Skip to main content
sharethis

อัยการจังหวัดนาทวียื่นฟ้องคดีเพิ่มอีกเป็นคดีที่สอง 5 สมาชิกเครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน ต่อศาลจังหวัดนาทวี ความผิดฐานชุมนุมโดยไม่แจ้งและเคลื่อนย้ายการชุมนุมโดยไม่แจ้ง ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมฯ จากกรณีเดินเท้าไปยื่น จม. ร้องให้ยุติการสร้างโรงไฟฟ้าเทพา ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ ระหว่างการประชุมครม.สัญจร เมื่อปี 60

ภาพจาก เฟสบุ๊กแฟนเพจ 'หยุดถ่านหินสงขลา'

9 พ.ย.2561 ความคืบหน้าการดำเนินคดีเครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน ในความผิดฐานชุมนุมโดยไม่แจ้งการชุมนุม และเคลื่อนย้ายการชุมนุมโดยไม่แจ้ง ตามพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ จากกรณีการทำกิจกรรมเดินเท้าไปยื่นหนังสือเรียกร้องให้ยุติการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระหว่างการประชุมครม.สัญจร เมื่อปี 2560 นั้น

ล่าสุดวานนี้ (8 พ.ย.61) เฟสบุ๊กแฟนเพจ 'หยุดถ่านหินสงขลา' รายงานว่า บ่ายวันดังกล่าว อัยการจังหวัดนาทวียื่นฟ้อง เอกชัย อิสระทะ ดิเรก เหมนคร หมิด ชายเต็ม รอกีเยาะ สะมะแอ และอัยโยบ มุเซะ ในความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ต่อศาลจังหวัดนาทวี

โดย จำเลยทั้ง 5 คน ได้ยื่นหนังสือขอปล่อยตัวโดยไม่ใช่หลักประกัน ต่อมาในช่วงเย็นวันเดียวกัน ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัว แต่ให้ทั้ง 5 คน สาบานตัวมาศาลตามนัด

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานเพิ่มเติมคดีนี้ว่า เหตุสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 – 27 พ.ย. 2560 เครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน ได้ทำกิจกรรมเดินเท้าจากอำเภอเทพาเพื่อไปยื่นหนังสือต่อพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเดินทางมาประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรในตัวอำเภอเมืองสงขลา เพื่อเรียกร้องให้ยุติการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา แต่ในช่วงบ่ายของวันที่ 27 พ.ย. 60 ชาวบ้านผู้ร่วมกิจกรรมได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ร่วมกันเข้าสกัดกั้นและใช้กำลังเข้าจับกุม จนนำมาสู่การฟ้องร้องดำเนินคดีกับชาวบ้านเครือข่าย จำนวน 17 คน (หนึ่งในจำนวนนี้เป็นเยาวชนอายุ 16 ปี) ในหลายข้อหา ทั้งความผิดตามพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ, ข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน, ข้อหากีดขวางการจราจร, ข้อหาพกพาอาวุธ (ไม้คันธง) ไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต

คดีนี้ต่อมามีการสั่งฟ้องต่อศาลจังหวัดสงขลา และมีการนัดสืบพยานฝ่ายโจทก์และจำเลย ใช้เวลากว่า 5 เดือน จนเสร็จสิ้นไปเมื่อเดือนตุลาคม 2561 และศาลได้นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 27 ธ.ค. 2561 เวลา 9.00 น.

ระหว่างการถูกดำเนินคดีดังกล่าวอยู่ ในช่วงเดือนตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนสภ.เทพา ได้มีการออกหมายเรียกผู้ต้องหา 5 ราย ข้างต้น ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาใหม่อีก โดยสามรายในจำนวนนี้ ได้แก่ เอกชัย ดิเรก และอับโยบ ได้ถูกกล่าวหาดำเนินคดีในคดีแรกที่ศาลจังหวัดสงขลามาแล้ว

สำหรับคดีใหม่นี้ มีพ.ต.อ.วีรวุธ สันนะกิจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเทพาเป็นผู้กล่าวหา ในความผิดฐานร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้งก่อนเริ่มการชุมนุมไม่น้อยกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมง และเดินขบวน หรือเคลื่อนย้ายการชุมนุมโดยไม่แจ้งล่วงหน้าต่อหัวหน้าสถานีตำรวจซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลการชุมนุมสาธารณะ ตามพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558

ในชั้นสอบสวนทั้งห้าคนให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ก่อนที่เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 61 พนักงานสอบสวนสภ.เทพา ได้นัดส่งตัวผู้ต้องหาทั้งห้าคนให้อัยการ ผู้ต้องหาทั้งห้าได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการ โดยขอให้อัยการสอบสวนพยานเพิ่มเติมอีกสี่คน และขอให้พิจารณามีคำสั่งไม่ฟ้องคดี เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นผู้ปกป้องชุมชน มิได้กระทำความผิดหรือมีเจตนากระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา การดำเนินการของเจ้าหน้าที่เป็นเพียงเพื่อประสงค์จะปิดกั้นการใช้สิทธิของชุมชน ซึ่งจะเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ ทั้งยังอ้างอิงถึงระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่จะไม่เป็นประโยชน์แก่สาธารณะ

หนังสือขอความเป็นธรรมยังระบุว่าคดีนี้มีพฤติการณ์และข้อเท็จจริงเดียวกันกับคดีเทใจให้เทพาคดีแรก ที่กำลังต่อสู้คดีในศาลจังหวัดสงขลา และกำลังรอฟังคำพิพากษาในวันที่ 27 ธ.ค. นี้ จึงเป็นการดำเนินคดีที่ขัดต่อหลักการห้ามดำเนินคดีซ้ำ และยังก่อให้เกิดปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับการดำเนินคดีอาญาซ้ำในชั้นเจ้าพนักงานตามมาอีกด้วย

แต่หลังจากการส่งสำนวนให้อัยการเพียง 3 วัน พนักงานอัยการก็ได้มีการพิจารณาสั่งฟ้องคดีนี้ต่อศาลจังหวัดนาทวีทันที โดยไม่ได้มีการเรียกพยานฝ่ายผู้ต้องหามาสอบสวนเพิ่มเติม และพิจารณาคำร้องขอความเป็นธรรมดังกล่าว

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net