กรมชลประทานเปิดเผยแหล่งน้ำต้นทุนพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยามีน้ำใช้การได้ 1,612 ล้านลูกบาศก์เมตรยังอยู่ในเกณฑ์น้อย ขอความร่วมมือใช้น้ำอย่างประหยัด

 

21 ส.ค. 2558 สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย รายงานว่าส่วนประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ล่าสุด ( 20 ส.ค.) เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 4,267 ล้านลูกบาศก์เมตร น้ำใช้การได้ 467 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 3,704 ล้านลูกบาศก์เมตร น้ำใช้การได้ 854 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จังหวัดพิษณุโลก มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 216 ล้านลูกบาศก์เมตร น้ำใช้การได้ 173 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 121 ล้านลูกบาศก์เมตร น้ำใช้การได้ 118 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมมีปริมาณน้ำใช้การได้ 1,612 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่การใช้น้ำจาก 4 เขื่อนหลัก ระบายน้ำรวมกันประมาณวันละ 17 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งขณะนี้สถานการณ์น้ำใน 4 เขื่อนหลักยังมีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย กรมชลประทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จะเน้นเก็บกักน้ำให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะสิ้นฤดูฝนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

 

สำหรับช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลางตอนบน มีฝนตกลงมาบ้างในหลายพื้นที่ ส่งผลให้ปริมาณน้ำท่าในแม่น้ำเจ้าพระยาและลำน้ำสาขาเพิ่มมากขึ้นพอสมควร กรมชลประทานได้บริหารจัดการน้ำเหล่านี้ เพื่อให้เกษตรกรที่ยังไม่ได้ทำการเพาะปลูกกว่า 2 ล้านไร่ทำการเพาะปลูก ส่วนเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวเสร็จแล้วขอให้พิจารณาแหล่งน้ำต้นทุนที่มีอยู่ด้วยว่าเพียงพอจะทำการเพาะปลูกต่อเนื่องหรือไม่ ทั้งนี้ ขอให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันใช้น้ำอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อร่วมกันสร้างเสถียรภาพความมั่นคงด้านน้ำ