สื่อเมียนมาร์นาวรายงานว่าในช่วงที่รัฐบาลเผด็จการกองทัพพม่ายังคงก่อเหตุรุนแรงโหดร้ายต่อประชาชนของตัวเอง บริษัทน้ำมันสัญชาติฝรั่งเศส "โททอล" ก็ยังคงเป็นแหล่งรายได้สำคัญให้กับเผด็จการเหล่านี้ ถึงแม้ว่าคนทำงานในพม่าจะเรียกร้องให้หยุดส่งรายได้ให้กับกลุ่มเผด็จการ

ภาพแท่นขุดเจาะของ Total E&P บริเวณแหล่งก๊าซธรรมชาติยาดานาเมื่อปี 2560 | แฟ้มภาพ: myanmar-now.org

บริษัทน้ำมันสัญชาติฝรั่งเศส "โททอล" ที่มีธุรกิจก๊าซนอกชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดในพม่า ยังคงกลายเป็นแหล่งรายได้หลักให้กับรัฐบาลเผด็จการทหารพม่า ถึงแม้ว่ารัฐบาลฝรั่งเศสจะประณามทั้งการรัฐประหารของกองทัพในเดือน ก.พ. และประณามการใช้กำลังสั่งหารผู้ชุมนุมอย่างโหดเหี้ยมก็ตาม

ผู้ที่เปิดเผยในเรื่องนี้คือคนทำงานให้กับโททอล ในช่วงที่บริษัทโททอลอีแอนด์พีเมียนมาร์กำลังอยู่ภายใต้การกดดันให้มีการระงับกิจการในประเทศพม่า หลังจากที่มีพลเรือนถูกสังหารอย่างน้อย 710 รายในการปราบปรามช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้จากข้อมูลขององค์กรช่วยเหลือนักโทษการเมืองในพม่า

วิศวกรผู้ไม่ประสงค์ออกนามที่ทำงานให้กับโททอลกล่าวว่ารายได้จากการส่งออกก๊าซยังคงนำส่งไปให้กับวิสาหกิจน้ำมันและก๊าซและพม่า (MOGE) ที่มีรัฐบาลเป็นเจ้าของและในตอนนี้อยู่ใต้การควบคุมของกองทัพพม่าหรือที่เรียกว่าทัตมะตอว์

ก่อนหน้านี้กลุ่มคนทำงานให้กับโททอลในพม่าเคยเรียกร้องให้บริษัทพลังงานแห่งนี้ไม่นำรายได้ของตัวเองส่งให้กับกองทัพพม่า ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องเดียวกับสภาผู้แทน CRPH ซึ่งเป็นกลุ่มนักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยในพม่าที่ถูกรัฐประหารรวมกลุ่มกันตั้งรัฐบาลเงาของตนเองเพื่อท้าทายการนำของกองทัพพม่า อย่างไรก็ตามบริษัทโททอลก็ไม่ได้ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของกลุ่มคนทำงานของตัวเอง

กลุ่มคนทำงานโททอลเคยเรียกร้องให้มีการหยุดส่งก๊าซไปที่ไทยเพื่อไม่ให้พวกเผด็จการทหารมีรายได้ ซึ่งหมายถึงก๊าซธรรมชาติที่แหล่งก๊าซยาดานาในทะเลอันดามัน แหล่งก๊าซที่ใหญ่ที่สุดของพม่า อีกวิธีหนึ่งคือเรียกร้องให้มีการระงับธุรกรรมการชายก๊าซไปจนกว่ารัฐบาลประชาธิปไตยจะกลับมา ซึ่งทางบริษัทไม่ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องทั้งสองข้อ

ในเดือน ก.พ. 2564 เคยมีกรณีที่บริษัทต่างชาติประกาศจะระงับการปฏิบัติงงานในประเทศพม่าเพื่อโต้ตอบการรัฐประหารคือบริษัทน้ำมันของออสเตรเลียที่ชื่อ "วูดไซด์ เอนเนอร์จี" ซึ่งประกาศจะระงับการขุดเจาะน้ำมันในพม่ารวมถึงการขุดเจาะในพื้นที่ A6 ของลุ่มน้ำยะไข่ โดยที่บริษัทวูดไซด์และบริษัทโททอลต่างก็เป็นผู้ถือหุ้นในโครงการพื้นที่ A6 ร้อยละ 40 ทั้งคู่ แต่โททอลนับเป็นผู้ถือหุ้นแบบไมใช่ผู้ดำเนินการ

อย่างไรก็ตามซีอีโอของโททอลแถลงในวันที่ 4 เม.ย. ที่ผ่านมาว่าพวกเขาจะ "ยกเลิกการให้เงินสนับสนุน" แก่เผด็จการทหารพม่าด้วยการยกเลิกการขุดเจาะที่ A6 ซึ่งพนักงานของโททอลบอกว่ามันเป็นถ้อยแถลงที่หลอกลวงด้วยการใช้คำ เพราะพื้นที่ A6 มีวูดไซด์เป็นผู้ดำเนินการขุดเจาะ โททอลไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการแต่อย่างใดและเป็นผู้ถือหุ้นเท่านั้น ดังนั้นผู้ที่สั่งให้หยุดการขุดเจาะที่แท้จริงคือวูดไซด์ไม่ใช่โททอล

นอกจากนี้กลุ่มระดับผู้บริหารของโททอลยังแถลงแบบลวงๆ ในการขุดเจาะก๊าซที่ยาดานาว่าพวกเขาจะหยุดการขุดเจาะเพิ่มภายในเดือน พ.ค. ที่จะถึงนี้ ซึ่งลูกจ้างมองว่าไม่ได้เป็นการหยุดขุดเจาะเพื่อโต้ตอบรัฐบาลเผด็จการแจ่อย่างใด แต่เป็นการที่การขุดเจาะจะเสร็จสิ้นภายในเวลานั้นอยู่แล้ว

โททอลทำรายได้กลายร้อยล้านจากธุรกิจขุดเจาะก๊าซในพม่า โดยในปี 2562 พวกเขามีรายได้เกือบ 230 ล้านดอลลาร์จากจุดนี้ซึ่งมากกว่า 3 ใน 4 ของรายได้นี้จะตกเป็นของวิสาหกิจพลังงานของพม่าที่เหลือจ่ายเป็นภาษี

มีการตั้งข้อสังเกตว่าโททอลเข้ามาทำธุรกิจกับพม่าตั้งแต่ปี 2535 ไม่กี่ปีหลังจากที่เกิดการลุกฮือเรียกร้องประชาธิปไตยในปี 2531 ที่ถูกปราบปรามอย่างโหดร้ายจากเผด็จการทหาร ทำให้พนักงานรายหนึ่งบอกว่าโททอลเป็นบริษัทที่เข้าไปทำธุรกิจกับประเทศที่อยู่ภายใต้เผด็จการที่จะให้ประโยชน์แก่พวกเขาได้มากกว่า

บริษัทโททอลในพม่ามีคนงานอยู่ประมาณ 300 ราย ซึ่งร้อยละ 90 เป็นคนในพื้นที่ กลุ่มคนทำงานเหล่านี้พูดถึงเรื่องบริษัทละเมิดสิทธิแรงงานของพวกเขาด้วย จากการที่บีบให้คนงานรายหนึ่งต้องออกจากงานเพราะเขาขอลาหยุดแบบยังได้ค่าจ้างในช่วงที่รัฐบาลยังคงทำการปราบปรามประชาชนเพราะเขาเดินทางมาทำงานไม่ได้เนื่องจากเหตุรุนแรงบนท้องถนน

นอกจากนี้พนักงานโททอลยังพูดถึงความต้องการที่จะนัดหยุดงานประท้วงในฐานะส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวอารยะขัดขืน (CDM) แบบที่ CRPH เรียกร้อง แต่ฝ่ายผู้บริหารระดับสูงขององค์กรก็ไม่ยอมร่วมมือด้วย อีกทั้งพวงเข้ายังเคยพยายามจัดตั้งให้มีการเรียกร้องให้โททอลระงับการจ่ายภาษีให้กับเผด็จการทหาร แต่นั่นก็ไม่เกิดขึ้น

เรียบเรียงจาก
French oil giant still bankrolling Myanmar junta, Myanmar Now, 15-04-2021