Skip to main content
sharethis

ฮิวแมนไรท์วอชท์เรียกร้องรัฐบาลทหาร ยกเลิกการดำเนินคดี 11 นักศึกษาซึ่งทำกิจกรรมรำลึกเหตุการณ์ 1 ปีรัฐประหาร  ห่วงการใช้ความรุนแรงจัดการการชุมนุมโดยสงบและการที่พลเรือนขึ้นศาลทหาร


22 พ.ค.2558 เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบนักกิจกรรมนักศึกษาหน้าหอศิลปฯ กรุงเทพฯ (แฟ้มภาพ: ประชาไท)


5 มิ.ย. 2558  ฮิวแมนไรท์วอชท์ ออกแถลงการณ์ถึงรัฐบาลไทย เรียกร้องให้ยกเลิกการดำเนินคดีทางกฎหมายต่อ 11 นักศึกษาที่แสดงออกต้านรัฐประหารอย่างสงบ ฮิวแมนไรท์วอชท์ ระบุว่า เมื่อวันที่ 22 พ.ค. มีการจับกุมนักกิจกรรม 40 กว่าคนที่ทำกิจกรรมรำลึก 1 ปีรัฐประหารอย่างสงบ ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และพื้นที่อื่นๆ ซึ่งถือว่าเป็นการปราบปรามต่อผู้ไม่เห็นด้วยครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่รัฐบาลทหารเข้ายึดอำนาจเมื่อพฤษภาคม 2557

ทั้งนี้ กลุ่มนักกิจกรรมที่กรุงเทพฯ ได้รับการปล่อยตัวในเช้าวันถัดมา (23 พ.ค.) โดยไม่มีการตั้งข้อหา ขณะที่นักศึกษาที่ขอนแก่น ได้รับการปล่อยตัวในเช้าวันเดียวกัน โดยถูกตั้งข้อหาฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.  

นายแบรด อดัม ผู้อำนวยการ องค์กร ฮิวแมนไรท์วอชท์ประจำเอเชีย ให้ความเห็นว่าการดำเนินคดีนักศึกษาในรอบนี้ แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลทหารนั้นไม่ได้มีความตั้งใจจะผ่อนกฎหมายที่กดขี่ประชาชนลงเลย การปิดกั้นการประท้วงเป็นการเย้ยเยาะคำสัญญาที่ว่าจะคืนประชาธิปไตยสู่สังคมของรัฐบาลทหาร

นักศึกษาทั้งหมด 11 คนที่ได้รับหมายเรียก เป็นนักศึกษา 4 คนที่จัดกิจกรรมในกรุงเทพฯ และอีก 7 คนเป็นนักศึกษาที่จัดกิจกรรมในขอนแก่น โดยถูกตั้งข้อหาในการชุมนุมเกินหน้าคน และจะถูกเรียกรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันที่ 8 มิ.ย. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยนักศึกษาทั้งหมดจะต้องถูกสอบสวนในศาลทหาร และอาจจะถูกจำคุกหนึ่งปีและปรับเป็นเงินจำนวน 20,000 บาท

ฮิวแมนไรท์วอชท์ ระบุว่า ฮิวแมนไรท์วอชท์ ร่วมกับนักข่าว ทนาย และองค์กรสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ได้เป็นพยานของเหตุการณ์วันที่ 22 พ.ค.ที่หน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร  โดยได้เห็นทหารนอกเครื่องแบบและเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายนักกิจกรรมนักศึกษาระหว่างที่พวกเขากำลังทำกิจกรรมอย่างสงบ มีการเตะ ตบ ตีพวกเขา ทั้งที่ไม่มีการกระทำยั่วยุใดๆ มีการอุ้มตัวนักศึกษาออกจากบริเวณและโยนลงบนพื้น รวมถึงกระชากผมและลากออกจากบริเวณ ทรงธรรม หนึ่งในนักศึกษาที่ถูกตั้งข้อหา ต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหลังได้รับบาดเจ็บจนหมดสติ ในขณะที่เวลาต่อมา พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ปฏิเสธการใช้ความรุนแรงในเหตุการณ์ กล่าวอ้างว่าเจ้าหน้าที่เพียงพยายามควบคุมสถานการณ์ที่เกิดจากการที่นักศึกษาได้ละเมิดกฎหมาย ดังนั้นตัวนักศึกษาเองไม่ควรที่จะเรียกร้องต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกเขาไม่ควรที่จะต่อต้านการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตั้งแต่แรก และว่า จะไม่ขอพูดถึงเรื่องนี้อีกเพราะเจ้าหน้าที่ไม่ได้ละเมิดความรุนแรงหรือสิทธิมนุษยชนผู้ใด

ฮิวแมนไรท์วอชท์ย้ำถึงความกังวลในการใช้ความรุนแรงโดยเจ้าหน้าที่รัฐในการสลายการชุมนุมโดยสงบ และได้แสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ในไทย โดยเฉพาะในเรื่องศาลทหารที่ถูกนำมาใช้แทนศาลพลเรือน ในคดีความมั่นคง คดีก่อความวุ่นวาย คดีหมิ่นพระมหากษัตริย์ฯ รวมถึงผู้ที่ต่อต้าน คสช. ที่ถูกนำขึ้นพิจารณาคดีในศาลทหารเช่นกัน ซึ่งขัดต่อกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศที่ไม่อนุญาตให้นำศาลทหารมาใช้หากศาลพลเรือนยัง
สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อยู่

ทั้งนี้ มาตรา 48 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 กำหนดให้ คสช. และผู้ที่ได้รับมอบหมายจาก คสช. พ้นจากความผิดและความรับผิดโดยสิ้นเชิง หากมีการกระทําที่ผิดต่อกฎหมาย 

“รัฐบาลทหารใช้กฎหมายตามอำเภอใจกับผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ เพื่อรักษาอำนาจเอาไว้ ขณะที่ทำตัวอยู่เหนือกฎหมายเวลาที่เจ้าหน้าที่ทหารหรือตำรวจละเมิดสิทธิมนุษยชนของประชาชน” แบรด อดัมส์ระบุและว่า เจ้าหน้าที่ที่ไม่ถูกตรวจสอบการใช้อำนาจและไม่ต้องกลัวการจับกุมจะไม่หยุดใช้ความรุนแรงกับผู้ที่ชุมนุมโดยสงบ และยิ่งมีการจัดการกับผู้ชุมนุมโดยสงบมากเท่าไหร่ ประเทศไทยก็จะยิ่งถลำลึกเป็นเผด็จการมากขึ้นเท่านั้น

 

เรียบเรียงจาก 

Thailand: Drop Charges Against Student Activists

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net