Skip to main content
sharethis

14 ก.ย. 2558 ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ได้พิจารณากรณีการออกอากาศรายการถอนพิษ ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2558 รายการข่าวฟ้ายามเย็น ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 17 และ 20 มีนาคม 2558 และรายการวิเคราะห์คอลัมนิสต์ ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2558 ของบริษัท บลู สกาย แชนแนล จำกัด (ช่องฟ้าวันใหม่) ว่ามีเนื้อหาขัดต่อประกาศ คสช. ฉบับที่ 97/2557 ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2558 และประกาศ คสช. ฉบับที่ 103/2557 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2558 และเป็นการขัดต่อบันทึกข้อตกลงที่บริษัท บลู สกาย แชนแนล จำกัด ทำไว้ต่อสำนักงาน กสทช. จึงมีมติให้มีคำสั่งทางปกครองเตือนเป็นหนังสือให้บริษัท บลู สกาย แชนแนล จำกัด ผู้รับใบอนุญาตช่องรายการฟ้าวันใหม่ ละเว้นการออกอากาศที่มีเนื้อหาขัดต่อประกาศ คสช. ฉบับดังกล่าว ซึ่งหากฝ่าฝืนมีการออกอากาศในลักษณะดังกล่าวต่อไปอีก จะใช้มาตรการทางปกครองที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมาตรการปรับทางปกครอง หรือมาตรการการพักใช้ใบอนุญาต

จากนั้น ที่ประชุม กสท. ได้พิจารณากรณีช่องรายการ PEACE TV ออกอากาศรายการห้องข่าวเล่าเรื่องสุดสัปดาห์ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2558 รายการห้องข่าวเล่าเรื่องสุดสัปดาห์ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2558 รายการเหลียวหลังแลไปข้างหน้าเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2558 รายการเข้าใจตรงกันนะ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2558 และรายการห้องข่าวเล่าเรื่องค่ำ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2558 ว่ามีเนื้อหาขัดต่อประกาศ คสช. ฉบับที่ 97/2557 ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2558 และประกาศ คสช. ฉบับที่ 103/2557 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2558 และเป็นการขัดต่อบันทึกข้อตกลงที่บริษัท พีซ เทเลวิชั่น จำกัด ทำไว้ต่อสำนักงาน กสทช. ซึ่งในกรณีนี้ทางศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับตามคำสั่ง กสท. ที่เพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ ช่องรายการ PEACE TV ของบริษัท พีซ เทเลวิชั่น จำกัด โดย กสท. ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ที่ประชุม กสท. จึงมีมติให้สำนักงานฯ ยื่นเรื่องนี้เพื่อแจ้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวต่อศาลปกครองสูงสุดเพื่อประกอบการพิจาณาคำขออุทธรณ์ให้ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งทุเลาการบังคับของศาลปกครองกลางต่อไป

ด้าน สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช. ทวีตว่า กรณีช่องฟ้าวันใหม่วันนี้ บอร์ด กสท.ลงมติแนวทางเดียวกับช่อง News1 ASTV คือให้เตือนทางปกครอง แต่ไม่ได้ระบุว่าครั้งหน้าให้พักใช้ใบอนุญาต 7 วัน ซึ่งเธอมองว่า กรณีช่องฟ้าวันใหม่และ News1 ถือว่าโชคดีกว่ากรณีช่อง PeaceTV ที่มติ กสท.ให้เตือนแต่ยังไม่ได้บอกว่าครั้งหน้าให้พักใช้ใบอนุญาต 7 วันเลย

สุภิญญา ระบุว่า กรณี PeaceTV ในอดีต บอร์ด กสท.มีมติให้เตือนทางปกครองพร้อมบอกว่าถ้าครั้งหน้าให้พักใช้ใบอนุญาตเลย ซึ่งความเห็นส่วนตัว มันแรงไป มติแบบวันนี้โอเคกว่า

"ไม่ว่าช่องไหน ดิฉันก็ไม่เห็นด้วยที่จะใช้ประกาศ คสช.เมื่อเห็นว่าผิดแล้วครั้งต่อไปให้พักใช้ใบอนุญาตเลย แต่เห็นว่าควรเป็นไปตามกระบวนการปรกติ คือควรเตือนก่อน แล้วค่อยปรับขั้นต้น แล้วค่อยปรับขั้นสูง แล้วค่อยพักรายการนั้น ถ้าผิดอีกรุนแรงถึงค่อยพิจารณาพักใช้ใบอนุญาตทั้งสถานี เป็นต้น"

สุภิญญา ระบุว่า เข้าใจว่าจากกรณีพีซทีวี เมื่อ กสท.สั่งพักใช้ แล้วเขาไปฟ้องศาล ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว จากนั้นมาบอร์ด กสท.ก็พิจารณาช่องอื่นๆ ยืดหยุ่นขึ้น

สุภิญญา ระบุว่า ส่วนตัวมีแนวทางลงมติเช่นเดิมตลอด ตั้งแต่ช่อง PeaceTV มาถึง News1-ASTV และฟ้าวันใหม่ แม้มติกลางของ กสท.จะต่างกันไป เพราะขึ้นกับมติรวม แต่แม้เธอจะไม่เห็นด้วยให้สั่งพักใช้หรือปิดช่องการเมืองต่างๆ เพราะเขาควรมีเสรีภาพตามสมควร แต่ก็ไม่ได้บอกว่าไม่ควรตักเตือนให้ระวังบางประเด็น

"ดังนั้นถ้ามติของ กสท.จะออกมาให้ลักษณะตักเตือนเช่นให้ระวัง hate speech การปลุกปั่นให้แตกแยก หรือการเอียงข้างเดียวจนเกินไป อันนี้เห็นด้วย ช่องทีวีดาวเทียมที่มีจุดยืนทางการเมือง จะมีลักษณะคล้ายกันคือการเลือกข้างและเลือกแง่มุมในการเสนอ ซึ่งก็ไม่ควรไปปิดเขา แต่ก็ต้องเตือนให้ระวัง" สุภิญญากล่าว

ด้านวิทเยนทร์ มุตตามระ กรรมการผู้จัดการสถานีโทรทัศน์บลูสกายแชนแนล ทวีตสนทนากับสุภิญญาว่า ในกรณีรายการถอนพิษ ผมยืนยันไม่มี Hate speech แน่ และเป็นการนำเสนอข้อเท็จจริงกรณีศาลตัดสินคดีล้มประชุม ASEAN ส่วนอีก 2 รายการอาจมีคำพูดเสียดสีซึ่งรับจะไปตักเตือนผู้ดำเนินรายการให้ระมัดระวัง (อ้างอิง 1, 2)

 

 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net