ป.ป.ท.พร้อมชี้มูลการหายตัวของ 'บิลลี่' แต่เผาบ้านปู่คออี้ไม่คืบหน้า

ป.ป.ท.เตรียมประชุมชี้มูลการหายตัวของพอละจี รักจงเจริญหรือบิลลี่ 26 ส.ค.นี้  ส่วนเรื่องการวางเพลิงเผาบ้านปู่คออี้ยังอยู่แค่คณะอนุกรรมการไต่สวน

สุรพงษ์ กองจันทึก คนซ้าย, พิณนภา พฤกษาพรรณ คนกลาง

22 ส.ค.2562 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลา 9.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) สุรพงษ์ กองจันทึก หัวหน้าคณะทำงานช่วยเหลือชาวกะเหรี่ยงแก่งกระจาน สภาทนายความ พร้อมด้วย พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือมึนอ ภรรยาของ พอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ และทนายความเข้าพบ พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้อำนวยการกองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 สำนักงาน ป.ป.ท. เพื่อสอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีการหายตัวไปของบิลลี่และความคืบหน้าคดีการวางเพลิงเผาบ้าน โคอิ มีมิ หรือปู่คออี้

จากกรณีเมื่อวันที่ 28 ม.ค.2558 พิณนภาได้ส่งหนังสือถึงเลขาธิการ ป.ป.ท. เพื่อให้มีการสอบสวนเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานในขณะนั้นนำโดย ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ในกรณีที่จับกุมพอละจีเนื่องจากมีน้ำผึ้งป่าไว้ในครอบครอง แต่ไม่ส่งตัวพอละจีให้พนักงานสอบสวน แต่กลับปล่อยตัวไป ตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย.2557 ก็ไม่มีผู้ใดพบเห็นนายพอละจีอีกเลย ต่อมา ป.ป.ท. มีมติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนการหายตัวไปของพอละจีขึ้น ซึ่งพิณนภาได้ติดตามความคืบหน้าของการสอบสวนดังกล่าวมาโดยตลอด ทราบว่าคณะอนุกรรมการฯ ได้ดำเนินการสอบคำให้การเพิ่มเติมกับทั้ง 3 ปาก โดยครบถ้วนแล้ว แต่ยังไม่มีการแจ้งความคืบหน้าแต่อย่างใด 

สุรพงษ์ เปิดเผยว่า ได้รับการชี้แจงจาก ป.ป.ท.ว่าได้ดำเนินการไต่สวนพยานหลักฐานของทั้งผู้ร้อง และผู้ถูกร้องเสร็จสิ้นแล้ว โดยทางคณะอนุกรรมการไต่สวนจะส่งสำนวนพร้อมสรุปความเห็นเสนอให้คณะกรรมการบริหารเพื่อพิจารณาลงมติชี้มูลว่ามีการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือไม่ ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ และจะแจ้งมติการพิจารณาให้ผู้ร้องทราบโดยเร็ว

สุรพงษ์ กล่าวต่อว่า กรณีปู่คออี้แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อ ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิต ขณะดำรงตำแหน่งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานพร้อมพวก วางเพลิงเผาทรัพย์บ้านเรือนที่พักอาศัยตั้งแต่ปี 2554 ได้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจาน เมื่อวันที่ 19 ต.ค.2558 และสำนวนได้ถูกส่งไปยังสำนักงาน ป.ป.ท. ภาค 70 และคณะกรรมการบริหารพิจารณา และมีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนรับผิดชอบคดีดังกล่าวแล้วตั้งแต่ปี 2559 ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าจากคณะอนุกรรมการ  ทั้งที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาชัดเจนตั้งแต่วันที่ 12 มิ.ย.2561 ว่า หมู่บ้านใจแผ่นดินและบางกลอยบนที่ปู้คออี้อยู่เป็นชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิมที่อยู่มาเนิ่นนานแล้ว  เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานได้เผาทำลายบ้านเรือนและทรัพย์ของปู่คออี้จริง เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และให้กรมอุทยานแห่งชาติฯชดใช้ค่าเสียหายให้กับนายคออี้และพวก

สุรพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ว่า ขอให้ทาง ป.ป.ท.เร่งรัดการดำเนินการทั้งสองคดี ซึ่งล่าช้ามามากแล้ว อีกทั้งป.ป.ท. มีอำนาจชี้มูลเพียงการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ ตามมาตรา 157 ประมวลกฎหมายอาญาเท่านั้น ในส่วนของการกักขัง หน่วงเหนี่ยว การควบคุมตัว การฆ่าผู้อื่น วางเพลิงเผาทรัพย์ และความผิดอื่นๆ ต้องถูกส่งไปที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  เพื่อพิจารณาส่งต่อให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ดำเนินการต่อไป ซึ่งปัจจุบันกรมสอบสวนคดีพิเศษมีมติรับเรื่องนี้ไว้ดำเนินการแล้ว

พิณนภากล่าวว่า รอมา 5 ปีแล้ว คดีล่าช้ามาก จนถึงตอนนี้ยังไม่มีมติที่ประชุมออกมาให้ทราบเลย ทั้งที่ติดตามความคืบหน้าตลอด ขอความเป็นธรรมให้กับบิลลี่และครอบครัวด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท