Skip to main content
sharethis

ตรวจคัดเลือกทหารกองเกินเข้าเป็นทหารกองประจำการชายแดนใต้ หนุ่มเข้าผ่อนผันทหารที่ยะลา เจอรอตรวจ DNA กว่า 3 ชม. จัดการแย่เอาคนหลายร้อยไว้ในทางแคบ สงสัยทำไมไม่แจ้งก่อน

ภาพทางแคบระหว่างรอตรวจดีเอ็นเอ

4 เม.ย.2562 จากรายงานข่าวของ ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ถึงการตรวจคัดเลือกทหารกองเกินเข้าเป็นทหารกองประจำการ ของเขตพื้นที่อำเภอเมืองยะลา วานนี้ (3 เม.ย.62)ซึ่ง พ.อ.ชลัช  ศรีวิเชียร รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา ระบุว่า ในการตรวจเลือกปีนี้ได้มีการเก็บสารพันธุกรรม หรือดีเอ็นเอ ของผู้ที่เข้ารับการตรวจเลือกทุกคน เพื่อนำไปเป็นฐานข้อมูล ด้วยนั้น

ล่าสุดวันนี้ (4 เม.ย.62) ผู้สื่อข่าวประชาไทสัมภาษณ์ 'เออซิล' (นามสมมติ) อายุ 23 ปี หนึ่งในผู้ที่ผ่านกระบวนการดังกล่าวที่ จ.ยะลา เปิดเผยว่า วานนี้ตนไปผ่อนผัน เนื่องจากตนผ่อนผันมาแล้ว 2 ปี สำหรับการตรวจดีเอ็นเอนั้นทุกคนที่เข้ากระบวนการตรวจเลือกต้องตรวจตรงนี้ด้วย ไม่ว่าจะจับใบดำใบแดง สมัคร หรือ ไม่ได้ขนาด หรือผ่อนผัน ทั้งชาวพุทธและมุสลิม 

ตนผ่อนผันเสร็จประมาณ 12.00 น. ปีก่อนจะมีกระบวนเพิ่มคือพาไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด แต่ปีนี้ต้องรอเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งใช้เวลานานมาก โดยสถานที่ตรวจเลือกนั้นจะมีทางแคบระหว่างที่ตรวจดีเอ็นเอกับห้องประชุมใหญ่ คนประมาณ 300-400 คนต้องรอบริเวณดังกล่าว 3-4 ชั่วโมงกว่าจะเสร็จ โดยไม่สามารถออกไปทำธุระได้ ต้องทำให้เสร็จก่อน มีเพียงส่วนที่ต้องไปจับใบดำใบแดงที่เมื่อจับเสร็จแล้วก็ต้องมารอตรวจดีเอ็นเอใหม่ โดยเจ้าหน้าที่จะเอาบัตรประชาชนก่อน และให้เซ็นชื่อยินยอม โดยไม่ถามก่อนว่าพวกตนจะยินยอมหรือไม่ จากนั้นก็เอาดีเอ็นเอจากกระพุ้งแก้มและให้เซ็นกำกับว่าเป็นของเรา

ภาพทางแคบระหว่างรอตรวจดีเอ็นเอ

เออซิล กล่าวด้วยว่า ตนถามไปว่า ทำไมปีนี้ถึงมีการเก็บดีเอ็นเอด้วย เจ้าหน้าที่ก็แจ้งกับตนว่า เขาจะเก็บไว้ในสารบบ และเมื่อถามต่อว่าการเก็บนี้ดำเนินการเก็บทั่วประเทศหรือไม่ เจ้าหน้าที่ตอบว่าเฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนใต้ จ.ปัตตานี จ.ยะลา จ.นราธิวาส และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา

ตนยืนยันว่าให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ เพียงแต่สงสัยว่าทำไมเจ้าหน้าที่ไม่มีการชี้แจงถึงเหตุผลที่จะเอาดีเอ็นเอก่อนหน้ากระบวนการ รวมทั้งขอความเห็นและความยินยอมจากประชาชนก่อนว่าจะให้ตรวจหรือไม่ แต่กระบวนการคือมาตรวจเลย โดยให้ไปเข้าแถวรอในห้องที่แออัดมาก และรออย่างยาวนานด้วย 

"ในพื้นที่ เวลาไปไหนเขาก็ถ่ายบัตรประชาชนและถ่ายรูปเราพร้อมกับมอเตอร์ไซค์ ผมก็ว่าอันนี้มันยังเป็นการละเมิดอยู่ แต่ผมก็เข้าใจในตัวของเจ้าหน้าที่และผมรับได้ในส่วนนี้ แต่ในการที่เจ้าหน้าที่จะฉวยประโยชน์ในช่วงการเกณฑ์ทหารและตรวจเอาดีเอ็นเอไปใส่ในสารบบหรือว่าไปทำเป็นฐานข้อมูลอะไรก็แล้วแต่ ผมคิดว่ามันจะต้องได้รับความยินยอมจากเยาวชนก่อน" เออซิล กล่าว พร้อมระบุว่า หากดูในกฎหมายการตรวจดีเอ็นเอมันจะต้องได้รับการยินยอมก่อน แม้ในกระบวนการจะมีเอกสารใบยินยอมให้ตรวจดีเอ็นเอนั้น แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ชี้แจงให้เข้าใจก่อนจะให้พวกตนเซ็นชื่ออย่างเดียว ส่วนใหญ่ทุกคนจะให้ความร่วมมือหมดเลยเพราะเยาวชนในพื้นที่ต้องการให้กระบวนการผ่านๆ ไป แม้จะมีบางคนตั้งคำถามก็ตาม ตนจึงมองว่ามันผิดกระบวนการ

พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ จากมูลนิธิผสานวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คถึงกรณีการบังคับตรวจเก็บดีเอ็นเอเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่นั้น พรเพ็ญ ระบุว่า  การตรวจเก็บดีเอ็นเอ โดยต้องได้รับข้อมูลเป็นที่พอใจและเข้าใจก่อนว่าจะเก็บไปทำอะไรอย่างไร เพื่ออะไร ต้องได้รับการยินยอม การบังคับตรวจเก็บดีเอ็นเอ เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน จะใช้อำนาจกฎอัยการศึกหรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่ได้ กฎหมายป.วิอาญาให้อำนาจแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญในการเก็บดีเอ็นเอ ตามคำสั่งของพนักงานสอบสวน เมื่อมีการแจ้งข้อหาแล้วเท่านั้น และสามารถปฏิเสธการตรวจได้

นอกจากนี้ พรเพ็ญ ยังยกความเห็นของ อับดุลกอฮาร์ อาแวปูเต๊ะ ผู้อำนวยการมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ให้ไว้เมื่อปี 2558 อับดุลกอฮาร์ กล่าวว่า การเก็บตัวอย่าง DNA นั้น เจ้าหน้าที่สามารถเก็บได้เฉพาะผู้ต้องหาเท่านั้น โดยเจ้าหน้าที่ต้องแจ้งข้อกล่าวหาว่าเขาทำผิดอะไร แล้วจึงขอเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอได้ เพื่อตรวจสอบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับวัตถุพยานหรือหลักฐานในที่เกิดเหตุหรือไม่

“กรณีที่ผู้ต้องหาปฏิเสธไม่ยอมให้เก็บ ตามกฎหมายให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า มันอาจเป็นผลร้ายกับผู้ต้องหาคนนั้น เพราะการเก็บตัวอย่าง DNA คือส่วนหนึ่งของกระบวนการสอบสวนเพื่อยืนยันความผิด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องมีพยานหลักฐานอื่นประกอบการพิจารณาคดีด้วย ไม่ใช่ยึด DNA อย่างเดียว” อับดุลกอฮาร์ กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net