"Blood Money Campaign" ซึ่งเป็นการรวมตัวของนักกิจกรรมพม่ารณรงค์ให้หยุดทำธุรกิจ-จ่ายเงินให้ 'มินอ่องหล่าย' ออกแถลงการณ์ด่วนส่งท้ายเอเปค 2022 ส่ง จม.เรียกร้องให้รัฐบาลไทย-ปตท. ยุติการจ่ายเงินค่าก๊าซธรรมชาติให้เผด็จการพม่า 

20 พ.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า กลุ่มรณรงค์ต่อต้านเงินเปื้อนเลือด (Blood Money Campaign: BMC) ซึ่งเป็นการรวมตัวของนักกิจกรรมเมียนมารณรงค์ให้ภาคเอกชน และรัฐบาลต่างชาติ ไม่ทำธุรกิจร่วมกับกองทัพพม่า ออกแถลงการณ์ด่วนเรียกร้องให้รัฐบาลไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปค 2022 ในสัปดาห์นี้ ภายใต้หน้ากากของการสนับสนุน "การเติบโตทางเศรษฐกิจที่มั่งคั่งอย่างยั่งยืน" หยุดกลุ่มบริษัท ปตท. จำกัด ยักษ์ใหญ่ด้านเชื้อเพลิงฟอสซิลของไทยที่ให้ทุนสนับสนุนคณะเผด็จการทหารที่โหดเหี้ยมของเมียนมา  การจ่ายเงินรายเดือนของ ปตท. เป็นการเยาะเย้ยต่อหลักการที่เรียกว่าการไม่แทรกแซงของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน เนื่องจากให้ทุนสนับสนุนอาชญากรรมต่อมนุษยชาติและกําลังสนับสนุนคณะเผด็จการทหารที่ผลักดันให้เมียนมาเข้าสู่ภาวะล่มสลายทางเศรษฐกิจและวิกฤตด้านมนุษยธรรม 

ในจดหมายเปิดผนึก ถึงรัฐบาลไทยและกระทรวงการคลังของประเทศไทยซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในกลุ่ม ปตท. ที่ได้รับการรับรองจากกลุ่มภาคประชาสังคม BMC เรียกร้องให้รัฐบาลไทยหยุดกลุ่ม ปตท. ในการจัดส่งรายได้ค่าก๊าซให้กับอาชญากรรมที่โหดร้ายในเมียนมาและจ่ายรายได้ในบัญชีที่ได้รับการคุ้มครอง ซึ่งรัฐบาลทหารไม่สามารถเข้าถึงได้  

"ในขณะที่อาเซียนเป็นอัมพาตด้วยหลักการไม่แทรกแซง กลุ่ม ปตท. กลับปฏิบัติต่อคณะเผด็จการทหารราวกับว่าเป็นรัฐบาลที่ได้รับการยอมรับและโอนเงินหลายล้านดอลลาร์ (สหรัฐฯ) การให้เส้นชีวิตทางการเงินแก่คณะเผด็จการทหารเป็นการแทรกแซงสิ่งที่เลวร้ายที่สุดและจําเป็นต้องหยุด" ไมค์ สมาชิกทีมแคมเปญ กล่าว 

ปตท. เป็นผู้ซื้อก๊าซทั้งหมดที่นําเข้าจากประเทศเมียนมา และบริษัทย่อยคือ บริษัท ปตท.สผ. จำกัด เป็นผู้ดําเนินการโครงการก๊าซของเมียนมา 2 โครงการในอ่าวเมาะตะมะ สัญญาของพวกเขาอยู่กับรัฐบาลเมียนมา (ในนามกับบริษัทน้ํามันและก๊าซแห่งเมียนมา (Mํyanmar Oil and Gas Enterprise - MOGE) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ) ในขณะที่สหประชาชาติ หรือยูเอ็น ไม่อนุญาตให้คณะเผด็จการทหารแต่งตั้งเอกอัครราชทูตตัวแทนของเมียนมาในสหประชาชาติ ตอนนี้ยังคงเป็นเอกอัครราชทูต จ่อโมทุน (Kyaw Moe Tun) ซึ่งเป็นแนวร่วมกับรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) กลุ่ม ปตท. ได้ตัดสินใจที่จะปฏิบัติต่อคณะเผด็จการทหารในฐานะรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายและได้รับการยอมรับ รวมถึงจ่ายเงินรายเดือนให้กับรัฐบาลที่มีมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

"เราได้ทําหนังสือถึงกลุ่ม ปตท. เพื่อเรียกร้องให้ยุติการให้เงินสนับสนุนอาชญากรรมทารุณโหดร้ายในเมียนมา และจ่ายเงินเนื่องจากรัฐบาลเมียนมาเข้าบัญชีคุ้มครองแทน อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้ว รัฐบาลไทยต้องรับผิดชอบต่อการเพิกเฉยต่อหลักการชี้แนะแห่งสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจและสิทธิมนุษยชนโดยสมบูรณ์" ไมค์ สมาชิกจากกลุ่มรณรงค์เงินเปื้อนเลือด กล่าว

บริษัทก๊าซ รวมถึงเชฟรอน กลุ่ม ปตท. และโททาลเอนเนอยี่ ต่างให้เหตุผลในการจ่ายเงินค่าก๊าซธรรมชาติให้กับคณะเผด็จการทหารเมียนมา โดยอ้างถึงความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงด้านพลังงาน แม้จะใช้สิ่งนี้เพื่อยับยั้งการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่อรายได้จากก๊าซก็ตาม  ถึงกระนั้น กลุ่ม ปตท. และรัฐบาลไทยก็ได้ใช้เวลาหลายปีในการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ LNG  "ประเทศไทยสามารถแทนที่ก๊าซเมียนมาด้วย LNG ได้ แต่รัฐบาลไทยต้องการให้ประชาชนเมียนมาจ่ายบิลด้วยเลือดมากกว่าต้องเผชิญกับค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น" ไมค์ กล่าว

สำหรับกลุ่มรณรงค์ต่อต้านเงินเปื้อนเลือด หรือ Blood Money Campaign มีการชี้แจงบนหน้าเฟซบุ๊ก ถึงข้อเรียกร้องของกลุ่มทั้งหมด 3 ข้อ ได้แก่ 1. หยุดแหล่งรายได้ทั้งหมดของเผด็จการพม่า 2. ยุติการจ่ายเงินทั้งหมดให้กับกลุ่มบริษัท Myanmar Oil and Enterprise หรือ MOGE จนกว่ารัฐบาลจะกลับมาเป็นรัฐบาลพลเรือน และ 3. ดำเนินมาตรการคว่ำบาตรต่อ MOGE ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป