Skip to main content
sharethis

ตำรวจปิดจราจรรอบสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ตั้งแต่ตี 4 ส่วนประชาชนที่จะเข้าออกพื้นที่มีรถชัตเติลบัสรับส่ง รอง ผบช.น.ตอบนักข่าวสำนักงานเป็นเขตพระราชฐานชั้นใดยังต้องตรวจสอบ

24 พ.ย.2563 ที่กองบัญชาการตำรจนครบาลแถลงข่าวมาตรการรับมือการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎรและที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ในวันพรุ่งนี้(25 พ.ย.) ว่าจะมีการปิดกั้นจราจรพื้นที่รอบสำนักงานทรัพย์สินฯ โดยจัดชัตเติลบัสรับคนเข้าออกพื้นที่ ทั้งนี้เมื่อนักข่าวถามว่าสำนักงานทรัพย์สินฯเป็นเขตพระราชฐานหรือไม่ รอง ผบช.น.กลับตอบว่ายังต้องตรวจสอบอีกทีว่าเป็นเขตพระราชฐานชั้นใด

ภาพการแถลงข่าวจากไลฟ์ของ Voice TV

พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่าหลังประกาศจะรวมตัวที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ทาง บช.น.ได้เตรียมกำลังตำรวจทั้งชุดควบคุมฝูงชนและตำรวจจราจรในการรักษาความสงบและป้องกันเหตุร้าย นอกจากนั้นได้จัดชุดเคลื่อนที่เร็วตั้งจุดตรวจค้นเพื่อป้องกันเหตุร้ายในพื้นที่ถนน สามเสน ชนะสงคราม สำราญราษฎร์ นางเลิ้ง ดุสิต โดยเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ไว้ตามความเหมาะสม และตามภาวะต่างๆ ที่เกิดขึ้น

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อว่าเนื่องจากการชุมนุมนี้ผู้จัดชุมนุมยังไม่ได้แจ้งจัดการชุมนุมต่อตำรวจ ถึงแม้ว่าชุมนุมเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญและพ.ร.บ.ชุมนุมฯ แต่การจัดชุมนุมจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย การแจ้งจัดชุมนุมให้เจ้าหน้าที่รับทราบต้องไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่จะแจ้งเงื่อนไขการชุมนุมกลับไปให้ผู้จัด ทั้งนี้การชุมนุมต้องเป็นไปโดยสงบและปราศจากอาวุธ ต้องไม่ละเมิดสิทธิของบุคคลอื่นและการใช้เครื่องเสียงก็ต้องเป็นไปตามกฎหมายและป้ายต่างๆ ก็ห้ามใช้ข้อความที่เป็นการดูหมิ่นสร้างความเกลียดชังยุยงปลุกปั่น และจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายฉบับอื่นด้วย โดยเจ้าหน้าที่จะปฏิบัติตามกฎหมายเป็นไปตามความจำเป็นความสมเหตุสมผลและไม่เลือกปฏิบัติ

ช่วงตอบคำถามนักข่าว พล.ต.ต.ปิยะตอบคำถามถึงจุดที่มีความละเอียดอ่อนว่า คงเป็นทุกพื้นที่ที่มีความสำคัญและเป็นสาธารณะสมบัติของประเทศถ้ามีการทุบทำลายเสียหายหรือเพลิงไหม้ขึ้นมาลแล้วสูญเสียไปก็กู้คืนไม่ไ่ด้ 

ส่วนประเด็นที่อาจจะมีการเผชิญหน้ากันของมวลชนในเบื้องต้นยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงและถ้าเลี่ยงได้ก็ไม่ให้มาเจอกันและปกติแล้วก็ให้แยกคนละฝั่ง และอยากให้ทุกคนเคารพกฎหมายเป็นหลัก ถ้าทุกคนอยู่ในกรอบ กฎหมายแล้วการกระทบกระทั่งไม่เกิดขึ้นแน่นอน

พล.ต.ต.ปิยะตอบประเด็นว่าผู้ชุมนุมสามารถอยู่จุดไหนได้จากเขตพระราชฐานว่าตามมาตรา 7 พ.ร.บ.ชุมนุมฯ กำหนดไว้ว่าต้องชุมนุมในระยะไม่น้อยกว่า 150 ม. โดยตำรวจจะตั้งแนวป้องกันเหนี่ยวรั้งไว้ตลอดทางผู้ชุมนุมที่ผ่านมาจะทราบดีว่าเจอแนวที่ตำรวจอยู่และมีการเตือนทุกระยะซึ่งหากเห็นแนวตำรวจก็จะเป็นพื้นที่ที่ตำรวจไม่อยากให้เข้าไปรุกล้ำ โดยจะมีผู้กำกับหรือรองผู้กำกับสถานีตำรวจในพื้นที่ทำการประชาสัมพันธ์และให้เลิกการชุมนุมตามพ.ร.บ.ชุมนุมฯ พื้นที่สำคัญของประเทศก็ต้องขอสงวนไว้ซึ่งเป็นไปตามพื้นที่กรอบสีแดงในแผนผัง และหากผู้ชุมนุมพยายามจะเข้ามาในพื้นที่ก็จะใช้ตามความจำเป็นเพื่อป้องกันเหตุร้าย และบางครั้งเหตุร้ายเกิดขึ้นแล้วรุกลามบานปลายใหญ่หลวงตำรวจก็คงเว้นการปฏิบัติการไม่ได้ ซึ่งต้องดูตามสถานการณ์ยังไม่ได้ชัดเจนว่าจะใช้มาตรการอย่างไร ต้องดูผู้ชุมนุมหรือผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมอย่างไร

ทั้งนี้ในการแถลงข่าวมีผู้สื่อข่าวถามว่าสำนักงานทรัพย์สินฯ เป็นเขตพระราชฐานใช่หรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะตอบประเด็นนี้ว่าก็ต้องตรวจสอบอีกทีหนึ่งเพราะว่าเขตพระราชฐานมีหลายส่วนมีเขตพระราฐานชั้นใน ชั้นกลางหรือชั้นนอก 

พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวต่อว่าสิ่งที่สื่อกังวลเรื่องการปฏิบัติของตำรวจในเรื่องต่างๆ ตำรวจได้ยึดตามกรอบกฎหมายตามหลักสากลและตามความเหมาะสมของสถานการณ์ และจะมีการเตือนก่อนปฏิบัติตามกฎหมายไม่เลือกปฏิบัติและตรวจสอบได้ โดยหลักแล้วเจ้าหนา้ที่ไม่ได้จัดชุดคุมฝูงชนมาเพื่อสลายการชุมนุม การจัดแบริเออร์เครื่องมือและจัดกำลังเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องเรื่องให้อยู่ห่างจากสถานที่ที่กฎหมายระบุเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ตำรวจก็ต้องทำตามกฎหมาย 

พ.ต.อ.กฤษณะตอบคำถามนักข่าวในประเด็นสถิติคดีที่เกี่ยวกับการชุมนุมว่าตั้งแต่เดือน 7 ถึงเดือน 11 มีการชุมนุมใน 20 กว่าจังหวัดมีการดำเนินคดีกับทุกกลุ่มที่ทั้งเห็นต่างหรือเหมือนรัฐบาล ที่ไม่ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งพ.ร.บ.ชุมนุมฯ และในทุกความผิด ร่วมแล้ว 170 กว่าคดี เป็นคดีในกรุงเทพฯ 100 กว่าคดี ส่วนในต่างจังหวัดมี 70 กว่าคดี ซึ่งเป็นการดำเนินการตามหลังก็เป็นดุลพินิจของพนักงานสอบสวนในท้องที่เกิดเหตุไม่มีการแทรกแซงการดำเนินคดีและตั้งธงไว้ก่อนเป็นการดำเนินการตามข้อมูลหลักฐาน

พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวถึงเรื่องน้ำที่ใช้ในการควบคุมฝูงชน จะมีการแถลงข่าวเพิ่มเติมในช่วงบ่าย 2 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่เบื้องต้น นำที่ใช้จะมีที่ผสมสารเคมีและส่วนที่ผสมสี ส่วนที่เป็นสีเป็นเพียงสีย้อมทั่วไปใช้เพื่อระบุตัวบุคคลว่ามาชุมนุม แต่ส่วนที่เป็นสารเคมีนั้นเป็นแก๊สน้ำตาชนิดเหลวซึ่งได้รับการยืนยันว่ามีคุณสมบัติทำให้ระคายเคืองตาในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ไม่มีอันตรายถึงชีวิตเพื่อใช้ระงับผุ้ชุมนุมไม่ให้เข้าพื้นที่ควบคุม ทั้งนี้ไม่ได้มีแต่ผู้ชุมนุมเท่านั้นแต่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ก็ได้รับผลเหมือนกันซึ่งบางคนก็ได้รับผลกระทบมากน้อยแตกต่างกันไป

พ.ต.อ.กฤษณะตอบคำถามต่อว่าก่อนนำมใช้ได้มีการฝึกซ้อมจนได้รับความเชื่อมั่นจากภาคประชาชนและเจ้าหน้าที่ด้วยกันก่อนแล้วว่ามีแนวทางปฏิบัติและขั้นตอนอย่างไร ส่วนกรณีผู้ได้รับผลกระทบดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติโดยไม่ชอบตามกฎหมายมาตรา 157 นั้นเป็นสิทธิที่จะทำได้พนักงานสอบก็จะดำเนินการตามพยานหลักฐานต่อไป

ปิดถนนรอบสำนักงานทรัพย์สินฯ ตั้งแต่ตี 4

พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก  รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลกกล่าวถึงการจัดจราจรรอบพื้นที่สำนักงานทรัพย์สินฯ ว่าเนื่องจากสำนักงานทรัพย์สินฯ สามารถเข้ามาได้จากหลายทิศทางและขณะนี้เวลาที่จะเข้ามาชุมนุมยังไม่แน่นอน ทางเจ้าหน้าที่จึงจะเริ่มปิดการจราจรรอบพื้นที่ตั้งแต่ 4.00 น. ของวันที่ 25 พ.ย. โดยเส้นทางที่เป็นพื้นราบจะปิดทั้งหมดตามแผนผัง และทางด่วนจะปิดทางขึ้นลงยมราชเพียงจุดเดียว 

พล.ต.ต.จิรสันต์ชี้แจงว่าสำหรับการเข้าออกพื้นที่ที่ปิดการจราจรทางตำรวจได้จัดรถชัตเติลบัสไว้รับคนเข้าออกที่หมอชิต วงเวียนใหญ่ และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มีสองส่วน ปชชทั่วไปสามารถเดินทางได้โดยรอบที่มีการปิดจราจรได้โดย

  • ด้านทิศเหนือใช้ถนนสุโขทัย นครไชยศรี เศรษฐศิริ  
  • ด้านทิศใต้ถนนหลานหลวง ราชดำเนิน จักพรรดิพงษ์ วิสุทธิกษัตริย์ พระราม 1 
  • ด้านทิศตะวันออกใช้ถนนกำแพงเพชร พระราม 6 ทางด่วนศรีรัช 
  • ด้านทิศตะวันตกต้องใช้ถนนจรัลสนิทวงศ์ บรมราชชนนี อรุณอัมรินทร์

พล.ต.ต.จิรสันต์กล่าว่าหากต้องการข้ามมาในฝั่งกรุงเทพฯ ใช้สะพานซังฮี้ สะพานพระราม 8 สะพานปิ่นเกล้าฯ ตรงบางขุนพรมใช้ข้ามมาไม่ได้ จึงขอให้ประชาชนวางแผนการเดินทางก่อน 4.00 น.

ภาพแผนผังการปิดจราจรรอบพื้นที่สำนักงานทรัพย์สินฯ ของตำรวจ

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวเสริมว่าทั้งโรงเรียนเซนต์คาเบรียล โรงเรียนเซนต์ฟรังซิสซาเวียร์คอนแวนต์ประกาศหยุดการเรียนการสอนแล้ว ส่วนหน่วยงานราชการอื่นๆ มีการประสานให้เจ้าหน้าที่ทำงานในส่วนราชการในพื้นที่ด้านนอกแล้ว

พบป้ายเขตพระราชฐานหน้าสำนักงานทรัพย์สินฯ

ตั้งแต่ช่วงเช้า 23 พ.ย.2563 มีผู้พบเห็นและถ่ายภาพการติดตั้งป้ายเขตพระราชฐานที่ทางเท้าบริเวณสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ และมีการติดตั้งรั้วลวดหนามตามแนวกำแพง

ทั้งนี้ภาพจากกูเกิลสตรีทวิวที่ระบุว่ามีการถ่ายไว้เมื่อเดือนสิงหาคม 2563 ยังไม่ปรากฏป้ายเขตพระราชฐานในบริเวณดังกล่าว

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net