อัตราการว่างงานที่ออสเตรเลีย คาดว่าจะทะยานขึ้นสู่อัตราสูงสุดในรอบเกือบสามทศวรรษโดย คาดว่าชาวออสเตรเลีย 1.4 ล้านคนจะต้องตกงาน และในภาวะถดถอยเช่นนี้นี้ผู้อพยพก็เป็นกลุ่มคนที่หางานยากขึ้นมากกว่าเดิมด้วย

20 ส.ค. 2563 กระทรวงการคลังของออสเตรเลียคาดการณ์ว่าอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า จากร้อยละ 5.1 ในเดือน มิ.ย. 2563 เป็นร้อยละ 10 ในช่วงปลายปี คาดว่าชาวออสเตรเลีย 1.4 ล้านคนจะต้องตกงาน ซึ่งจะเป็นการยืนยันว่าออสเตรเลียจะเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจเนื่องจากผลกระทบระบาดของ COVID-19

นี่จะเป็นครั้งแรกที่อัตราการว่างงานแตะเลขสองหลักนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 2537 และตัวเลขดังกล่าวจะทำลายสถิติอัตราการว่างงานสูงสุดของออสเตรเลียที่ร้อยละ 11.2 เมื่อปี 2535

นอกจากนี้การประมาณการของกระทรวงการคลังแสดงให้เห็นว่าอัตราการว่างงานจะสูงขึ้นมากและสูงสุดที่ร้อยละ 15 หากรัฐบาลไม่แทรกแซงด้วยโครงการอุดหนุนค่าจ้าง หรือ JobKeeper มูลค่า 130 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย 

และในภาวะถดถอยเช่นนี้นี้ผู้อพยพก็เป็นกลุ่มคนที่หางานยากขึ้นมากกว่าเดิมด้วย โดยจากข้อมูลของ VisAustralia พบว่าผู้ถือวีซ่าชั่วคราวกำลังอยู่ในสถานการณ์ของตลาดแรงงานที่มีความไม่แน่นอน ซึ่งแตกต่างโดยสิ้นเชิงจากที่พวกวางแผนไว้ก่อนที่จะเดินทางมาถึงออสเตรเลีย และก่อนที่การระบาดของ COVID-19 จะเริ่มขึ้น

นิก ฮิวสตัน ผู้อำนวยการของ VisAustralia ระบุว่าผู้อพยพเข้ามายังออสเตรเลียพร้อมกับตั้งความหวังว่าจะมีงานรอพวกเขาอยู่ที่นี่ รวมถึงการทำงานเพื่อเป็นทุนสำหรับการศึกษา ความคาดหวังนี้อยู่บนพื้นฐานของระบบเศรษฐกิจในสถานการณ์ปกติที่จะสร้างรายได้ แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ทั้งนี้ฮิวสตันได้สนับสนุนให้ผู้อพยพที่ถือวีซ่าชั่วคราวยื่นเอกสารที่มีความรัดกุมชัดเจนเพื่อสิทธิ์ของตนเองในการหางานทำในออสเตรเลีย

ส่วนเดวิด คอวลีย์ ผู้อำนวยการส่วนภูมิภาคประจำออสเตรเลียของ Hays บริษัทจัดหางานที่มีสาขาในทั่วโลก ยอมรับว่าบรรดานายจ้างต้องการความชัดเจน ในเอกสารสมัครงานจากผู้ถือวีซ่าชั่วคราว เพื่อยืนยันว่าพวกเขาสามารถทำงานได้เป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน

"หากภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาแม่ของผู้สมัครงาน ความสามารถในการแสดงให้เห็นถึงทักษะการสื่อสารในระดับสูง ทั้งการพูดและการเขียนอาจช่วยพวกเขาได้" คอวลีย์ ระบุ นอกจากนี้เขายังกล่าวว่าผู้สมัครงานที่ได้รับการคัดเลือก คือผู้ที่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมในการทำงานใหม่ที่เปลี่ยนไป จากสถานการณ์ COVID-19 ซึ่งโลกแห่งการทำงานนั้นเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ด้าน AMES ตัวแทนด้านการตั้งรกรากของผู้อพยพย้ายถิ่นในรัฐวิกตอเรีย ซึ่งเป็นรัฐที่มีผู้อพยพถือวีซ่าชั่วคราวติดต่อเข้ามาเป็นจำนวนมากกว่าปกติ ในการขอความช่วยด้านการหางาน โดยผู้จัดการด้านสื่อของ AMES ระบุว่าผู้อพยพจำนวนมากกำลังหารายได้เพื่อใช้จ่ายผ่าน gig economy หรือการจ้างงานระยะสั้น ด้วยการส่งอาหาร และทำงานในธุรกิจบริการที่ยังคงเปิดทำการอยู่ มันเป็นเรื่องยากลำบากในตลาดแรงงานสำหรับผู้ที่เพิ่งเดินทางมาถึงออสเตรเลีย 

ที่มาเรียบเรียงจาก
Unemployment rate predicted to reach 10 per cent amid coronavirus pandemic, pushing Australia into recession (Kath Sullivan, ABC NEWS, 13 August 2020)
Temporary migrants face extra barriers job-seeking during COVID-19 (SBS, 12 August 2020)