Skip to main content
sharethis

‘กลุ่มด้วยใจ-เครือข่ายสิทธิมนุษยชนปาตานี-มูลนิธิผสานวัฒนธรรม’ ออกแถลงการณ์ร่วม สิทธิผู้ต้องสงสัยภายใต้กฎอัยการศึก เรียกร้องให้ยุติการห้ามเยี่ยมญาติ

4 ก.ย. 2559 กลุ่มด้วยใจ เครือข่ายสิทธิมนุษยชนปาตานี และมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ได้ออกแถลงการณ์ร่วม “สิทธิผู้ต้องสงสัยภายใต้กฎอัยการศึก เรียกร้องให้ยุติการห้ามเยี่ยมญาติ” โดยระบุว่าเนื่องด้วยเมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2559 เวลา 13:30 น ได้มีเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย (ทางราชการใช้คำว่าผู้ถูกเชิญตัว) จำนวน 4 คน ต่อมาจึงได้ปล่อยตัว 3 คน แต่ยังคงควบคุมตัว (ตามกฎหมายเรียกว่าการกักตัวตามกฎอัยการศึก) นายมะนาเซ ซอรอเอะ อายุ 26 ปี ไปยังหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 43 ตั้งอยู่ภายในค่ายอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี

เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2559 ทางญาติได้ขอเข้าเยี่ยมตามปกติที่บริเวณจุดเยี่ยมญาติหน้าค่ายอิงคยุทธบริหาร เจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูลว่าไม่ได้ถูกควบคุมตัวที่นี่ ญาติได้เดินทางกลับ ต่อมามีข้อมูลว่านายมะนาเซ อยู่ในการควบคุมของทหารตามอำนาจกฎอัยการศึกแต่ไม่อนุญาตให้เยี่ยม ให้เดินทางมาเยี่ยมในวันที่ 2 กันยายน แต่ทางญาติเนื่องจากมีฐานะยากจนและไม่สามารถเดินทางมาได้ จึงรวบรวมเงินและสามารถเดินทางมาเยี่ยมได้ในวันรุ่งขึ้นคือวันที่ 3 ก.ย. 2559

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2559 ทางญาติได้ไปเยี่ยมนาย มะนาเซ ซอรอเอะ ที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร แต่ไม่พบตัวจึงได้สอบถามเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแต่มีความสับสนในข้อมูลว่านายมะนาเซฯอยู่ในการควบคุมตัวอยู่ที่ใด จนได้รับทราบข้อมูลยืนยันว่านาย มะนาเซ ถูกควบคุมตัวที่ หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 43 และได้แจ้งไปทางผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำตัวมาพบญาติ ในเวลา 15:00 น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ครอบครัวทราบว่า นายมะนาเซ ไม่ต้องการพบญาติ แต่ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการให้เยี่ยมโดยผ่านวีดีโอคอนเฟอร์เรน (VDO conference) ซึ่งปรากฏว่านายมะมาเซได้ร้องไห้และบอกว่าคิดถึงพ่อกับแม่ซึ่งมีอายุ 69 ปี และ 60 ปี

จากระเบียบปฏิบัติของการเยี่ยมญาติที่ติดประกาศอยู่ที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร ซึ่งมี อยู่ 3 ข้อ คือ 1. ปู่ ยา ตา ยาย มารดา สามี ภรรยา บิดามารดาของสามีหรือปู่ ยา ตา ยาย มารดา สามี ภรรยา บิดามารดาของสามีหรือภรรยา บุตรธิดาและพี่น้องร่วมบิดามารดาเยี่ยมได้ตั้งแต่วันแรกของการควบคุมตัว 2. สำหรับการเยี่ยมของญาติอื่นๆ ให้เยี่ยมได้หลังจากสามวันผ่านไป และถ้าเป็นบุคคลอื่นนอกจากนี้ ต้องได้รับอนุญาตจาก ผอ.รมน.ภาค 4 / ผอ.สขว.กอ.รมน ภาค 4 สน./ ผบ.หน่วยซักถาม ขกท.สน.จชต และ 3. วัน เวลา ในการเยี่ยมญาติ สามารถเยี่ยมได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ (ไม่เกิน 30 นาที/วัน) ช่วงเช้าเวลา 09:00 – 10:00 น ช่วงบ่าย เวลา 14:30 – 15:00 น

จากเหตุการณ์ดังกล่าวพบว่าผู้ต้องสงสัยภายใต้กฎอัยการศึกไม่ได้เยี่ยมตามกฎระเบียบที่กำหนดไว้โดยหน่วยงานเองและจากการสอบถามจากเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 43 ได้ชี้แจงว่าเป็นการควบคุมตัวตามกฎอัยการศึก การไม่ได้พบและเยี่ยมนายมะนาเซทำให้พ่อและแม่ผู้ที่ถูกควบคุมตัวกังวลใจและเป็นห่วงใยในสวัสดิภาพของบุคคลอันเป็นที่รัก การที่ครอบครัวผู้ต้องสงสัยได้เยี่ยมหรือได้พบญาติเป็นการสร้างความเชื่อมั่นอย่างหนึ่งต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐและเป็นหลักประกันได้ว่าไม่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนภายใต้การควบคุมตัวและซักถามของเจ้าหน้าที่รัฐ การได้พบครอบครัวและญาติเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ผู้ต้องสงสัยควรได้รับและหน่วยงานที่ทำหน้าที่ควบคุมตัวต้องเคารพ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันข้อครหาในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม กลุ่มด้วยใจและ เครือข่ายสิทธิมนุษยชนปาตานีจึงขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติตามระเบียบที่กำหนดไว้ และ ชี้แจงให้ญาติทราบถึงสถานที่ที่แน่ชัดในการการควบคุมตัว หรือเคลื่อนย้ายผู้ต้องสงสัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐต่อไป 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net