1 มิ.ย.2559 จากกรณีวานนี้ (31 พ.ค.59) มติชนออนไลน์และผู้จัดการออนไลน์ รายงานตรงกันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของศิษยานุศิษย์ของพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายที่ขยายวงกว้างในวัดต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศว่า ก็ต้องร่วมกันรับผิดชอบ มีการขยายความกันไปเรื่อย ความจริงเป็นเรื่องคดีความของคนไม่กี่คนแล้วก็ขยายไปยังศิษยานุศิษย์ ไปทั้งในและต่างประเทศ จัดทีวีถ่ายทอดสดไปทั่วโลกเดินไปไหนมาไหนก็ถ่ายทอดทั้งหมด ก็สมควรแล้วจะให้ผมทำอย่างไร แล้วถ้าดีเอสไอนำกำลังตำรวจ ทหารเข้าไป แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นคิดดูกันบ้าง ปี 2553 มันเกิดอะไรขึ้น ถ้ามีใครสักคนเอาอาวุธปืนมายิงใส่กันแต่ละข้างจะเกิดอะไรขึ้น เอาทหาร ตำรวจเข้าไป แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีคนยิงเข้ามา ทางนี้ก็ต้องป้องกันตัวมันก็จะไปโดนคนที่สวดมนต์อยู่หรือเปล่า อยากให้เป็นอย่างนั้นกันหรือ ถ้าอยากก็เร่งกันเข้ามาเรื่อยๆ กดดันเจ้าหน้าที่กันต่อไป กล่าวหาว่าไม่ไปทำหน้าที่เสียที หาว่าละเว้นปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157
“ผมไม่กลัวกฎหมาย เขามีเขียนไว้อยู่แล้วว่าถ้าจะทำให้สถานการณ์บานปลาย เขาก็รอไปก่อนได้ จับวันนี้หรือวันหน้าก็เหมือนกัน บางกรณีก็ละเว้นได้ด้วยสถานการณ์ภายใน แต่ผมถามว่าถูกต้องหรือไม่ ปิดประตูเอาลวดหนามมาล้อม เหตุการณ์เหมือนการตั้งป้อมค่ายที่สวนลุมฯ คิดกันบ้าง เอาอดีตมาเรียนรู้ ทหารก็ต้องทำหน้าที่เข้าไปดูแลแล้วก็มีการยิงอาวุธใส่มา จะให้ทำอย่างไร ต้องการให้เกิดอย่างนั้นอีกหรือ ไม่พอหรือ ตายกันเยอะแยะยังไม่พอ แล้วจะยังปลุกกัน ต่อไปจากนี้ไปก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน จะให้ผมมารับผิดชอบคนเดียวผมไม่รับ จะต้องรับผิดชอบร่วมกัน ถือว่าเป็นการทำให้เหตุการณ์บานปลายจนแก้ปัญหาไม่ได้ ถ้ามีการจับตั้งแต่แรกควบคุมตัว หรือมอบตัวก็จบไปแล้วไม่ใช่หรือ คดีก็ยังไม่สิ้นสุดว่าผิดหรือถูกก็ต้องไปพิสูจน์ทราบกัน ก็จบแค่นั้น อย่ามาบอกว่าไปรังแกพระ มันไม่ใช่ มีการโกงมาตั้งแต่เรื่องของสหกรณ์ยูเนี่ยนคลองจั่น มีการโอนเงินเข้ามาก็ไปพิสูจน์ทราบกันว่ามันไม่ใช่ แต่ปล่อยมาจนกลายเป็นว่าเราไปรังแกพระ มันไม่ใช่” นายกรัฐมนตรีกล่าว
พุทธะอิสระ อ้างมีสายรายงานเสื้อแดงขนกระเป๋าใหญ่เข้าธรรมกาย
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)