CC0 Public Domain

14 ม.ค. 2564 จากรายงาน Airswift’s Global Energy Talent Index (GETI) ที่เผยแพร่เมื่อต้นเดือน ม.ค. 2564 ระบุว่าแรงงานในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ เผชิญกับการลดของค่าตอบแทนจากการทำงาน เมื่อปี 2563 ที่ผ่านมาเนื่องจากวิกฤต COVID-19 ทำให้ความต้องการและราคาน้ำมันลดลง

โดยค่าของแรงงานในกลุ่มนี้มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับราคาน้ำมัน ซึ่งลดลงเมื่อปีที่แล้วเนื่องจากการหยุดชะงักของความต้องการน้ำมันเชื้อเพลิงทั่วโลก 

ผู้เชี่ยวชาญประมาณการว่ามีการจ่ายค่าตอบแทนจากการทำงานน้อยละร้อยละ 30 และแรงงานประมาณ 1 ใน 4 ระบุว่าว่าเงินเดือนและอัตราค่าจ้างรายวันของพวกเขาลดลงมากกว่าร้อยละ 5 และแรงงานอีกเกือบร้อยละ 20 จะมีค่าจ้างลดลงอีกในปี 2564 ตามรายงานของ GETI ที่ได้ที่สำรวจคนทำงานในภาคพลังงาน 16,000 คนใน 166 ประเทศ 

มีแรงงานร้อยละ 37 เท่านั้นที่ระบุว่าค่าจ้างของพวกเขาเพิ่มขึ้นในปี 2563 ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ลดลงจากปี 2562 ที่มีถึงร้อยละ 50

แรงงานในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซในอเมริกาเหนือได้รับค่าจ้างสูงสุดเฉลี่ยต่อปีที่ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3 ล้านบาท) ส่วนแรงงานงานในละตินอเมริกาได้รับค่าจ้างต่ำสุดเฉลี่ยต่อปีประมาณ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.5 ล้านบาท)

แม้แรงงานในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ จะยังคงเป็นคนทำงานในกลุ่มหนึ่งที่ได้รับค่าตอบแทนสูงที่สุดในโลก แต่ก็เริ่มมีการตั้งคำถามถึงความมั่นคงในอาชีพการงาน เนื่องจากกระแสการเปลี่ยนไปใช้แหล่งพลังงานคาร์บอนต่ำ ทำให้การลงทุนในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซลดลงทั่วโลก จากการสำรวจพบว่าความรู้สึกมั่นคงในหน้าที่การงานอยู่ในระดับต่ำในทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรมพลังงาน โดยร้อยละ 78 ของแรงงานในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซรู้สึกมั่นคงน้อยกว่าปีที่แล้ว 

นอกจากนี้การเลิกจ้างก็ยังเป็นปัญหาใหญ่ที่แรงงานในอุตสาหกรรมนี้ต้องเผชิญในปี 2563 ที่ผ่านมา ข้อมูลจาก Rystad บริษัทที่ปรึกษาด้านพลังงาน ระบุว่าในเดือน ต.ค. 2563 ว่ามีการลดตำแหน่งงานในอุตสาหกรรมมันและก๊าซมากกว่า 400,000 ตำแหน่ง โดยกว่าครึ่งหนึ่งเป็นตำแหน่งงานที่อยู่ในสหรัฐฯ

ที่มาเรียบเรียงจาก
Third Of Oil And Gas Workers Faced Pay Cut In 2020 Due To Pandemic, Survey Shows (Daily Oil Bulletin, 1 January 2021)