ล้วงลึกเรื่องอื้อฉาวโรงเรียน 'ขวาจัด' ในญี่ปุ่น ตีแผ่กลุ่มอิทธิพล 'นิปปง ไคกิ'

ตั้งแต่เดือนที่แล้วมีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการที่นายกฯ ชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่นถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวโยงกับโรงเรียนอนุบาลที่สอนชาตินิยมสุดโต่ง เหยียดเชื้อชาติอื่น แต่นักวิชาการก็มองประเด็นนี้แบบลงลึกกว่าแค่เรื่องการเมืองคะแนนนิยม โดยระบุว่าแม้ประชาชนในยุคปัจจุบันจะสะพรึงกับแนวคิดขวาจัดนี้ แต่ในญี่ปุ่นก็มีกลุ่ม 'นิปปง ไคกิ' ที่มีอิทธิพลต่อการเมืองและพยายามแทรกซึมสังคมญี่ปุ่นให้กลับไปมีแนวคิดแบบก่อนยุคสงครามโลกครั้งที่ 2

13 มี.ค. 2560 ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ก.พ. ที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ในญี่ปุ่นมีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับโรงเรียนอนุบาลเอกชนชื่อสึคาโมโตะในจังหวัดโอซากาที่ดำเนินการเรียนการสอนแบบชาตินิยมสุดโต่ง สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้อื้อฉาวขึ้นมาเริ่มจากการที่ครูใหญ่ของโรงเรียน ยาสุโนะริ คาโกะอิเกะ เผยแพร่ใบปลิวให้กับผู้ปกครองโดยมีเนื้อหาสร้างความเกลียดชังทางเชื้อชาติต่อชาวเกาหลีและชาวจีนที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น จนทำให้คาโกะอิเกะถูกบีบให้ออกมาขอโทษ

ตัวโรงเรียนสึคาโมโตะเองก็เป็นที่รู้จักในฐานะโรงเรียนที่มีการเรียนการสอนด้วยแนวคิดแบบญี่ปุ่นยุคจักรวรรดิช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่อยู่ภายใต้องค์การพระจักรพรรดิรวมถึงมีความชาตินิยมจัดและประเพณีนิยมจัด ที่ประชาชนชาวญี่ปุ่นในยุคปัจจุบันมองว่าเป็นการเรียนการสอนที่แปลกประหลาดและแสดงความกังวลว่าการเรียนการสอนเด็กอายุน้อยแบบนี้อาจจะทำให้กลายเป็นฝ่ายขวาอันตราย ทั้งนี้ยังไม่นับว่าสภาล่างของญี่ปุ่นพากันวิพากษ์วิจารณ์ว่าคาโกะอิเกะทำผิดกฎหมายการศึกษาขั้นพื้นฐานที่ห้ามไม่ให้มีการเรียนการสอนอย่างมีอคติทางการเมือง

สึคาโมโตะเป็นโรงเรียนในเครือโมริโทโมะ กะคุเอง ที่คาโกะอิเกะเป็นประธาน เคยมีวิดีโอของโรงเรียนในเครือโมริโทโมะ กะคุเอง ที่แสดงให้เห็นภาพของนักเรียนในชุดกะลาสีร้องเพลงสงครามในศาสนสถานของชินโตภายใต้การจับจ้องของนักบวชและรูปของเด็กนักเรียนที่ทำท่าชูมือแบบ "สดุดีฮิตเลอร์" หลังวิ่งเข้าเส้นชัยล้วนทำให้ผู้ที่ได้เห็นตกตะลึงรวมถึงชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่เองด้วย เพราะเป็นภาพที่น่าจะอยู่ในช่วงยุคก่อนปี 2488 หรือก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยที่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นมีการร่างรัฐธรรมนูญในแบบที่จะปฏิเสธลัทธิบูชาองค์จักรพรรดิ

