เริ่มงานนอกสภา 'ธนาธร' เปิดเวทีฟังปัญหาชาวประมงมหาชัย จ่อดันแก้กฎหมาย

“ธนาธร” ลุยงานนอกสภาแล้ว เปิดเวทีฟังปัญหาชาวประมง “มหาชัย” เตรียมดันเพื่อ ส.ส. “อนาคตใหม่” แก้กฎหมายในสภาฯ 

31 พ.ค.2562 พรรคอนาคตใหม่รายงานว่า ที่ตลาดมั่นคงมหาชัย จ.สมุทรสาคร ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ร่วมเวทีรับฟังปัญหาของชาวประมงในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร โดยเป็นบทบาทในฐานะผู้แทนราษฎรนอกสภาครั้งแรก ตามที่นายธนาธรได้เคยกล่าวไว้ว่าจะเดินหน้าทำงานนอกสภา หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว ทั้งนี้ มีตัวแทนชาวประมง ผู้ประกอบการประมง สมาคมประมง และตัวแทนจากหอการค้าจังหวัด มาร่วมสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้น โดยตัวแทนผู้ประกอบการส่วนหนึ่งสะท้อนว่าปัญหาที่เกิดขึ้นโดยหลักแล้วมาจากการบังคับใช้กฎหมายฉบับใหม่ของรัฐบาลที่ผ่านมา โดยยืนยันว่าสิ่งที่เป็นกฎหมายสากลชาวประมงเองก็ต้องให้ความเคารพและมีการปรับตัว แต่วันนี้ ประเทศไทยกำลังทำเกินกว่าที่กฎหมายสากลกำหนดไว้ หลายครอบครัวไม่สามารถทำประมงได้ทั้งๆที่เป็นอาชีพที่ยึดมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่า ปัจจุบันยังมีเรือประมงอีกหลายลำที่ไม่สามารถออกเรือได้ หรือขาดแรงงานที่จะมาทำประมง

รายงานข่าวยังระบุว่า ตัวแทนชาวประมงส่วนใหญ่เห็นร่วมกันว่า ต้องการให้มีการแก้ไขกฎหมาย โดยทางฝั่งชาวประมงเองก็พร้อมที่จะยอมรับกฎหมายที่สมเหตุสมผล เช่น การกำหนดเขตจับสัตว์น้ำ การกำหนดความถี่ของอวน เป็นต้น ส่วนเรื่องของแรงงาน เห็นว่าควรต้องมีการปรับมาตรการบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามหลักมาตรฐานสากลด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังเห็นว่าควรจะมีการเยียวยาชาวประมงที่ได้รับผลกระทบ ตลอดจนฟื้นฟูการทำประมง โดยให้เป็นไปตามหลักกฎหมายสากลที่ถูกต้อง โดยยอมรับว่าชาวประมงเองก็ต้องมีการปรับตัว เพื่อรักษาทรัพยากรทางทะเลให้สัตว์น้ำมีปริมาณที่มากอยู่

หลังการรับฟังความคิดเห็น ธนาธร กล่าวกับตัวแทนชาวประมงและประชาชนที่มาร่วมเวทีในวันนี้ โดยระบุว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในวันนี้กำลังส่งผลกระทบอย่างเป็นวงกว้างไปถึงทุกภาคส่วน ตั้งแต่เรือประมงไปจนถึงห้องเย็นและผู้ค้าในตลาด แต่การจะบอกว่าหลักการ IUU ซึ่งรัฐนำมาบังคับใช้ผิดไปทั้งหมดก็ไม่ใช่ เพราะการทำประมงในประเทศไทยในอดีตก็มีปัญหาจริงๆ ตั้งแต่เครื่องมือการจับสัตว์น้ำที่ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรทางทะเล ไปจนถึงการละเมิดสิทธิแรงงาน ต้องยอมรับว่าเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นจริง  แต่ทว่าการบังคับใช้กฎหมายนี้ในปัจจุบันเกิดขึ้นภายใต้รัฐบาล คสช.ที่ไม่มีฝ่ายค้าน ไม่เคยมีการรับฟังปัญหาจากชาวประมง ที่ผ่านมามีแต่การรับฟังปัญหาจากทุนขนาดใหญ่ที่ผูกขาดการส่งออกปลาทูน่า ซึ่งได้รับผลกระทบจากการออกใบส้มของสหภาพยุโรปไปด้วย ดังนั้น การออกมาตรการบังคับใช้ดังกล่าว จึงกลายเป็นมาตรการบังคับใช้กฎหมายต่อชาวประมงขนาดกลางและขนาดย่อย เพื่อให้ทุนขนาดใหญ่สามารถส่งออกได้ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก

“ถ้าเป็นบรรยากาศประชาธิปไตยปกติ พ.ร.บ.ประมงตัวนี้ผ่านไม่ได้ เพราะเรามีผู้แทนในสภาที่ประชาชนสามารถมาหา มาสะท้อนปัญหา ไปเสนอปัญหาไปคัดค้านรายละเอียดในสภาได้ แต่ 5 ปีที่ผ่านมาเราไม่มีผู้แทน การชุมนุมก็ถูกสั่งห้าม มันเลยออกมาเป็นแบบนี้ ส่วนหนทางการแก้ปัญหานั้น แม้กฎหมายที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบันจะมีปัญหา แต่การแก้ไขก็ยังคงต้องรักษาหลักการสำคัญ 3 ประการเอาไว้อยู่ คือประการแรก ทรัพยากรทางทะเลจะต้องได้รับการรักษาไว้ให้ยั่งยืน จะไปใช้หมดไม่ได้ ประการที่สอง ทรัพยากรชายฝั่งก็ต้องรักษาไว้ และประการที่สาม สิทธิมนุษยชนของแรงงานต้องรักษาไว้ด้วย ต้องปฏิบัติต่อแรงงานไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือต่างด้าวอย่างให้เกียรติ มีศักดิ์ศรี” ธนาธรกล่าว

หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวทิ้งท้ายว่า สิ่งที่เราต้องทำคือการไปดูในรายมาตรา จะแก้ไขในเรื่องไหน สิ่งที่เราสัญญาได้ คือเรามีความตั้งใจที่จะเอา พ.ร.บ.ประมง 2560 และกฎหมายลูกอื่นๆไปแก้ไขหรือร่างใหม่ให้เหมาะสม โดยมีการรับฟังความคิดเห็นจากชาวประมงและผู้เชี่ยวชาญ เรื่องต่อมาคือการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายที่เกินกว่าเหตุ และการนำเอากองทัพออกจากการจัดการประมง นี่คือเรื่องของพลเรือน นี่คือสิ่งที่เราจะทำ แต่เราไม่ขอลงรายละเอียด เพราะธนาธรไม่ใช่ชาวประมง เราต้องเอาชาวประมง เอาผู้เชี่ยวชาญ เอานักวิทยาศาสตร์ทางทะเลมาคุยกันว่าจะต้องแก้ไขตรงไหน เพื่อให้การทำประมงเป็นไปโดยมีประสิทธิภาพสูงสุดและยังคงทำให้ทรัพยากรสัตว์น้ำฟื้นฟูตัวเองได้อย่างยั้งยืน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท