Skip to main content
sharethis

ศบค. รายงานสถานการณ์ COVID-19 ในไทย ผู้ป่วยใหม่ 9,224 ราย สะสม 1,903,165 ราย หายป่วย 8,305 ราย สะสม 1,783,875 ราย เสียชีวิต 88 ราย สะสม 19,158 ราย - ประกันสังคมแก้ประกาศให้ผู้ประกันตนไทย กลับมาได้รับสิทธิเยียวยาแพ้วัคซีนโควิดจาก สปสช.แล้ว - เรือนจำตรังตรวจเชิงรุก พบผู้ต้องขังติดเชื้อเพิ่มประมาณ 700 คน ผบ.เรือนจำฯ สั่งญาติห้ามเยี่ยม

30 ต.ค. 2564 ศบค. รายงานสถานการณ์ COVID-19 ในไทย ผู้ป่วยใหม่ 9,224 ราย สะสม 1,903,165 ราย หายป่วย 8,305 ราย สะสม 1,783,875 ราย เสียชีวิต 88 ราย สะสม 19,158 ราย ฉีดวัคซีนสะสม (ณ 29 ต.ค. 2564) รวม 74,694,431 โดส

ประกันสังคมแก้ประกาศให้ผู้ประกันตนไทย กลับมาได้รับสิทธิเยียวยาแพ้วัคซีนโควิดจาก สปสช.แล้ว 

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการการแพทย์ตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม ได้ออกประกาศเรื่องการปรับปรุงหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่ผู้ประกันตนที่ได้รับความเสียหายจากการรับวัคนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยให้ผู้ประกันตนสัญชาติไทยยื่นขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นตามประกาศ สปสช. เรื่อง หลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น กรณีผู้รับบริการได้รับความเสียหายจากการรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) พ.ศ. 2564 โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย. 64 นั้น 

ทั้งนี้จากประกาศดังกล่าวของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ส่งผลให้ผู้ประกันตนที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ตามนโยบายรัฐ และเกิดภาวะไม่พึงประสงค์ขึ้นสามารถยื่นเรื่องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจาก สปสช. ภายใต้ พ.ร.ก.กู้เงินฯ กรณีบริการโรคโควิด-19 ได้แล้ว ส่วนผู้ประกันตนที่ได้ยื่นเรื่องขอรับการช่วยเหลือไปยัง สปส. ก่อนหน้านี้นั้น ขณะนี้ทาง สปส.ได้เริ่มทยอยส่งเอกสารคำร้องของผู้ประกันตนมายัง สปสช. แล้วซึ่งมีประมาณกว่า 1,000 ราย เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของอนุกรรมการพิจารณาวินิจฉัยคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น กรณีผู้รับบริการได้รับความเสียหายจากการรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระดับเขตพื้นที่ต่อไป  

“ผู้ประกันตนที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วเกิดความเสียหายขึ้น ซึ่งได้เคยยื่นเรื่องขอรับการช่วยเหลือเข้ามาก่อนหน้านี้ หลังจากที่ สปส. ออกประกาศฉบับนี้ที่เป็นการแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางกฎหมาย ทาง สปสช. จะประสานกับอนุกรรมการพิจารณาวินิจฉัยคำร้องฯ ทั้ง 13 เขตทั่วประเทศ เพื่อเร่งพิจารณาช่วยเหลือผู้ประกันตนที่คงค้างและรอรับการช่วยเหลือความเสียหายจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยเร็วที่สุดเช่นเดียวกับคนไทยทุกคนที่ได้รับสิทธินี้อย่างเท่าเทียม และด้วยผู้ประกันตนที่รอรับการเยียวยานี้มีจำนวนมาก ในส่วน สปสช. ขณะนี้ได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการ 12 ชุด ในการเร่งพิจารณาในเขตพื้นที่ กทม.แล้ว” เลขาธิการ สปสช. กล่าว    

ทั้งนี้ การจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น กรณีผู้รับบริการได้รับความเสียหายจากการรับวัคซีนโควิด 19 หลักเกณฑ์การพิจารณาแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ ระดับ 1 มีอาการป่วยต้องรักษาต่อเนื่อง จ่ายไม่เกิน 1 แสนบาท ระดับ 2 เกิดความเสียหายถึงขั้นสูญเสียอวัยวะหรือพิการจนมีผลต่อการดำรงชีวิต จ่ายไม่เกิน 2.4 แสนบาท และระดับ 3 กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร จ่ายไม่เกิน 4 แสนบาท  

ผู้ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 สามารถยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นได้ใน 3 จุด คือ ที่หน่วยบริการที่ไปรับการฉีด ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด หรือที่ สปสช.เขตพื้นที่ ซึ่งหลังจากได้รับคำร้องแล้ว จะมีคณะอนุกรรมการในระดับเขตซึ่งประกอบด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและตัวแทนภาคประชาชนเป็นผู้พิจารณาว่าจะจ่ายเงินเยียวยาหรือไม่และจ่ายเป็นจำนวนเท่าใด ตามหลักฐานทางการแพทย์และระดับความหนักเบาของอาการไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้น เมื่อมีผู้มายื่นคำร้องแล้ว คณะอนุกรรมการฯ ระดับเขตพื้นที่จะเร่งพิจารณาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งในกรณีที่ผู้ยื่นคำร้องไม่เห็นด้วยกับผลการวินิจฉัย ก็มีสิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อเลขาธิการ สปสช. ได้ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ทราบผลการวินิจฉัย 

เรือนจำตรังตรวจเชิงรุก พบผู้ต้องขังติดเชื้อเพิ่มประมาณ 700 คน ผบ.เรือนจำฯ สั่งญาติห้ามเยี่ยม

Thai PBS รายงานว่าเมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2564 ตามที่ก่อนหน้านี้พบผู้ต้องขังในเรือนจำจังหวัดตรัง ที่แดนแรกรับ จำนวน 163 คน ติดเชื้อโควิด-19 และล่าสุดทีมแพทย์ได้ลงพื้นที่ เพื่อตรวจเชิงรุกค้นหาผู้ติดเชื้อด้วยชุดตรวจ ATK ปรากฏว่า ผลเป็นบวกเพิ่มอีกประมาณ 700 คน

นายณรงค์ หนูคง ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดตรัง ได้ประกาศประชาสัมพันธ์ให้ญาติผู้ต้องขังทราบ ถึงแนวทางการปฏิบัติ และคลายความวิตกกังวล ห่วงใยต่อผู้ต้องขังที่อยู่ภายในเรือนจำ และเพื่อการป้องกันและควบคุมโรคให้จำกัดวงอยู่เฉพาะภายในเรือนจำ โดย 1.งดเยี่ยมผู้ต้องขัง ทุกช่องทาง 2.ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยสีเขียว ทางเรือนจำได้แยกกักและดำเนินการตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข กรมราชทัณฑ์ และมาตรการของจังหวัดอย่างเคร่งครัด

3.มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์, พยาบาลจากโรงพยาบาลเครือข่าย และ อสรจ.ช่วยในการดูแลรักษาผู้ป่วยเป็นอย่างดี 4.มียาและเวชภัณฑ์เพียงพอในการรักษาผู้ป่วย และ 5.ยืนยันว่านับถึงวันนี้ ยังไม่มีผู้ต้องขังเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิดแต่อย่างใด

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net