รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดเผย คณะทำงานอัยการเตรียมตรวจสอบคำสั่งไม่ฟ้องคดี วรยุทธ หรือ"บอส" อยู่วิทยา ตั้งไว้ 3 ประเด็น ตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ว่าจะรื้อฟื้นคดีได้หรือไม่ และหากสอบแล้วพบว่าอัยการผู้สั่งคดีบกพร่องในหน้าที่จะมีการลงโทษหรือไม่
28 ก.ค.2563 ประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยถึงกรอบของการประชุมนัดแรกในการตรวจสอบการพิจารณากรณีอัยการคดีพิเศษอาญากรุงเทพใต้ 1 มีคำสั่งไม่ฟ้อง วรยุทธ หรือ"บอส" อยู่วิทยา ว่า คณะทำงานจะพิจารณาใน 3 ประเด็นหลักตามที่อัยการสูงสุดได้สั่งการไว้ ประเด็นแรกคือ คำสั่งดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ประเด็นที่ 2 เป็นไปตามระเบียบกระบวนการหรือไม่ ประเด็นที่ 3 มีเหตุและผลอย่างไรที่พิจารณาสั่งไม่ฟ้อง โดยอัยการสูงสุดมีกรอบให้ทำงาน 7 วัน ในการสรุปประเด็นดังกล่าว
ทั้งนี้คณะทำงานตรวจสอบชุดนี้มีอำนาจหน้าที่ในการเรียกสำนวนคดีมาตรวจสอบ รวมถึงสอบถามบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยคณะทำงานทั้ง 7 คน ที่เข้าร่วมประชุมมีรายชื่อดังนี้
- นายสมศักดิ์ ติยะวานิช รองอัยการสูงสุด เป็นหัวหน้าคณะทำงาน
- นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา เป็นคณะทำงาน
- นายชาติพงษ์ จีระพันธุ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร เป็นคณะทำงาน
- นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี เป็นคณะทำงาน
- นายชาญชัย ชลานนท์นิวัฒน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา เป็นคณะทำงาน
- นายอิทธิพร แก้วทิพย์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา เป็นคณะทำงานและเลขานุการ
- นายประยุทธ เพชรคุณ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นคณะทำงานและผู้ช่วยเลขานุการ
ประยุทธยังได้กล่าวถึงคำถามและข้อสังเกตที่เกิดขึ้นในสื่อสังคมออนไลน์ว่า ในรายละเอียดคงไม่สามารถระบุได้ว่าคณะกรรมการจะนำความคิดเห็นหรือข้อมูลต่างๆ มาเป็นประเด็นพิจารณาหรือไม่ และยังเร็วเกินไปที่จะสรุปได้ว่าสามารถรื้อฟื้นคดีกลับมาพิจารณาได้อีกหรือไม่ เพราะต้องตรวจสอบสำนวนทั้งหมดก่อน แต่ตามหลักของกฎหมายแล้วหากมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องเด็ดขาด อัยการไม่สามารถสั่งฟ้องคดีได้ เว้นแต่มีพยานหลักฐานใหม่ในคดี หรือญาติของผู้เสียหายยื่นฟ้องต่อศาลเอง ซึ่งเป็นคดีอาญาที่ไม่สามารถยอมความกันได้
รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดตอบประเด็นเรื่องความเป็นกลางของอัยการสูงสุดว่า คณะกรรมการชุดนี้ตั้งขึ้นมาเพื่อหาข้อเท็จจริง รวมทั้งการสั่งคดี การทำงานของอัยการว่าเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ แต่ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่า หากตรวจสอบพบว่าอัยการผู้สั่งคดีทำงานบกพร่องจะมีการลงโทษหรือไม่ ขอให้คณะทำงานพิจารณาก่อน
ส่วนกรณีที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งตั้ง พล.ต.อ.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นประธาน พร้อมคณะกรรมการ รวม 10 ราย ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจว่าเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และคำสั่งที่เกี่ยวข้องหรือไม่
พล.ต.อ.ศตวรรษ เปิดเผยว่า แม้จะยังไม่เห็นคำสั่งดังกล่าวอย่างเป็นทางการ แต่ก็ได้นัดหมายให้คณะกรรมการที่มีรายชื่อทั้งหมดไปประชุมเรื่องนี้เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งคณะกรรมการที่จะร่วมพิจารณาข้อเท็จจริง จะเป็นผู้ที่มีความเกี่ยวข้องในด้านต่างๆ เช่น จเรตำรวจ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ต้องรอการหารือในที่ประชุมก่อน แต่ยืนยันได้ว่าเมื่อเข้าสู่ที่ประชุมแล้ว จะเร่งพิจารณาข้อเท็จจริงทันที เพื่อหาข้อสรุปให้ได้โดยเร็วที่สุด เนื่องจากเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ เคลือบแคลงสงสัยเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ อีกทั้ง ผบ.ตร.ได้กำหนดกรอบเวลาในการพิจารณาไม่เกิน 15 วัน นับแต่วันที่รับทราบคำสั่ง จึงต้องเร่งหาข้อเท็จจริงให้ได้ตามกรอบเวลาที่กำหนด
เรียบเรียงจาก ไทยรัฐออนไลน์ / มติชนออนไลน์
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)