Skip to main content
sharethis

ฝัน 'รัฐบาลแห่งชาติ' ของ เทพไท ปชป. ส่อแท้ง 2 ขั้วการเมืองร่วมค้าน 'เพื่อไทย-อนาคตใหม่' อัดขัดหลักการ ด้าน 'พลังประชารัฐ' โยนกลุ่มรวมเสียงไม่ได้ปั่นกระแส เท่านั้นยังไม่พอ 'ไพบูลย์' ซัดเป็นข้อเสนอมุ่งขจัด 'ประยุทธ์'

16 เม.ย.2562 หลัง เทพไท เสนพงศ์ ว่าที่ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เสนอตั้งรัฐบาลแห่งชาติ โดยมีรายชื่อ 4 ชื่อที่เสนอเป็นนายกฯ คือ 1.พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี และอดีต ผบ.ทบ. 2. พลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี 3. ศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) และ 4. ชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี นั้น ดูเหมือนจะไม่ได้รับการตอบรับจากพรรคการเมืองขั้วต่างๆ 

'เพื่อไทย-อนาคตใหม่' อัดขัดหลักการ

วันนี้ (16 เม.ย.62) ภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงวาทกรรม เรื่องรัฐบาลแห่งชาติ ว่า สถานการณ์การเมืองในสังคมไทย กำลังอยู่บนเส้นทางที่ถูกทำให้เข้าใจว่าเรากำลังจะก้าวไปสู่ทางตัน ในขณะที่การเลือกตั้งอันเป็นวิถีทางที่ประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ได้ฝากความหวังและแสดงออกเพื่อสะท้อนเจตนารมณ์ของตนกลับไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้ เพราะการเลือกตั้งยังไม่แล้วเสร็จ

การเลือกตั้งครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งที่มาราธอนมากครั้งหนึ่ง จนถึงวันนี้ลุล่วงมากว่า 3 สัปดาห์ กกต.ยังไม่สามารถสรุปวิธีคำนวณ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อได้ ทั้งๆที่ กฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 91 และ พรป.เลือกตั้ง มาตรา1 28 ได้ตราไว้เป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน ถึงวิธีการคำนวณ จำนวน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ประเด็นสำคัญประการหนึ่งที่นักฎหมาย ฝ่ายผู้มีอำนาจและองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องหลายองค์กรทำเป็นไม่เข้าใจหรือละเลยที่จะพิจารณาก็คือ “ประเทศไทย เป็นประเทศที่ใช้ระบบกฎหมาย ลายลักษณ์อักษร” ดังนั้นเมื่อรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญระบุเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจนว่า การได้มาซึ่งระบบ ส.ส. บัญชีรายชื่อจะได้มาอย่างไร

พร้อมทั้งมีการกำหนดวิธีการได้มา ด้วยการคำนวณเป็นขั้นตอนในวรรคต่างๆ ทั้งมาตรา9 ของรัฐธรรมนูญและวรรคต่างๆของมาตรา 128 ของพรป.เลือกตั้ง หาก กกต. ปฎิบัติอย่างตรงไปตรงมาและตีความตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กระบวนการและกลไกต่าง ๆ ก็จะเดินไปตามครรลอง ไม่มีปัญหาใดๆมาให้เราครุ่นคิด เรื่องทางตันแต่อย่างใด

ภูมิธรรม กล่าวว่า หากเราพิจารณาด้วยดุลยพินิจ จะเห็นว่าทุกขั้นตอนที่เกิดขึ้นตั้งแต่ กติกาของัฐธรรมนูญ และกระบวนการเลือกตั้งทั้งปวง ล้วนจงใจ ออกแบบมาให้เกิดความยุ่งยาก และมีปัญหามาตั้งแต่ต้นทาง อันนำมาสู่ปัญหาทั้งปวงที่ไม่รู้จบ ความจงใจในการเบียดขับพรรคการเมืองที่ไม่ใช่พวกพ้องตน การแสดงออกด้วยความละเลยเมินเฉย ในการรับฟังเสียงและเหตุผลของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งพรรคการเมือง นักวิชาการ สถาบันการศึกษา องค์กรเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยต่าง ๆ กำลังส่งสัญญาณที่ชวนให้เกิดความคลางแคลงใจว่า กกต. มีเป้าหมายหรือนัยยะซ่อนเร้นอย่างใด หรือไม่ และผลกระทบที่จะตามมาต่อประเทศจะเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ สังคมไปอีกยาวนานเพียงใด เมื่อหลายฝ่ายส่งสารเกี่ยวกับ วาทกรรมรัฐบาลแห่งชาติ เพื่อหวังว่าจะเป็นแนวทางแก้ปัญหาของทางตันนี้

“ผมจึงไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ที่มีความพยายามจะทำให้เกิดทางตันทั้งปวง และพยายามจะเสนอทางออกเรื่อง รัฐบาลแห่งชาติโดยคิดว่าจะให้สังคมยอมรับเป็นทางเลือก ที่จำเป็นของสังคมไทยทั้งที่ยังไม่ได้เห็นความพยายามใดๆ ที่จะทำให้ทางออกเกิดขึ้นตามเงื่อนไขและกลไกประชาธิปไตย กกต. และผู้มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องต้องทำงานอย่างโปร่งใส ยึดถือความถูกต้องและผลประโยชน์ของสังคมส่วนรวมเป็นที่ตั้ง แล้วประเทศจะมีทางออก รีบประกาศผลการเลือกตั้ง อย่างตรงไปตรงมา และเที่ยงธรรม โดยเร็วประเทศไทยยังมีทางออก และระบอบประชาธิปไตย ยังเป็นความหวังที่สร้างทางออกร่วมกันอย่างเป็นจริง” ภูมิธรรม กล่าว

เช่นเดียวกับ พรรคอนาคตใหม่ ที่ พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคฯ ออกมาบอกว่าฃข้อเสนอรัฐบาลแห่งชาติเป็นไปไม่ได้ด้วยเหตุผล 3 ข้อ ประกอบด้วย คือ ขัดรัฐธรรมนูญ ต่อให้ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ก็ขัดต่อหลักประชาธิปไตยระบบรัฐสภาอย่างชัดเจน และขัดต่ออุดมการณ์ของพรรคอนาคตใหม่เอง 

พปชร. โยนกลุ่มรวมเสียงไม่ได้ปั่นกระแส

ขณะที่ฝ่ายสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ต่อก็ออกมาปฏิเสธแนวคิดรัฐบาลแห่งชาติด้วย ตั้งแต่ ธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงแนวคิดการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติว่า เป็นไปไม่ได้ มั่นใจว่าทุกอย่างยังไม่ถึงทางตัน สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ตามปกติอย่างแน่นอน และเชื่อว่าพรรค พปชร.จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ พร้อมทั้งสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นนายกฯต่อไป นอกจากนี้ช่วงสงกรานต์มีข่าวลือข่าวปล่อยเยอะไปหมด ทำให้พี่น้องประชาชนสับสน อยากจะฝากพี่น้องประชาชนได้ไตร่ตรอง อย่าไปเชื่อข่าวลือ เพราะบางเรื่องนำไปสู่ความแตกแยกและความวุ่นวายของบ้านเมือง และไม่ใช่เรื่องจริง เป็นการปล่อยข่าวเพื่อหวังผลทางการเมืองของผู้ไม่หวังดีเท่านั้น

ขณะที่ สมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการพูดถึงรัฐบาลแห่งชาติ ว่า หากเราสังเกตดูจะเห็นว่า คนที่คิดถึงรัฐบาลแห่งชาติ คือคนในกลุ่มหรือฝ่ายที่มีคะแนนเสียงที่ไม่มั่นคง ไม่ถึง 250 ใช่หรือไม่ จึงพยายามชวนไปหารัฐบาลแห่งชาติ แต่สถานการณ์คงไม่เป็นไปถึงทางตันเช่นนั้น และจะมีการจัดตั้งรัฐบาลปกติได้ คนที่เกี่ยวข้องกับการร่างรัฐธรรมนูญได้ออกมาให้ความชัดเจน มีแนวทางและวิธีการคำนวณที่ทำให้กกต.ยึดเป็นแนวปฏิบัติ เป็นทางออกสำหรับทุกเรื่องได้ ดังนั้นเรื่องความรุนแรงคงไม่มี ถ้าจะมีคงเป็นเรื่องดินฟ้าอากาศ พายุฤดูร้อน บางคนอาจจะบอกว่าเป็นเรื่องของดวง แต่นี่คือเรื่องปกติของฤดูกาล 

เมื่อถามว่า รัฐบาลแห่งชาติ มีโอกาสเกิดขึ้นหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า รัฐบาลแห่งชาติที่พูดกันอยู่เชื่อว่าไม่มี เพราะสุดท้ายแล้วพรรคการเมืองที่มีอยู่จะปรับตัวเข้าหากันได้ ไม่มีใครอยากถอยกลับไปสู่ความวุ่นวายขัดแย้ง ทุกคนพร้อมทำงานเพื่อบ้านเมือง

เมื่อถามว่า จากประสบการณ์ในวงการการเมืองที่ผ่านมา เสียงปริ่มน้ำมองว่าพรรคพลังประชารัฐจะตั้งรัฐบาลยากหรือไม่ สมศักดิ์ กล่าวว่า ผู้ที่เขียนรัฐธรรมนูญวิเคราะห์ไว้ก่อนแล้วจึงมี ส.ว. ช่วยทำให้บรรยากาศไม่รุนแรง หากรัฐธรรมนูญไม่พูดถึง ส.ว. 250 คน วันนี้การเมืองอาจจะลุกเป็นไฟ เป็นความฉลาดของผู้ร่าง ที่ทำให้สมการออกมาและเดินต่อไปได้ ที่เตรียมการมาได้ใช้จริง คนเขียนมองได้ขาด

'ไพบูลย์' ซัดเป็นข้อเสนอมุ่งขจัด 'ประยุทธ์'

ขณะที่วานนี้ (15 เม.ย.62) ไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป กล่าวถึงข้อเสนอการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ว่า ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องเก่าที่พูดกันมานาน เป็นข้อเสนอจากกลุ่มบุคคลที่ไม่ชอบ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ นั่นเอง ซึ่งข้อเสนอรัฐบาลแห่งชาติ ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก่อนหน้านี้ก็เคยมีการเสนอมาตลอด

“พอมาครั้งนี้กลุ่มที่มาเรียกร้องจะเห็นได้ชัดว่าส่วนใหญ่ไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งหมดนี้จึงเป็นการเสนอเทคนิคในการขจัด พล.อ.ประยุทธ์ ออกไป และช่วงชิงชัยชนะทางการเมืองมาเท่านั้นเอง ซึ่งเชื่อว่าการตั้งรัฐบาลแห่งชาติโอกาสมันไม่เกิดขึ้นเพราะมีหลายขั้นตอน ไม่มีทางที่เป็นไปได้ และมั่นใจว่าการตั้งรัฐบาลปกติก็น่าจะทำได้ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร” ไพบูลย์ กล่าว

เรียบเรียงจาก วอยส์ออนไลน์ มติชนออนไลน์ และข่าวสดออนไลน์  

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net