ปภ.เตือน 59 จังหวัดรับมือน้ำท่วม

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประสาน 59 จังหวัด ทั่วประเทศเตรียมรับมือน้ำท่วม จากภาวะฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ส่วนเชียงรายแม่น้ำโขงทะลักท่วมหลายจุดแล้ว

30 ก.ค. 2561 เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่านายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่าจากการติดตามสภาวะอากาศ ปริมาณฝนสะสม สถานการณ์น้ำท่า และปัจจัยเสี่ยงเชิงพื้นที่ พบว่า ในช่วงที่ผ่านมามีฝนตกหนักในหลายจังหวัดของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ทำให้มีภาวะเสี่ยงที่จะเกิดน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ปภ. จึงได้ประสาน 59 จังหวัดทั่วประเทศเตรียมความพร้อมรับมือ

โดยภาคเหนือ 17 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชร ตาก พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ และอุทัยธานี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด ได้แก่ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ นคราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ ยโสธร และอุบลราชธานี ภาคกลาง 8 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี ราชบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ 14 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี นราธิวาส ยะลา ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย ให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

เชียงรายแม่น้ำโขงทะลักท่วมหลายจุดแล้ว

เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ รายงานว่าจากกรณีสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาเชียงราย กรมเจ้าท่าได้ประกาศเตือนมาอย่างต่อเนื่องให้ประชาชนริมฝั่งแม่น้ำโขงชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน จ.เชียงราย ให้เฝ้าระวังและติดตามระดับน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยมีแนวโน้มว่าระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นนั้น

ล่าสุดในช่วงเช้าน้ำได้ทะลักเข้าท่วมพื้นที่หลายจุดริมฝั่งแล้ว ซึ่งน้ำเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรเป็นส่วนใหญ่เช่น ไร่ข้าวโพดและนาข้าวในพื้นที่ ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน เป็นบริเวณกว้าง และยังเข้าท่วมท่าเรือหาดบ้าย หมู่ 1 ต.ริมโขง อ.เชียงจของ จุดผ่อนปรนแจมป๋อง หมู่ 5 ต.หล่ายงาว อ.เวียงแก่น ทำให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ในอาคารต้องโยกย้ายขึ้นมาด้านบน เพราะอาคารบางส่วนถูกน้ำทะลักเข้าท่วมแล้ว ส่วนชาวบ้านที่เคยมีสิ่งปลูกสร้างชั่วคราวริมฝั่งต่างพากันขนย้ายข้าวของไปไว้บนพื้นที่สูงและผูกโยงเรือให้แน่นหนา เนื่องจากน้ำไหลเชี่ยวและพาเอาเรือลอยขึ้นมาสูงกว่าระดับที่เคยเทียบเรือกันตามปกติ ขณะที่พื้นที่ทั่วไปริมฝั่งและโขดหินต่างๆ ได้ถูกน้ำเข้าท่วมจนไม่เห็นหาดทรายและเกาะแก่งท่ามกลางสภาพอากาศครึ้มสลับกับมีฝนตกลงมาตลอดทั้งวัน

ด้านนายสุรนาท ศิริโชติ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาเชียงราย กล่าวว่า จากระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์ทุกช่วงเวลา ซึ่งพบว่าในช่วงเช้านี้ระดับน้ำที่หน้าที่ว่าการ อ.เชียงแสน วัดได้ลึกประมาณ 6.98 เมตร หลังจากเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ลึก 6,30 เมตร และที่ผ่านมาได้มีการประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งทางอำเภอ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย ฯลฯ ให้ร่วมกันเฝ้าระวัง ด้านประชาชนที่ประสบอุทกภัยริมฝั่งสามารถแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือได้ตลอดเวลา

กระนั้นจากการติดตามข้อมูลจากคณะกรรมการแม่น้ำโขงหรือเอ็มอาร์ซีพบว่าล่าสุดปริมาณน้ำฝนทางตอนเหนือของแม่น้ำโขงได้ลดลงแล้ว หลังจากวานนี้มีฝนตกปริมาณ 40 มิลลิเมตร แต่วันนี้ลดลงเหลือเพียงแค่ 5 มิลลิเมตร ดังนั้นหากไม่มีน้ำฝนลงมาเพิ่มก็คาดว่าระดับน้ำจะลดลงเรื่อยๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายทัศนัย สุธาพจน์ นายอำเภอเชียงของ ได้เรียกประชุมผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้านกำนัน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนจากอุทกภัยริมฝั่งดังกล่าว โดยได้กำหนดเป็น 3 พื้นที่คือ พื้นที่หมู่บ้านริมฝั่งที่ประสบกับน้ำท่วมฉับพลัน ซึ่งที่ผ่านมาให้เตรียมพร้อมเคลื่อนย้ายข้าวของออกจากบ้านเรือนได้โดยทันทีแล้ว ส่วนพื้นที่ติดภูเขาให้ระวังดินโคลนไถลลงมาทับ และพื้นที่ติดลำห้วยให้เฝ้าระวังเรื่องน้ำไหลหลาก

รายงานข่าวแจ้งว่าก่อนหน้านี้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาเชียงราย ได้ออกประกาศเตือนประชาชนริมแม่น้ำโขงและลำน้ำสาขา ให้เฝ้าระวังและคอยฟังข้อมูลอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการรายงานค่าระดับน้ำให้ทราบทั้งในช่วงเช้า กลางวัน เย็น และที่ผ่านมาแจ้งว่าระดับน้ำ ณ หน้าที่ว่าการ อ.เชียงแสน เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ลึก 3.99 เมตร จากนั้นเพิ่มระดับอย่างต่อเนื่องโดยวันที่ 25 ก.ค.ลึก 4.20 เมตร วันที่ 26 ก.ค.ลึก 4.41 เมตร วันที่ 27 ก.ค.ลึก 4.82 เมตร วันที่ 28 ก.ค.ลึก 5.44 เมตร วันที่ 29 ก.ค.ลึก 6.30 เมตร และวันที่ 30 ก.ค.ลึก 6.98 เมตร

ส่วนสาเหตุที่คาดว่าเกิดจากช่วงระหว่างวันที่ 28-31 ก.ค.นี้ มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมพื้นที่ทางตอน จึงกำหนดพื้นที่ที่ควรเฝ้าระวังคือริมฝั่งแม่น้ำโขงและแม่น้ำสาขา เช่น แม่น้ำรวก แม่น้ำกก แม่น้ำคำ แม่น้ำอิง ฯลฯ โดยเฉพาะตรงปากแม่น้ำที่จะไหลลงสู่แม่น้ำโขงโดยให้เฝ้าระวัง สวนผู้ควบคุมเรือและคนประจำเรือทุกลำ ให้เดินเรือด้วยความระมัดระวังและงดออกเรือเมื่อมีฝนตกหนักหรือมีลมกรรโชกแรง ขณะเดียวกันขอให้จัดเตรียมอุปกรณ์ความปลอดภัยบนเรือและท่าเรือให้พร้อม เช่น ห่วงยาง เสื้อชูชีพ ฯลฯ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท