Skip to main content
sharethis

'กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี' ทีมคณะแพทย์ที่ปรึกษา กลุ่มไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย ออกจดหมายเปิดผนึก ย้ำ 'ประยุทธ์' แก้ปัญหาการระบาดโควิดล้มเหลว ต้องลาออกให้รัฐบาลใหม่เข้ามากอบกู้วิกฤต เปิดเสรีนำเข้าวัคซีน แจกชุดตรวจโควิดฟรี หนุนประชาชนใช้สมุนไพรไทยอย่างทั่วถึง เตรียมดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องตาม ม.157

18 ก.ค. 2564 พ.ท.พญ.กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี ทีมคณะแพทย์ที่ปรึกษา กลุ่มไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย ออกจดหมายเปิดผนึกถึงผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการแก้ไขการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระบุว่าจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่รัฐบาลได้ออกมาตรการต่าง ๆ ทั้ง พ.ร.บ.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค ในการหยุดยั้งการแพร่กระจายเชื้อและสะกัดการชุมนุมของประชาชน ล่าสุดได้ออกมาตรการล็อกดาวน์ 13 จังหวัด แต่ก็ยังไม่สามารถหยุดยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้เสียชีวิตกลับเพิ่มขึ้นอีก ส่งผลต่อกระทบต่อขีดความสามารถของระบบสาธารณสุขไทยเกินกว่าที่จะรับมือได้ และสะท้อนถึงความไร้ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสถานการณ์วิกฤติของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ไร้น้ำยาในการแก้ไขวิกฤตโรคระบาดครั้งนี้ มีหนทางเดียวเท่านั้น พล.อ.ประยุทธ์ ต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี สถาณการณ์จึงจะฟื้นคืนมาได้

อย่างไรก็ตามในสถานการณ์เฉพาะหน้า ขอเรียกร้องให้ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบเร่งแก้ไขเรื่องที่เป็นหัวใจหลักของการแก้ไขวิกฤติการระบาดของไวรัสโควิด ที่ทำให้ไม่สามารถควบคุม ป้องกันการกระจายเชื้อไวรัส  และการตายของประชาชนจากโรคติดต่อร้ายแรง ได้ทันสถานการณ์ได้แก่

1. การที่รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณะสุข ออกกฎกระทรวงที่ปิดกั้นการนำเข้าวัคซีนที่ผ่าน องค์การอาหารและยา (อย.) แล้วอย่างเสรี เช่น อนุญาตให้เฉพาะสภากาชาดไทย สถาบันจุฬาภรณ์ กรมควบคุมโรค องค์การเภสัชกรรม สถาบันวัคซีนแห่งชาติ เท่านั้น ที่นำเข้าวัคซีนได้และมีขั้นตอนล่าช้าไม่ทันการณ์ จึงขอให้ยกเลิกกฎกระทรวงลงวันที่ 8 มิ.ย. 2564  เรื่องแนวทางการบริการจัดการวัคซีนป้องกันโรคโควิดแล้วประกาศเปิดเสรีให้เอกชนสามารถนำเข้าวัคซีนที่มีคุณภาพ ที่ผ่านอนุมัติขององค์การอนามัยโลกและองค์การอาหารและยาแล้วโดยไม่มีเงื่อนไข อุปสรรคที่ต้องเก็บค่าหัวคิว ค่าภาษีมูลค่าเพิ่มค่าเก็บวัคซีน เพราะรัฐบาลมีหน้าที่จักต้องป้องกันโรคติดต่อร้ายแรง ที่มีประสิทธิภาพและไม่เสียค่าใช้จ่ายตามรัฐธรรมนูญมาตรา 47 และ 55 

การที่รัฐบาลอ้างว่าบริษัทผู้ผลิตวัคซีนจะขายต่อวัคซีนให้ประเทศอื่นในฐานะรัฐต่อรัฐเท่านั้นก็ไม่เป็นความจริงเพราะไต้หวันสามารถให้เอกชน บริษัท ฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn) ที่ผลิตอุปกรณ์โทรศัพท์นำเข้าวัคซีนไฟเซอร์ได้ก็แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลเป็นผู้สร้างเงื่อนไขขึ้นมาเอง ทำให้การนำเข้าวัคซีนมาให้ประชาชนอย่างล่าช้าไม่ทันการณ์เสมือนต้องการเลี้ยงไข้ หรือต้องการนำเข้าเฉพาะวัคซีนบางยี่ห้อที่รัฐบาลมีผลประโยชน์ทับซ้อนด้วย 

2. เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันจำนวนเตียงผู้ป่วยขาดแคลน จำนวนบุคลากรที่ดูแลอัตราเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยไม่ทันการณ์ผู้ป่วยโควิดหลายคนนอนรอเตียงรอรถมารับ บางคนรอเตียงจนถึงกับเสียชีวิตอยู่ที่บ้าน หรือไม่ทันการณ์หรือกว่าจะถึงโรงพยาบาลก็เชื้อลงปอดแล้วทำให้อัตราการป่วยเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น เตียงไอซียูไม่พอคนไข้หนักที่เพิ่มจำนวนมาก ทั้งที่รัฐบาลสามารถประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่เจ็บป่วยสามารถใช้สมุนไพรไทย เช่น ฟ้าทะลายโจร ขิง กระชาย น้ำมะนาวและสูดดมสมุนไพร โดยกำหนดให้กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับแพทย์แผนไทยและภาคประชาสังคม ทำไกด์ไลน์ คู่มือการใช้สมุนไพรไทย และข้อควรระวังให้ประชาชนได้รับทราบอย่างทั่วถึงโดยสามารถประชาสัมพันธ์ทุกวันหลังการแถลงข่าวจำนวน ผู้ติดเชื้อผู้ตายรายวันหรือทำคลิป เผยแพร่ ผ่านวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยรวมถึงสื่อมวลชนทุกแขนงให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์เพื่อช่วยให้ชีวิตประชาชนรอดพ้นจากความตายจากวิกฤตโควิดซึ่งใช้ได้ผลในหลายองค์กร ตัวอย่างเช่น ที่ รพ.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เรือนจำเชียงใหม่ หรือเรือนจำในกรุงเทพ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลได้อย่างทั่วถึง และช่วยให้เขารอดชีวิตจากการรอเตียง ที่ล้นเกินกำลังเจ้าหน้าที่ และบุคลากรทางการแพทย์รวมทั้งโรงพยาบาลต่างๆได้ 

3. รัฐบาลจะต้องแจก ชุดตรวจโควิด Rapid Antigen Test ฟรีให้แก่ชุมชนหรือกลุ่มบุคคลเสี่ยงและสถานประกอบการสามารถช่วยกันนำใบตรวจคัดกรองพนักงานของตนเองและแยกดูแลด้วยสมุนไพรไทยช่วยแบ่งเบาภาระของรัฐได้ หากอาการทุเลาลงหรือหายดีแล้วก็ไม่ต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาลยกเว้นผู้ที่มีอาการหนักโรงพยาบาลก็รับช่วงต่อไป 

4. เนื่องจากสภากาชาดไทย สถาบันจุฬาภรณ์ สามารถนำเข้าวัคซีนได้เอง แต่ทั้งนี้เนื่องจากงบประมาณไม่เพียงพอ รัฐจะต้องจัดสรรงบประมาณให้สถาบันจุฬาภรณ์  สภากาชาดไทย รวมถึงบริษัทเอกชนสามารถนำเข้าวัคซีนได้อย่างเสรี โดยรัฐเป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายวัคซีนยกเว้นค่าใช้จ่ายของโรงพยาบาลเอกชนซึ่งสามารถเก็บได้จากประชาชน ที่พึงพอใจที่จะไปรับบริการของโรงพยาบาลเอกชนนั้น ๆ ซึ่งไม่ว่าองค์การเภสัชกรรมจะเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มค่าจัดเก็บวัคซีนหรือค่าอื่น ๆ ก็ไม่สามารถเรียกเก็บได้ เพราะขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 47 และ 55 ที่กำหนดให้รัฐจะต้องดำเนินการป้องกันโรคที่มีประสิทธิภาพและไม่เก็บค่าใช้จ่าย 

ดังนั้นหากรัฐไม่ดำเนินการยกเลิกประกาศกฎกระทรวงภายใน 7 วัน ทางกลุ่มไทยไม่ทนจะไปดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีตั้งแต่นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ สถาบันวัคซีนแห่งชาติ องค์การเภสัชกรรมในข้อหาไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูนมาตรา 47 ,55 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
    
ทั้งนี้สถานการณ์การระบาดของไวรัสควิด-19 อย่างรุนแรงในขณะนี้ เกิดขีดความสามารถ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐบาลที่จะรับมือกับสถานการณ์ได้แล้ว เนื่องจากเป็นผู้นำที่ขาดวิสัยทัศน์ ขาดยุทธศาสตร์ ขาดเป้าหมาย ขาดการประเมินวิเคราะห์การแพร่กระจายของเชื้อ ในการบริหารจัดการวิกฤตโควิดครั้งนี้ยังอาจจะมีผลประโยชน์ทับซ้อนด้วยหรือไม่ 

ยิ่ง พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในตำแหน่งต่อไปสถานการณ์ยิ่งจะเลวร้ายลงกว่าเดิม เพราะมีแผนอย่างเดียวคือล็อคดาวน์อย่างเข็มงวด แต่ไม่คิดแก้ไขการนำเข้าวัคซีนที่มีคุณภาพ ที่ติดขั้น ล่าช้า มากขั้นตอนของเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องภายใต้การกุมบังเหียนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 

ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกทันที เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อชีวิตประชาชนที่ตายรายวันจากผลงานของตนเอง เพื่อให้มีผู้นำและรัฐบาลที่มีวิสัยทัศน์เข้ามากอบกู้สถานการณ์ จึงจะนำพาประเทศชาติผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ได้

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net