อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ชี้ไม่ควรขวาง ‘คณะส่องทุจริตราชภักดิ์’ เพราะสังคมจะยิ่งเพิ่มความเคลือบแคลงและสงสัย เผยพยานได้ให้ข้อมูลแต่ขอถอนตัวไปเพราะกลัวทหาร

8 ธ.ค.2558 วิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ทหารจับกุมกลุ่มนักศึกษาเพื่อไม่ให้เดินทางไปตรวจสอบความไม่โปร่งใสโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ว่ารัฐบาลและทหาร ไม่ควรขัดขวางกลุ่มใดๆ ที่ต้องการเข้าไปตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์ เพราะสังคมจะยิ่งเพิ่มความเคลือบแคลงและสงสัยต่อในโครงการนี้มากขึ้น ซึ่งอาจจะกลายเป็นบ่วงพันคอรัฐบาลเอง สิ่งสำคัญอุทยานราชภักดิ์ไม่ใช่เขตหวงห้าม หรือเขตทหารห้ามเข้า ดังนั้นคนไทยทุกคนจึงมีสิทธิเดินทางไปดูได้ รัฐบาลจึงต้องยอมรับต่อประชาชนว่าโครงการนี้มีความผิดหลายส่วน ขณะนี้ปิดอย่างไรก็ไม่มิด เหมือนร่างกายที่เป็นโรคมะเร็งจะแสดงอาการมากขึ้นเรื่อยๆ จึงต้องรีบตัดเนื้อร้ายทิ้ง

พร้อมระบุด้วยว่า หากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ไม่จัดการกับคนผิดอย่างเด็ดขาด บอกแต่ให้รอผลการตรวจสอบ เชื้อมะเร็งนี้จะยิ่งลุกลามเร็วจนรัฐบาลอาจต้องตัดคอตัวเอง ดังนั้นผู้ที่มีหน้าที่ดูแลโครงการดังกล่าวควรแสดงความรับผิดชอบได้แล้ว และให้องค์กรอิสระที่มีอำนาจตามกฎหมาย ตรวจสอบและเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำได้ทั้งหมด

นายวิลาศ กล่าวอีกว่า ในช่วงแรกที่มีข่าวเรียกเก็บค่าหัวคิวและค่าสร้างรูปหล่อองค์พระรูปที่แพงเกินจริง ซึ่งคนในวงการธุรกิจโรงหล่อเขารู้กันหมด ซึ่งตอนแรกมีคนพร้อมเป็นพยานได้ให้ข้อมูลเรื่องดังกล่าวกับตนว่ามีการเรียกผลประโยชน์ในขั้นตอนต่างๆ จริง และตนได้บันทึกเทปไว้แล้ว แต่เมื่อตนจะนำบุคคลนั้นมาแถลงข่าว เขากลับขอถอนตัวไปเพราะกลัวว่าตัวเองและครอบครัวจะได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งไม่อยากมีปัญหากับทหาร

ที่มา : มติชนออนไลน์และเดลินิวส์