เปลี่ยนชื่อเป็น มูลนิธิอุทยานราชภักดิ์ ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระบรมฯ

4 ม.ค.2559 เว็บไซต์เดลินิวส์ รายงานว่า นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะนายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 126 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ออกประกาศเรื่องจดทะเบียนข้อบังคับมูลนิธิราชภักดิ์ว่า มูลนิธินี้ชื่อว่า "มูลนิธิอุทยานราชภักดิ์ ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร" ย่อว่า "ร.ภ." เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Rajabhakti Park Foundation Under the Royal Patronage of His Royal Highness Crown Prince Maha Vajiralongkorn 

นอกจากนั้นยังมีการเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิ จากเดิมเพียง 6 คน เป็น 11 คน ประกอบด้วย 1.พล.อ. อุดมเดช สีตบุตร เป็นประธานคณะกรรมการ 2. พล.อ. ศุภวุฒิ อุตมะ เป็นรองประธานกรรมการ โดยมีกรรมการประกอบด้วย พล.ท. สุทัศน์ จารุมณี   พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร นายไพศาล พืชมงคล  น.ส.มรกต ณ เชียงใหม่ น.ส.ณสรัญ มหิทธชาติกุล นายชยุต ภวภานันท์กุล พล.อ. ประสูตร รัศมีแพทย์ เป็นกรรมการและเหรัญริก  พล.อ. พอพล มณีรินทร์ เป็นกรรมการและเลขานุการ  และพ.อ. สมชาย กุลภควา เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ 
 
MGR Online รายงานว่า ผู้ที่ไม่ได้มีรายชื่อในกรรมการชุดใหม่ ประกอบด้วย พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, พล.ต.ชูชาติ สุกใส เจ้ากรมการเงินทหารบก และ พล.ต.สุชาติ พรมใหม่ ซึ่งปัจจุบันหลบหนีตามหมายศาลทหาร
 
ขณะที่ เมื่อเวลา 19.45 ของวันเดียวกัน ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า นายกฤษฎา ให้สัมภาษณ์กับทางไทยรัฐออนไลน์ถึงประเด็นการเปลี่ยนชื่อมูลนิธิดังกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาตามมาตรา 126 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ก่อนจะออกเป็นกฎกระทรวงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้ใช้บังคับได้ 
 
ประธาน ป.ป.ช. ระบุมีอำนาจตรวจสอบการหักค่าหัวคิวโรงหล่อฯ
 
วันเดียวกัน สำนักข่าวไทย รายงานว่า พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงการตรวจสอบโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ว่า ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนและกระบวนการกฏหมาย หากเรื่องมาถึง ป.ป.ช. ก็จะพิจาณาตามข้อเท็จจริงอีกครั้ง ส่วนประเด็นการหักค่าหัวคิวโรงหล่อการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์นั้น ป.ป.ช.มีอำนาจตรวจสอบ แต่ต้องขอดูในรายละเอียดก่อน
 
ขณะที่ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รองปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานสอบข้อเท็จจริงฯ กล่าวถึงกรณีที่ยังมีการตั้งข้อสังเกตเรื่องการใช้งบกลางในการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ที่นำไปรวมกับงบบริจาค ว่า เป็นเพียงการชี้แจงให้เห็นงบที่ใช้ในการดำเนินการ แต่ไม่ได้นำมารวมกัน ซึ่งงบทั้งสองส่วนนี้แยกกันชัดเจนอยู่แล้ว เพียงแต่คณะกรรมการฯ ต้องการชี้ให้เห็นว่าเป็นงบที่ใช้ในโครงการดังกล่าว
 
“งบกลางตามที่ได้ชี้แจงไป ก็ได้นำไปก่อสร้าง 5 รายการเกี่ยวกับการก่อสร้างรอบฐานอนุสาวรีย์ รวมถึงรั้ว ส่วนงบในส่วนของโรงเรียนนายสิบก็เป็นส่วนของโรงเรียนนายสิบเอง การที่ฝ่ายการเมืองตั้งข้อสังเกตว่าการนำงบกลางมาใช้มีความไม่เหมาะสมนั้น แท้จริงแล้วงบกลางใช้ในเรื่องของสนับสนุน แต่งบที่ใช้จริงคืองบที่ได้มาจากการบริจาค ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวถือเป็นพื้นที่ของโรงเรียนนายสิบ เพราะฉะนั้นโรงเรียนนายสิบที่กองทัพบกใช้ก็จะได้รับผลประโยชน์ไปด้วย ทั้งนี้ผลสอบดังกล่าวฯ ได้นำเรียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไปแล้วในส่วนของหน่วยงานที่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะเข้ามาตรวจสอบ” พล.อ.ชัยชาญ กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท