Skip to main content
sharethis

อัยการประจำเมืองบัลติมอร์ของสหรัฐฯ ออกคำสั่งปฏิรูปกระบวนการวยุติธรรมด้วยการยกเลิกการฟ้องร้องดำเนินคดีที่มีความผิดลหุโทษ ภายหลังการกระบวนการว่าความแบบใหม่ที่ทดลองในช่วงโควิด-19 ช่วยให้อัตราการเกิดอาชญากรรมลดลง

29 มี.ค. 2564 อัยการประจำเมืองบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์ของสหรัฐฯ ประกาศยกเลิกการฟ้องร้องดำเนินดคีความผิดลหุโทษ เช่น การทำผิกกฎจราจร การค้าประเวณี รวมการมียาเสพติดไว้ในครอบครอง เนื่องจากต้องการลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

มาริลีน มอสบี หัวหน้าอัยการประจำเมืองบัลติมอร์
(ภาพจากเฟซบุ๊ก
สำนักงานอัยการเมืองบัลติมอร์)

มาริลีน มอสบี หัวหน้าอัยการประจำเมืองบัลติมอร์ ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ที่ผ่านมาว่า เธอกำลังเปลี่ยนแปลงรูปแบบการพิจารณาคดีของศาลบัลติมอร์ในช่วงโรคระบาด จากช่วงทดลองให้กลายเป็นระบบการพิจารณาคดีแบบใหม่ที่ยึดถือและปฏิบัติอย่างถาวร โดยตั้งแต่เกิดโรคระบาดโควิด-19 มอสบี ในฐานะหัวหน้าอัยการได้ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ลดการบังคับใช้กฎหมายในความผิดลหุโทษ เพราะลดจำนวนคดีในชั้นศาล เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งตลอดระยะเวลา 12 เดือนที่อัยการเมืองบัลติมอร์ทดลองใช้คำสั่งนี้ ปรากฏว่าอาชญากรรมอุกฉกรรจ์ลดลงถึงร้อยละ 20 ในขณะที่อาชญากรรมประทุษร้ายต่อทรัพย์สินลดลงร้อยละ 36 อีกทั้งอัตราการเกิดคดีฆาตรกรรมในบัลติมอร์ยังลดลง นอกจากนี้ มอสบียังอ้างอิงข้อมูลจากทีมนักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ ซึ่งระบุว่าการแจ้งความในคดียาเสพติดและการค้าประเวณียังมีจำนวนลดลงอย่างมากนับตั้งแต่มีการประกาศบังคับใช้คำสั่งนี้

ตัวเลขคดีอาชญากรรมที่ลงลดเป็นสิ่งที่ช่วยยืนยันคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญวิทยาที่พยายามเสนอแนะให้อัยการและศาลประจำเมืองบัลติมอร์เปลี่ยนแปลงวิธีการบังคับใช้กฎหมายให้เข้มงวดน้อยลง เนื่องจากการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ปราบปรามการกระทำความผิดอย่างรุนแรงและการตัดสินโทษหนักทุกคดีความ ไม่ใช่ทางออกสำหรับการแก้ปัญหาอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในเมือง

“ข้อมูลชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าคุณค่าความปลอดภัยสาธารณะไม่ได้เพิ่มขึ้นจากการสั่งฟ้องคดีลหุโทษ ซึ่งเป็นมาตรการการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด” มอสบี กล่าวในงานแถลงข่าว โดยก่อนหน้านี้ อัยการประจำเมืองใหญ่หลายเมืองในสหรัฐฯ เช่น ฟิลาเดลเฟีย, ซานฟราสซิสโก, ชิคาโก, และออสติน ได้ประกาศยกเลิกการฟ้องร้องดำเนินคดีลหุโทษในชั้นศาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

มอสบี เผยอีกว่า กรมตำรวจเมืองบัลติมอร์ยินดีให้ความร่วมมือกับอัยการในการบังคับใช้กฎหมาย โดยทั้งตำรวจและอัยการจะพุ่งเป้าดำเนินคดีอาชญากรรมที่มีความรุนแรงระดับสูง รวมถึงคดีค้ายาเสพติดรายใหญ่ ส่วนผู้กระทำความผิดในคดีลหุโทษที่ได้ระบุไปนั้น อัยการและตำรวจะส่งตัวบุคคลเหล่านั้นไปเข้ารับการฟื้นฟูและคุมประพฤติ โดยได้รับความร่วมมือกับองค์กรไม่แสวงหากำไร เช่น ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพจิต ศูนย์พักพิงคนไร้บ้าน และศูนย์บำบัดยาเสพติด เป็นต้น

บัลติมอร์ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ตำรวจบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและรุนแรง ทั้งยังเป็นหนึ่งในเมืองที่มีอัตราการเกิดอาชญากรรมสูงที่สุดในสหรัฐฯ เนเบอร์ฮูดสเกาต์ เว็บไซต์รวบรวมฐานข้อมูลด้านอาชญากรรมทั่วสหรัฐฯ เปิดเผยว่าบัลติมอร์ติดอันดับ 4 จาก 100 เมืองที่อันตรายที่สุดในสหรัฐฯ ประจำปี 2564 โดยมีอัตราการเกิดอาชญากรรมอุกฉกรรจ์อยู่ที่ร้อยละ 18.76 ต่อประชากร 1,000 คน และมีอัตราการเกิดอาชญากรรมประทุษร้ายต่อทรัพย์สินสูงถึงร้อยละ 43.95 ต่อประชากร 1,000 คน นอกจากนี้ ในจำนวนประชากรเมืองบัลติมอร์ทั้งหมด 53 คนจะมีอย่างน้อย 1 คนที่ตกเป็นเหยื่อในคดีอาชญากรรม

ที่มา:

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net