Skip to main content
sharethis

25 มิ.ย. 2562 ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า ประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้กล่าวถึงกรณีที่พนักงานอัยการสำนักงานจังหวัดพัทยา ไม่สามารถนำตัว สุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน มาฟ้องต่อศาลจังหวัดพัทยาในคดีเกิดเหตุความวุ่นวายในการชุมนุมระหว่างประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่พัทยา เมื่อปี 2552 จนคดีขาดอายุความว่า ได้รับชี้แจงข้อมูลจากสำนักงานอัยการจังหวัดพัทยาว่า เดิมเหตุการณ์ในคดีเกิดเมื่อวันที่ 11 เม.ย.52 ซึ่งคดีนี้กลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดีนั้นมีอายุความ 10 ปี และจะหมดอายุความในวันที่ 11 เม.ย.62 ซึ่งคดีนี้พนักงานสอบสวนได้รวบรวมสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง ผู้ต้องหาประกอบด้วย วีระกานต์ มุสิกพงศ์, ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, จตุพร พรหมพันธุ์, นพ.เหวง โตจิราการ, จักรภพ เพ็ญแข, อดิศร เพียงเกษ และสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ในความผิดฐานร่วมกันโฆษณา หรือประกาศให้ขัดคำสั่งเจ้าพนักงานซึ่งสั่งให้เลิกการมั่วสุม, ร่วมกันโฆษณาหรือประกาศให้กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาหรือวิธีอื่นใดเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน มาส่งอัยการในวันที่ 1 ส.ค.60 ในส่วนของจักรภพ ผู้ต้องหาได้มีการหลบหนีออกนอกประเทศ จึงได้มีการขอศาลออกหมายจับตั้งแต่ต้น

โดยหลังจากที่อัยการเจ้าของสำนวนรับสำนวนมา ก็มีการสั่งสอบสวนเพิ่มเติมตามรูปคดี ประกอบกับกลุ่มผู้ต้องหามีการยื่นร้องขอความเป็นธรรมเข้ามา ซึ่งทางอัยการก็ได้มีการพิจารณาระหว่างที่รอผลการสอบสวนเพิ่มเติม จนวันที่ 8 ก.พ. ทางพนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาทุกคน

และได้นัดให้ผู้ต้องหามาวันที่ 25 ก.พ.เพื่อนำตัวยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดพัทยา แต่ปรากฏว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดขอเลื่อนการส่งตัวฟ้อง อัยการก็อนุญาตให้เลื่อนเป็นวันที่ 19 มี.ค. แต่ระหว่างที่จะถึงวันนัดฟังคำสั่ง วันที่ 15 มี.ค.สุภรณ์ ก็ได้มาขอเลื่อนนัดฟังคำสั่งโดยอ้างเหตุติดปราศรัยเลือกตั้ง

ส่วน วีระกานต์, ณัฐวุฒิ, จตุพร, นพ.เหวง เดินทางมาตามนัดวันที่ 19 มี.ค. อัยการจึงยื่นฟ้องทั้ง 4 เป็นจำเลยต่อศาลจังหวัดพัทยา ในวันดังกล่าว จะขาดเพียงอดิศร และนายสุภรณ์ ซึ่งไม่ได้มาโดยอ้างเหตุติดหาเสียงเช่นเดียวกัน

ณัฐวุฒิสังเวชใจ หลังอัยการนำตัวแรมโบ้อีสาน มาฟ้องคดีล้มประชุมอาเชียนปี 52 ไม่ทัน

ทางอัยการ จึงมีคำสั่งให้เลื่อนวันนัดฟังคำสั่งของ 2 ผู้ต้องหา ที่เหลือไปเป็นวันที่ 2 เม.ย. พอถึงวันที่ 2 เม.ย. นายอดิศร เดินมาตามนัด อัยการจึงนำตัวฟ้องศาลตามไปกับจำเลยทั้ง 4 ที่ฟ้องไปก่อนหน้านี้

แต่ในส่วนของสุภรณ์ ก่อนที่จะถึงวันนัดวันที่ 2 เม.ย.นั้นได้มีการส่ง ศุชัยวุฒิ ชาวสวนกล้วย ทนายความ มายื่นคำร้องขอเลื่อนนัดฟังคำสั่งเนื่องจากตัวสุภรณ์ มีอาการหายใจไม่ออก และนอนแอดมิทพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล แต่ทางอัยการพิจารณาแล้วไม่อนุญาตให้เลื่อน

เมื่อถึงเวลานัดไม่มา อัยการจึงได้มีหนังสือด่วนที่สุดถึง ผกก.สภ.เมืองพัทยา และ ผบช.ภ.2 ให้ดำเนินการจับกุมตัวสุภรณ์ มาส่งอัยการฟ้องต่อศาลให้ได้ภายในวันที่ 5 เม.ย.เเต่ทางตำรวจได้แจ้งว่า ยังไม่สามารถนำตัวมาได้ จึงดำเนินการขอศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับ สุภรณ์ วันที่ 4 เม.ย. โดยหลังออกหมายจับ ทางอัยการยังได้มีหนังสือด่วนที่สุด ออกมาอีกส่งถึง ผกก.สภ.พัทยา, ผบช.ภ.2, ผบก.ชลบุรี, นายอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งดำเนินการจับกุมตัวสุภรณ์ มาให้อัยการฟ้องต่อศาลให้ได้ เนื่องจากคดีของสุภรณ์ จะหมดอายุความในวันที่ 11 เม.ย. โดยในหนังสือที่ส่งถึงทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้เน้นย้ำเป็นอักษรดำเข้ม

“ผมขอเรียนว่าเรื่องนี้ทางอัยการไม่ได้มีการปล่อยปละละเลยจากที่ตนได้อธิบายเป็นขั้นตอนจะเห็นได้ว่า ในระหว่างดำเนินการที่เรารับสำนวนมาเป็นช่วงหลังเกิดเหตุถึง 8 ปีกว่า ซึ่งเราจะสั่งคดีเลยก็ไม่ได้ เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาร้องขอความเป็นธรรม พอเราสั่งเด็ดขาดช่วง ก.พ.62 เราก็มีการเร่งรัดที่จะฟ้องมาตลอดอย่างกรณี ณัฐวุฒิ, จตุพร ก็เลื่อนหลายครั้งจนมาฟ้องชุดแรกได้ 15 มี.ค.62 และชุด 2 ที่อดิศร วันที่ 2 เม.ย. ส่วนแรมโบ้ไม่มาเราก็ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างละเอียด เราไม่ได้ปล่อยปละละเลยแน่นอน คดีนี้ที่เราไม่ได้ตัวมาฟ้องจนหมดอายุความก็จะมีสุภรณ์กับจักรภพ ที่หนีไปต่างประเทศ การไปตามจับก็ไม่ใช่หน้าที่อัยการ แต่เราทำตามขั้นตอนทุกอย่าง ส่วนเรื่องจะมีการตั้งสอบอัยการเจ้าของสำนวนหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานมา ซึ่งอัยการเจ้าของสำนวนก็ได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเต็มที่” รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net