8 มี.ค. สธ.เผยไทยพบผู้ป่วย COVID-19 คงเดิม 50 คน กลับบ้านเพิ่ม 2 คน ขออย่าตีตราผู้ป่วย-ผู้เข้าเกณฑ์เฝ้าระวัง - สมาคมร้านขายยาระบุไม่เคยได้รับ 'หน้ากากอนามัย' จากกรมการค้าภายใน - กองทัพเรือ เปิดอาคารรับรองสัตหีบ จ.ชลบุรี รับคนไทยที่เดินทางกลับจากเกาหลีใต้ชุดแรก 59 คน
8 มี.ค. 2563 เพจสมาคมร้านขายยา โพสต์ภาพข้อความแถลงการณ์ โดยระบุว่า "สมาคมร้านขายยา ขอแจ้งให้ทราบโดยทั่วกันว่าจนถึงขณะนี้ ทางสมาคมฯ ยังไม่เคยได้รับ หน้ากากอนามัย จากกรมการค้าภายในเลยแม่แต่ชิ้นเดียว ขอเรียกร้องให้กรมการค้าภายใน และเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการจัดส่งหน้ากากอนามัย ให้แก่ทางสมาคมฯ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวด้วย จักขอบพระคุณยิ่ง"
สธ.แถลงไทยป่วย COVID-19 คงเดิม 50 คน กลับบ้านเพิ่ม 2 คน ขออย่าตีตราผู้ป่วย-ผู้เข้าเกณฑ์เฝ้าระวัง
Thai PBS รายงานว่ากระทรวงสาธารณสุขแถลงความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ไทยมีผู้ป่วย COVID-19 สะสมคงเดิม 50 คน กลับบ้านเพิ่ม 2 คน รวม 33 คน อาการวิกฤต 1 คน เสียชีวิต 1 คน โดยมีผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค 4,366 คน กลับบ้านแล้ว 2,629 คน
ทั้งนี้ ภาครัฐยังคงใช้มาตรการคัดกรองเข้มข้นผู้เดินทางจากต่างประเทศที่มีการแพร่ระบาด เฝ้าระวังในกลุ่มที่ทำอาชีพใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยว รวมทั้งโรงพยาบาลทุกจังหวัดได้เตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาด พร้อมขอความร่วมมือประชาชน ชุมชน สถานประกอบการในการออกมาตรการป้องกันและควบคุมโรค
นอกจากนี้ ผู้ที่เดินทางมาจากจีน เกาหลีใต้ อิตาลี อิหร่าน ต้องลงทะเบียนข้อมูลโดยละเอียด และแจ้งอาการตามความเป็นจริงทุกวัน 14 วัน ผ่านช่องทางที่สะดวก เช่น แอพพลิเคชั่น โดยขอให้อยู่ในที่พักเป็นเวลา 14 วัน หลัง สธ.ประกาศเขตติดโรคติดต่ออันตราย 4 ประเทศ
ส่วนความกังวลและตีตราผู้ป่วย หรือรังเกียจผู้ป่วยเริ่มมีความรุนแรงมากขึ้น มีการแสดงความคิดเห็นในสื่อสังคมออนไลน์อย่างรุนแรง พร้อมยกตัวอย่างที่นายลี เซียน หลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ระบุว่า ความกลัว หรือตื่นตระหนก จะทำอันตรายมากกว่าเชื้อไวรัส โดยขออย่าตีตราและเข้าใจกันเพื่อให้ผ่านความยากลำบากในครั้งนี้ เพราะต้องต่อสู้กับโรคดังกล่าวไปอีกสักระยะหนึ่ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขดำเนินมาตรการและควบคุมโรคได้อย่างเต็มที่
“รู้ว่าเราควรทำตัวอย่างไรถึงจะไม่ติดโรค ขอให้เข้าใจเกี่ยวกับการแพร่โรค และอย่าตื่นตระหนก หรือตีตราผู้ป่วย หรือผู้สัมผัสโรค”
เมื่อวานนี้ (7 มี.ค.) ได้เริ่มคัดกรองแรงงานในเกาหลีใต้ 4 ไฟล์บิน โดยแรงงานไทยให้ความร่วมมือทุกคนในการเข้าไปสถานที่ตรวจอาการ ซึ่งมาตรการนี้จะช่วยลดความเสี่ยงของประเทศ และครอบครัวแรงงานที่กลับจากเกาหลีใต้ เพราะหากอยู่ในสถานที่ที่สังเกตอาการโอกาสแพร่เชื้อแทบจะเป็นศูนย์ โดยได้ดำเนินการด้วยความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจกัน
“อยากให้มองว่ามาตรการนี้ทุกคนชนะ เพราะรับมาสังเกตอาการตอนที่ยังไม่ป่วย แต่หากมีอาการป่วยจะเข้ารักษาทันที โอกาสแพร่เชื้อจากสถานที่แทบไม่มีเลย ขออย่าตั้งแง่รังเกียจ และเปลี่ยนเป็นความร่วมมือกัน”
ส่วนข้อมูลคนไทยในเกาหลีใต้ 200,000 คน ที่เริ่มทยอยกลับไทยมาบ้างแล้วนั้น สำหรับผู้ที่กำลังจะเดินทางกลับไทย จะเริ่มกระบวนการคัดกรองตั้งแต่เกาหลีใต้ โดยลงทะเบียนที่สถานทูตไทย ระหว่างรอเอกสารแล้วเสร็จขอให้พักอยู่ที่บ้าน ไม่ออกไปสถานที่สาธารณะ ก่อนกลับไทยจะต้องตรวจสุขภาพ 1 ครั้ง และตรวจคัดกรองอีกครั้งก่อนขึ้นเครื่อง เมื่อเดินทางถึงไทยจะต้องถูกคัดกรอง หรือกักตัวเฝ้าระวังโรคอย่างเหมาะสม ยืนยันคำนึงถึงสุขภาพของประชาชนในประเทศไทย
กองทัพเรือ เปิดอาคารรับรองสัตหีบ จ.ชลบุรี รับคนไทยที่เดินทางกลับจากเกาหลีใต้ชุดแรก 59 คน
กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่าระหว่างเวลา 01.15 น.–02.30 น. ของวันที่ 8 มี.ค. 2563 'ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ การรับคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศเกาหลีใต้พักเพื่อเฝ้าดูอาการ กองทัพเรือ' รับกลุ่มคนไทยที่เดินทางกลับจากเกาหลีใต้ เพื่อนำมาเฝ้าระวังอาการติดเชื้อโควิด-19 ณ กิจการอาคารรับรองสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
กองทัพเรือ ให้การสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข สนองตามนโยบายรัฐบาล ที่ได้สั่งการให้ทุกเหล่าทัพเตรียมความพร้อมขั้นสูงสุด เพื่อรองรับคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศเกาหลีใต้พักเพื่อเฝ้าดูอาการ ซึ่งกองทัพเรือได้จัดอาคารรับรองสัตหีบ เตรียมความพร้อมของอาคารรับรองสัตหีบ อาคาร 3-5 เป็นอาคารรองรับเฝ้าระวังอาการในชุดแรก จำนวน 59 คน เป็นชาย 27 คน หญิง 32 คน ซึ่งดำเนินการตามขั้นตอนตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก (WHO) ตั้งแต่รถรับส่งเดินทางมาถึงอาคารรับรองสัตหีบ
เริ่มจากการผ่านกระบวนการชำระล้าง จากเจ้าหน้าที่กรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ ขั้นตอนการลงทะเบียนแยกเข้าห้องพักจากกรมแพทย์ทหารเรือ ซึ่งได้จัดผู้หญิงพักที่อาคาร 3 ผู้ชายพักที่อาคาร 4 และครอบครัวจะพักที่อาคาร 5 หลังจากนั้น รถรับส่งจะเข้าสู่กระบวนการชำระล้าง (DECON) ทั้งรถและคนขับ ผ่านขั้นตอนการฉีดยาพ่น ทำความสะอาดฆ่าเชื้อตัวรถเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง เพื่อให้เชื่อมั่นได้ว่ารถรับส่งคันนั้น และคนขับ จะปลอดจากเชื้อ 100% เพื่อให้ประชาชนทั่วไป เกิดความมั่นใจว่าการดำเนินการรับคนไทยจากเกาหลีใต้ จะไม่ส่งผลกระทบกับชุมชนโดยรอบพื้นที่อย่างแน่นอน
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)