แต่เรื่องอื้อฉาวกรณีนี้ก็ดูเหมือนจะมีส่วนเกี่ยวโยงมาถึงนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะ ที่มาจากพรรคอนุรักษ์นิยมหรือแอลดีพี (LDP) อาเบะเคยกล่าวชื่นชมโรงเรียนประถม มิซุโฮะ-โนะ-คุนิ ไคเนน ในเครือโมริโทโมะ กะคุเอง ว่าเป็นโรงเรียนที่วิเศษและ "เลี้ยงดูให้เด็กมีความภาคภูมิใจในฐานะชาวญี่ปุ่นและมีความแข็งแกร่งภายใน" จนกระทั่งเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา อาเบะก็ประกาศว่าภรรยาของเขาผู้เป็นครูใหญ่กิตติมศักดิ์ของโรงเรียนดังกล่าวได้ลาออกจากตำแหน่งครูใหญ่แล้ว

ก่อนหน้านี้ทางโมริโทโมะ กะคุเอง เคยหาเงินบริจาคโดยเอาชื่อของอาเบะไปใช้โดยบอกว่าจะตั้งชื่อโรงเรียนว่า "อนุสรณ์อาเบะ ชินโซ" ถึงแม้ว่าอาเบะจะเคยกล่าวว่าเขาต่อต้านเรื่องการอ้างใช้ชื่อเช่นนี้และขอให้เอาชื่อเขาออกจากการตั้งชื่อโรงเรียน แต่ภรรยาของเขาก็ยังคงได้รับตำแหน่งเป็นครูใหญ่กิตติมศักดิ์จนถึงเมื่อเดือน ก.พ. แล้วเรื่องอื้อฉาวนี้ก็ยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ เมื่อมีวิดีโอที่เด็กอนุบาลออกมากล่าวเชียร์อาเบะในงานกีฬาสีด้วยท่ายกมือคล้ายสดุดีฮิตเลอร์ พูดขอบคุณอาเบะที่ผ่านกฎหมายความมั่นคง รวมถึงวิดีโอที่บอกให้ผู้ใหญ่ต้องปกป้องเขตแดนอย่างหมู่เกาะเซนกากุ/เตียวหยู ทาเคชิมะ และเขตแดนทางตอนเหนือ ทำให้อาเบะต้องออกมาปฏิเสธว่างานกีฬาสีและเด็กเหล่านี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา

นอกจากอาเบะจะถูกเพ่งเล็งในเรื่องความเกี่ยวข้องกับเครือโรงเรียนแนวทางขวาจัดในญี่ปุ่นแล้ว ยังมีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการอนุญาตขายพื้นที่ก่อสร้างโรงเรียนขวาจัดเช่นนี้ในราคาที่ถูกด้วย โดยเรื่องนี้ถูกเริ่มตั้งคำถามจากฝ่ายค้านในญี่ปุ่น สื่อญี่ปุ่นอย่างเจแปนไทม์ก็รายงานว่า โมริโทโมะ กะคุเองได้จ้างให้หน่วยงานกำจัดของเสียทำการกลบของเสียที่อยู่ในเขตก่อสร้างของพวกเขาในที่ดินซึ่งพวกเขาได้รับการลดราคาอย่างมากจากรัฐบาล โดยพื้นที่ดังกล่าวมีขนาด 8,770 ตารางเมตร ที่ซื้อมาด้วยราคา 134 ล้านเยน คิดเป็นเพียงแค่ร้อยละ 14 ของราคาประมูล

เรื่องนี้ทำให้เกิดคำถามต่อความปลอดภัยของเด็กด้วยเมื่อคนที่ทำงานรับเหมากำจัดของเสียในกรณีนี้เปิดเผยว่ามีการขุดพื้นที่ดังกล่าวขึ้นมาอีกครั้งจนเจอขยะต่างๆ อย่างถุงเท้า ซองเครื่องปรุงรส เศษกระเบื้อง และดินปนเปื้อนมลพิษที่ส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวลแล้วครึ่งหนึ่งของดินและของเสียเหล่านี้ก็ถูกกลบลงไปใหม่ ผู้รับเหมาเปิดเผยว่ามันน่าจะเกิดปัญหาถ้าเด็กต้องเล่นอยู่บนพื้นที่เช่นนี้

ถึงแม้อาเบะเองจะปฏิเสธว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องการขายที่ดินราคาถูกให้กลุ่มนี้แต่เรื่องอื้อฉาวดังกล่าวก็ทำให้คะแนนนิยมของเขาลดลง มีการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 86.5 ไม่เห็นด้วยกับเรื่องการซื้อขายที่ดินของเครือโรงเรียนขวาจัดกับรัฐบาลที่ได้รัการลดราคาอย่างมาก ขณะที่ร้อยละ 6.6 บอกว่าเหมาะสมดี ในสภาเองอาเบะก็ได้รับการสนับสนุนลดลงไปร้อยละ 6 เหลืออยู่ร้อยละ 55.7 ประชาชนจำนวนมากที่ตอบแบบสอบถามยังระบุว่าต้องการให้รัฐบาลญี่ปุ่นแสดงความโปร่งใสในเรื่องการซื้อขายที่ดินกับเอกชนมากกว่านี้ แม้ว่าโดยรวมแล้วการสนับสนุนพรรคการเมืองแอลดีพีจะยังลดลงไปเพียงเล็กน้อย

'นิปปง ไคกิ' ขวาจัดที่พยายามแผ่อิทธิพลในญี่ปุ่น

อย่างไรก็ตาม บทความในเว็บไซต์วิเคราะห์เอเชียตะวันออก 'อีสต์เอเชียฟอรัม' ต่างก็ชี้ให้เห็นว่าในญี่ปุ่นมีกลุ่มองค์กรชาตินิยมที่เรียกว่า 'นิปปง ไคกิ' (日本会議) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2540 ที่ปัจจุบันมีสมาชิกอยู่ราว 40,000 ราย กลุ่มชาตินิยมกลุ่มนี้ส่งอิทธิพลต่อภาคการบริหารและภาคนิติบัญญัติของรัฐบาลญี่ปุ่น และบทความในดิอิโคโนมิสต์เคยระบุว่านายกรัฐมนตรีอาเบะก็เป็นที่ปรึกษาพิเศษของสมาชิกกลุ่มนิปปง ไคกิ ที่ส่วนหนึ่งเป็นนักการเมืองในสภาของญี่ปุ่นด้วย

บทความของอเล็กซิส ดัดเดน ศาตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นที่มหาวิทยาลัยแห่งคอนเนคติคัทระบุในบทความเกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาวโรงเรียนขวาจัดในญี่ปุ่นว่านิปปง ไคกิ พยายามเปลี่ยนแปลงให้ญี่ปุ่นกลับไปเป็นอนุรักษ์นิยมคล้ายยุคก่อนสงครามโลกผ่านทางนโยบายและการศึกษา ในคณะรัฐบาลปัจจุบันของญี่ปุ่นทั้ง 20 คน มีจำนวน 16 คน เป็นสมาชิกที่มีชื่อเสียงหรือผู้นำแผนกต่างๆ ของนิปปง ไคกิ ในรายงานเรื่องสิทธิมนุษยชนปี 2559 ของสหรัฐฯ ก็ระบุถึงการที่รัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารของญี่ปุ่น ซานาเอะ ทาไคจิ เป็นคนที่พยายามบีบเค้นเสรีภาพสื่อในญี่ปุ่น รวมถึงโยชิทาดะ โคโนะอิเคะ สมาชิกสภาบนของญี่ปุ่นที่เจ้าของโมริโทโมะ กะคุเอง เคยพยายามติดสินบนก็เป็นหัวหน้าฝ่ายกิจการย่อยเกี่ยวกับ "รัฐธรรมนูญ สำนักพระราชวัง และประเด็นศาลเจ้ายาสุคุนิ" อาเบะเองก็เป็นผู้ดูแลในประเด็น "กลาโหม การทูต และเขตแดน" ของกลุ่มนิปปง ไคกิ

ดัดเดนระบุว่านิปปง ไคกิ มีเป้าหมายหลักในการนำสมเด็จพระจักรพรรดิกลับมาเป็นประมุขอีกครั้งและส่งเสริมการอ้างใช้ศาสนาชินโตกลับมานำรัฐ ขณะเดียวกันก็กีดกันประเด็นความก้าวหน้าอื่นๆ อย่างการไม่ให้ผู้หญิงเป็นผู้นำ ในสารานุกรมวิกิพีเดียยังชี้ให้เห็นว่านิปปง ไคกิ พยายามกีดกันเรื่องความเท่าเทียมทางเพศและประเด็นเกี่ยวกับสิทธิผู้มีความหลากหลายทางเพศ กลุ่มชาตินิยมกลุ่มนี้ยังพยายามบิดเบือนสิ่งที่เกิดขึ้นในสงครามโลกครั้งที่ 2 ให้ตัวเองดูเป็นเหยื่อ อีกทั้งยังแสดงท่าทีต่อต้านอิทธิพลจากตะวันตกที่เข้ามาหลังญี่ปุ่นแพ้สงครามโลก

บทความโดยเออร์นิล ลาร์สสัน นักวิชาการด้านศาสนาจากมหาวิทยาลัยอุปซอลาในสวีเดน ระบุว่ากรณีโรงเรียนอนุบาลสึคาโมโตะสะท้อนให้เห็นถึงการที่กลุ่มนิปปง ไคกิ พยายามเข้ามามีอิทธิพลในสถาบันการศึกษาของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเชิงประเพณีนิยมดั้งเดิมแบบญี่ปุ่นที่อ้างอิงจากพระราชกำหนดตั้งแต่สมัยก่อนสงครามโลกและการพยายามทำให้กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น (SDF) ดูน่าชื่นชมบูชา

แต่ประชาชนชาวญี่ปุ่นจำนวนมากก็ยังสะพรึงกับแนวคิดย้อนยุคสุดโต่ง

การที่โรงเรียนขวาจัดเช่นนี้กลายเป็นเรื่องอื้อฉาวและสร้างความตกตะลึงในหมู่ชาวญี่ปุ่นแสดงให้เห็นว่าแม้กลุ่มนิปปง ไคกิ จะมีอิทธิพล แต่ก็ใช่ว่าประชาชนทั่วไปในญี่ปุ่นจะยอมรับแนวคิดของพวกเขา บทความของลาร์สสันระบุว่านิปปง ไคกิ พยายามสร้างภาพให้กลุ่มตัวเองดูเป็นการเคลื่อนไหวของประชาชนระดับล่างๆ แต่ในช่วงใกล้เลือกตั้งก็พยายามหลีกเลี่ยงไม่พูดถึงวาระในเชิงชาตินิยมจัดเหล่านี้และหันไปหาเสียงด้วยนโยบายอื่นๆ เช่นนโยบายเศรษฐกิจเหมือนรับรู้ว่าประชาชนจะไม่ยอมรับแนวคิดชาตินิยมจัดของพวกเขาตรงๆ ฝ่ายชาตินิยมในพรรคแอลดีพีที่เรียกตัวเองว่า 'เซย์วาไค' ก็ตระหนักว่าพวกเขาจะไม่สามารถชนะการเลือกตั้งได้ด้วยวิสัยทัศน์ที่จะนำญี่ปุ่นกลับไปสู่ยุคจักรวรรดิ

นอกจากนี้ สื่อในญี่ปุ่นบางส่วนได้ตีแผ่เรื่องราวของนิปปง ไคกิ เช่น หนังสือ "การวิจัยนิปปง ไคกิ" ของทาโมตสึ ซุงะโนะ ระบุว่าในขณะที่กลุ่มนี้พยายามสร้างภาพว่ามีความเป็นสมัยใหม่แต่ก็มีความล้าหลัง พยายามส่งเสริมแนวคิดชายเป็นใหญ่ และมีลักษณะเกลียดกลัวฝ่ายซ้ายอย่างไม่มีเหตุผล (left-phobia) โดยที่หนังสือของซุงะโนะถูกศาลแขวงในญี่ปุ่นสั่งแบนในข้อหาหมิ่นประมาทเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

ในแง่นี้ลาร์สสันระบุว่าไม่ว่าอาเบะจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับโมริโทโมะ กะคุเอง หรือไม่ก็ตาม แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องอื้อฉาวนี้ย้ำเตือนให้ประชาชนมองเห็นว่านายกรัฐมนตรีของพวกเขาเกี่ยวโยงกับกลุ่มขวาจัดอยู่ ขณะที่ดัดเดนเสนอว่าควรเปิดให้มีการอภิปรายแลกเปลี่ยนอย่างเปิดเผยในเรื่องนี้ที่จะนำไปสู่การสืบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาว เพื่อให้ประชาชนได้มองเรื่องนี้ผ่านเลนส์ของแนวคิดประชาธิปไตยและร่วมกันกำหนดว่าจะทำให้ญี่ปุ่นเดินหน้าต่อไปอย่างไร

"สำหรับฉันแล้ว มีโรงเรียนอนุบาลที่ 'แสนวิเศษ' แห่งหนึ่งอยู่ในพื้นที่ที่คนมีโอกาสในชีวิตน้อยกว่าอยู่ในจังหวัดนีงาตะ ที่แม้ว่าจะเป็นโรงเรียนดูทรุดโทรมตั้งอยู่บนพื้นที่ศาลเจ้า แต่ลูก 4 ขวบของฉันก็ได้ค้นพบความอบอุ่นและความมั่นใจในตัวเองจากที่นั่น เขาได้เรียนอักษรฮิรางานะของญี่ปุ่นและได้ร้องเพลง 'โทโทโร่' (จากอนิเมชั่นเรื่อง 'โทโทโร่เพื่อนรัก' หรือ 'My Neighbor Totoro') จนกว่าจะพอใจไม่ว่าครูของเขาจะมีความคิดเห็นส่วนบุคคลต่อเขาอย่างไรก็ตามหรือเห็นว่าทำไมคน (ที่มีเชื้อสายต่างชาติ) อย่างเขามาใช้ชีวิตในญี่ปุ่น เรื่องนี้เองก็เป็นโอกาสที่จะกลายเป็นอนาคตของญี่ปุ่นด้วย" ดัดเดนระบุในบทความ

 

เรียบเรียงจาก

Kindergarten scandal shows Japan’s nationalist far-right out of touch, Ernils Larsson, 09-03-2017
http://www.eastasiaforum.org/2017/03/09/kindergarten-scandal-shows-japans-nationalist-far-right-out-of-touch/

Abe caught out in school scandal, Alexis Dudden, East Asia Forum, 12-03-2017
http://www.eastasiaforum.org/2017/03/12/abe-caught-out-in-school-scandal/

Abe Cabinet’s support rate dips six points to 55.7% amid ongoing Moritomo school scandal: poll, 12-03-2017
http://www.japantimes.co.jp/news/2017/03/12/national/politics-diplomacy/abe-cabinets-support-rate-dips-six-points-55-7-amid-ongoing-moritomo-school-scandal-poll/#.WMXFUtR954_

Video shows Japanese children being taught dangerous far-right ideology, The Hankyoreh, 01-03-2017
http://www.hani.co.kr/arti/english_edition/e_international/784673.html

Nationalist Osaka preschool draws heat for distributing slurs against Koreans and Chinese, Japan Times, 17-02-2017
http://www.japantimes.co.jp/news/2017/02/17/national/osaka-preschool-scrutinized-passing-slurs-koreans-chinese/#.WMW57NR954_

Osaka school in hate speech scandal now accused of backfilling tainted soil, 27-02-2017
http://www.japantimes.co.jp/news/2017/02/27/national/osaka-school-hate-speech-scandal-now-accused-backfilling-tainted-soil/#.WMW509R954_

ข้อมูลเพิ่มเติมจาก
https://en.wikipedia.org/wiki/Nippon_Kaigi

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท