Skip to main content
sharethis

ซูซานา ชาปูโตวา ทนายความเสรีนิยมฉายา "อีริน บร็อคโควิช แห่งสโลวาเกีย" ชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของประเทศสโลวาเกีย โต้กระแสนักการเมืองต่อต้านสหภาพยุโรป นอกจากนี้ยังถือเป็นชัยชนะของฝ่ายเสรีนิยมจากจุดยืนเรื่องต่างๆ ของเธอ อีกปัจจัยหนึ่งคือเรื่องที่ผู้คนในสโลวาเกียกำลังเต็มไปด้วยความไม่พอใจกรณีการทุจริตคอร์รัปชันในประเทศหลังจากเกิดกรณีการสังหารนักข่าวที่กำลังสืบสวนสอบสวนกรณีการฉ้อโกงของคนใหญ่คนโตและคู่หมั้นของเขาเมื่อปีที่แล้ว

Zuzana Čaputová ประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสโลวาเกีย (ที่มา: Slavomír Frešo/Wikipedia)

1 เม.ย. 2562 ท่ามกลางกระแสความไม่พอใจการทุจริตคอร์รัปชันในประเทศสโลวาเกีย ที่กลายมาเป็นประเด็นหลักในช่วงก่อนการเลือกตั้งที่ผ่านมา ซูซานา ชาปูโตวา ทนายความเสรีนิยมสนับสนุนสหภาพยุโรปก็เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดี ทำให้เธอเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสโลวาเกียและของภาคพื้นยุโรป ฝ่ากระแสคลื่นนักการเมืองประชานิยมต่อต้านอียูที่อยู่รอบตัว

กรณีที่ทำให้ประชาชนชาวสโลวาเกียไม่พอใจเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันในประเทศตัวเองเกิดขึ้นหลังจากที่มีกรณีการสังหารนักข่าวชื่อ ญาณ คูเชียก ในบ้านพักพร้อมคู่หมั้นของเขา โดยที่ในตอนที่เขาถูกสังหารนั้น คูเชียกกำลังสืบสวนสอบสวนกรณีการฉ้อโกงของคนใหญ่คนโต

ชาปูโตวาชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงร้อยละ 58.41 สามารถเอาชนะผู้สมัครอีกรายหนึ่งในรอบตัดสิน คือ มารอช เชฟโชวิก นักการทูตอดีตกรรมาธิการยุโรปซึ่งได้คะแนนร้อยละ 41.59 ซึ่งผู้ที่ผ่านเข้าสู่การเลือกตั้งรอบตัดสินล้วนแต่เป็นผู้สมัครที่สนับสนุนสหภาพยุโรปทั้งสิ้น อย่างไรก็ตามมีการตั้งข้อสังเกตว่าในครั้งนี้ชาปูโตวาสามารถคัดง้างเอาชนะฐานอำนาจเดิมได้ในแง่ที่ว่าเชฟโชวิกเป็นผู้สมัครที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคสเมอร์ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลปัจจุบันที่ครองอำนาจในสภามายาวนานนับตั้งแต่ปี 2549

ชาปูโตวากลายเป็นฝ่ายออกนำมาตั้งแต่การเลือกตั้งรอบแรกจากที่เธอได้คะแนนตีห่างเชฟโชวิกมากกว่าร้อยละ 20 คาปูโตวาหาเสียงด้วยการบอกว่าจะชิงอำนาจรัฐมาจากคนที่ชักใยอยู่เบื้องหลังทางการเมืองคำพูดนี้สามารถเอาใจกลุ่มผู้ลงคะแนนเสียงที่เป็นคนรุ่นเยาว์และคนมีการศึกษาได้ ทั้งนี้ชาปูโตวายังมีนโยบายก้าวหน้ามากกว่าในทางสังคมและสิ่งแวดล้อม เช่นชูเรื่องความเท่าเทียม รวมถึงสนับสนุนสิทธิของผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBT) เทียบกับเชฟโชวิกผู้ที่ขัดขวางความก้าวหน้าของประเด็น LGBT

ผู้ชนะตำแหน่งประธานาธิบดีคนล่าสุดนี้มาจากพรรคสายก้าวหน้าชื่อโปรเกรสซีฟสโลวาเกียที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคฝ่ายค้านกับพรรคระดับเยาวชนในรัฐบาลที่เป็นตัวแทนของชนกลุ่มน้อยชาวฮังการีในสโลวาเกีย เธอกล่าวขอบคุณผู้ลงคะแนนทุกคนไม่ว่าจะเป็นชาวสโลวัก ชาวฮังการี ชาวเชค ชาวโรมา หรือชนกลุ่มน้อยเชื้อสายอื่นๆ อย่างไรก็ตามเธอบอกว่าจะออกจากพรรคโปรเกรสซีฟสโลวาเกียถ้าหากชนะการเลือกตั้ง 

ตำแหน่งประธานาธิบดีของสโลวาเกียนั้นไม่ได้มีอำนาจมากในการบริหารงานรายวัน แต่ก็เป็นตำแหน่งที่มีอำนาจแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี รวมถึงมีอำนาจยับยั้งการแต่งตั้งอัยการกับผู้พิพากษาระดับสูงด้วย

สำหรับคดีสังหารนักข่าวคูเชียกนั้นมีคนถูกตั้งข้อหาแล้ว 5 รายในกรณีนี้รวมถึงนักธุรกิจชื่อ มาเรียน คอชเนอร์ ผู้ที่เป็นเป้าหมายการสืบสวนสอบสวนของคูเชียกด้วย คดีดังกล่าวนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงการลอยนวลไม่ต้องรับผิดที่เกิดขึ้นในตลอดช่วงที่พรรคสเมอร์เป็นรัฐบาล ทั้งนี้การสังหารนักข่าวยังจุดชนวนให้เกิดการประท้วงใหญ่ในสโลวาเกียและบีบให้ผู้นำพรรคเสมอคือโรเบิร์ต ฟิโก ลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อปีที่แล้ว (2561)

ชาปูโตวาเองก็เคยต่อสู้คดีเป็นระยะเวลายาวนาน 14 ปี กับบริษัทของคอชเนอร์ จากการที่บริษัทของคอชเนอร์พยายามสร้างหลุมฝังขนาดใหญ่อย่างผิดกฎหมายในบ้านเกิดของเธอ ซึ่งเธอชนะคดีนี้ในที่สุดจนทำให้เธอได้รับสมญานามว่า "อีริน บร็อคโควิช แห่ง สโลวาเกีย" (อีริน บร็อคโควิช เป็นชาวอเมริกันผู้เคยฟ้องร้องบริษัทก๊าชและพลังงานในเรื่องที่ทำให้น้ำปนเปื้อนสารพิษจนทำให้ฝ่ายเธอได้รับชัยชนะ เรื่องนี้กลายเป็นภาพยนตร์ที่นำแสดงโดยจูเลีย โรเบิร์ต ในเวลาต่อมา)

เรื่องนี้ยังกลายเป็นการเริ่มต้นการต่อสู้ระหว่างฝ่ายเสรีนิยมทางสังคมกับฝ่ายอนุรักษ์นิยมในสโลวาเกียด้วย จากการที่นักวิเคราะห์มองว่าชัยชนะของฝ่ายเสรีนิยมทางสังคมอย่างชาปูโตวาจะกลายเป็นการขับดันให้ฝ่ายสเมอร์สู้กลับจากที่ฟิโกเคยกล่าวหาฝ่ายเสรีนิยมไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าเป็น "พวกคนที่ไร้ค่านิยม" อย่างไรก็ตามชัยชนะของชาปูโตวากลายเป็นการขับเคลื่อนให้ฝ่ายค้านที่ต้องการแทนที่พรรคสเมอร์ในการเลือกตั้งทั่วไปปีหน้า (2563) ทั้งนี้ยังทำให้แผนการของฟิโกที่จะเลิกเล่นการเมืองผันตัวไปเป็นประธานศาลรัฐธรรมนูญกลายเป็นเรื่องยากขึ้นด้วยเพราะประธานาธิบดีมีอำนาจยับยั้งการแต่งตั้งตำแหน่งนี้ได้

พรรคสเมอร์ในสโลวาเกียนั้นถูกมองว่าเป็นพรรคสายอนุรักษ์นิยมที่มีท่าทีต่อต้านอียู โดยมีการส่งสัญญาณในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าพรรคสเมอร์จะร่วมมือกับพรรคขวากลางและขวาจัดในประเทศเพื่อยับยั้งการให้สัตยาบันแก่สนธิสัญญาของยุโรปในด้านการต่อต้านความรุนแรงต่อสตรีด้วย

เรียบเรียงจาก

Anti-corruption lawyer Zuzana Caputova wins election to become Slovakia’s first female president, The Independent, 31-03-2019

ข้อมูลเพิ่มเติมจาก

https://en.wikipedia.org/wiki/2019_Slovak_presidential_election

https://en.wikipedia.org/wiki/Maro%C5%A1_%C5%A0ef%C4%8Dovi%C4%8D

https://en.wikipedia.org/wiki/Zuzana_%C4%8Caputov%C3%A1

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net