที่ บมจ.อสมท.เคยให้ต้องแจ้งรายละเอียดล่วงหน้า ก็ไม่ได้กำหนดชัดเจนว่าต้องล่วงหน้านานเท่าใด แจ้งกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายใด คนใด
อีกทั้งการจัดคิวและควบคุมเวลาโฆษณาก็เป็นเจ้าหน้าที่ของ อสมท.ทั้งหมดที่จะควบคุมไม่ให้มีการโฆษณาเกินเวลา ดังนั้น จึงยากที่ บ.ไร่ส้มจะปกปิดคิวโฆษณาที่เกินโดยไม่ยื่นใบคิวแจ้งล่วงหน้าตามที่ อสมท.กล่าวอ้าง และถือว่าเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ทั้งหมดและระบบงานของ บมจ.อสมท.เอง ที่ไม่ควบคุมตรวจสอบและเรียกเก็บเงินจาก บ.ไร่ส้ม ชำระค่าโฆษณาส่วนเกิน ภายในกำหนดเวลาตามระเบียบปฏิบัติของ บมจ.อสมท.
ตุลาการเสียงข้างมาก จึงพิพากษาให้ บ.อสมท. คืนเงินค่าโฆษณาส่วนเกิน ที่ได้หักส่วนลด 30 %ตามสัญญา ในช่วงเดือนม.ค.-มิ.ย. ปี 2548 และ ปี2549 และวันที่ 14 ก.ค.49 ให้ บ.ไร่ส้ม รวมเป็นเงินจำนวน 55,523,763.38 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี
นอกจากนี้ยังปรากฏข้อเท็จจริงว่า อสมท. ก็ได้ทำการโฆษณล้ำไปในเวลาโฆษณาของบ.ไร่ส้มอีก 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 18-21 ธ.ค.2549 รวมเวลา 1.15 วินาที ซึ่งตามสัญญาจะต้องให้ที่โฆษณาล้ำเวลาต้องชดใช้เงิน 253,255.76 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี รวมเงินที่ อสมท. จะต้องจ่ายคืนให้บริษัทไร่ส้มทั้งสิ้น 55,777,019.14 บาท โดยให้ชำระเงินทั้งหมดภายใน 90 วัน หลังจากคดีถึงที่สุด
ทนาย 'ไร่ส้ม' เผยเตรียมคุยบริษัทฯอีกครั้งจะยื่นอุทธรณ์ต่อหรือไม่
ด้านนายมนต์อนันต์ เรืองจรัส ทนายความบริษัทไร่ส้ม ระบุว่าคำพิพากษาเป็นไปตามคำฟ้องที่ขอให้ อสมท.คืนเงินส่วนลดทางการค้า แต่ในส่วนที่ศาลพิพากษาให้อสมท. คืนเงินค่าโฆษณาส่วนที่ล้ำไปในเวลาของบริษัทไร่ส้มนั้นเห็นว่าศาลพิจารณาเฉพาะส่วนที่ อสมท. ได้โฆษณาเกินแต่ไม่ได้พิจารณาในหลักการแบบไทม์แชร์ลิ่ง ที่มีการแบ่งเวลาโฆษณาเท่ากันแบบ 50 ต่อ 50 เช่นหากมีเวลาโฆษณา 10 นาที จะแบ่งคนละ 5 นาที ซึ่งขณะฟ้องคดีนี้ได้เรียกค่าเสียหายเต็มจำนวนเวลารวมแล้วกว่า 100 ล้านบาท ดังนั้นจะต้องกลับไปพิจารณาร่วมกับบริษัทไร่ส้มในประเด็นนี้อีกครั้งว่าจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่