Skip to main content
sharethis

'นิติธร ล้ำเหลือ' หรือ 'ทนายนกเขา' แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย ลั่นต้องหยุด 'ฝึก Cobra Gold' เหตุไร้ประโยชน์ หวั่นเป็นภัยคุกคามไทยรูปแบบหนึ่ง เผยจีนกังวลยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิกฉบับใหม่ของสหรัฐฯ จี้ผู้นำเหล่าทัพแจง 9 ข้อเรียกร้องคนไทยร่วมปกป้องอธิปไตย 


'นิติธร ล้ำเหลือ' หรือ 'ทนายนกเขา' แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย | แฟ้มภาพ

27 ก.พ. 2565 กลุ่มประชาชนคนไทย แจ้งข่าวต่อสื่อมวลชนว่านายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ 'ทนายนกเขา' แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย กล่าวใน “เพจกลุ่มประชาชนคนไทย (ปท.)” ถึงการฝึกคอบร้าโกลด์ (Cobra Gold ) ซึ่งเป็นการฝึกร่วม/ผสมทางการทหารระดับพหุภาคีที่จัดขึ้น เป็นประจำทุกปีในประเทศไทย ระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกาว่า ก่อนหน้านี้มีการฝึกกันมาตลอด จากสถานการณ์ในขณะนี้ตนยังยืนยันว่า วันนี้การฝึก Cobra Gold ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดควรต้องยุติ รัฐบาลหน่วยงานทหารของไทย ต้องดำเนินการให้ทหารของอเมริกา พ้นไปจากดินแดนประเทศไทย 
     
เพราะรูปแบบของวิธีการที่เกิดขึ้น ของภัยคุกคามที่จะเกิดขึ้น คือ มีการอาศัยความสัมพันธ์แบบไม่ปกติ คำนึงถึงเรื่องการเมืองการทหารอย่างเดียว ดังนั้นควรที่จะยุติการซ้อมรบดังกล่าว เพราะในแง่ความห่วงใยของอธิปไตย ตนยังมองไม่เห็นประโยชน์อะไร ขณะที่รัฐบาลไทยไม่มีคำตอบเรื่องนี้ใดๆทั้งสิ้น และไม่เคยตอบเลยตั้งแต่มีการฝึก Cobra Gold เราไม่มีทางรู้เลยว่าสิ่งที่จะเป็นภัยของบ้านเรา จากการซ้อมรบมีอะไรบ้าง
     
“สรุปแล้วประเทศไทยในขนาดนี้ การอ้างซ้อมรบต่างๆร่วมกับอเมริกา จะทำให้มีทหารอเมริกันพร้อมอาวุธ ในการสนับสนุนเห็นชอบของรัฐบาลไทย และทหารไทยให้หน่วยทหารเหล่านี้ อยู่ในประเทศไทยได้ตลอดเวลาโดยที่เราไม่สามารถเข้าไปดูการซ้อมรบได้เลย ดังนั้นประชาชนต้องพิจารณาการฝึกร่วมนี้อย่างละเอียดรอบคอบ ว่าสมควรและจำเป็นหรือไม่ หรือใครได้ประโยชน์จากการปฎิบัติการบ้างหรือไม่ และสิ่งนี้ในวันข้างหน้าจะกลายเป็นภัย ชนิดหนึ่งของประเทศไทยและคนไทยโดยไม่ทันรู้ตัว” นายนิติธร กล่าว

เผยจีนกังวลยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิกฉบับใหม่ของสหรัฐฯ จี้ผู้นำเหล่าทัพแจง 9 ข้อเรียกร้องคนไทยร่วมปกป้องอธิปไตย 

นายนิติธร ยังกล่าวถึง กรณีที่สถานเอกอัคราชฑูตประเทศจีน ประจำประเทศไทย ตอบข้อกังวลประเด็นยื่นหนังสือของกลุ่มประชาชนคนไทยว่า กลุ่มประชาชนคนไทยได้เดินทางไปยื่นหนังสือ แสดงข้อกังวลต่อสถานเอกอัครราชทูต สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ซึ่งเขาได้ตอบคำถามมาในเรื่องที่เรากังวลข้อตกลงอินโดแปซิฟิก มีเจตจำนงที่จะปิดกั้นประเทศจีน เรื่องนี้ถือว่าเป็นภัยร้ายแรง และกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งถ้อยแถลงของนายไบเดนดำเนินการฝ่ายเดียว ไม่มีคำตอบใดๆจากรัฐบาลไทยนัยยะคือ ยอมตกแล้วเป็นเมืองขึ้นของสหรัฐหรือเปล่า ซึ่งไทยได้เลือกข้างแล้วว่าจะยืนข้างอเมริกาหรือเปล่า

แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย เปิดเผยว่าเว็บไซต์ของ “Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย” ระบุว่า โฆษกของสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย บอกว่ายุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิกฉบับใหม่ของสหรัฐ ไม่ลังเลที่จะบ่อนทำลายเสถียรภาพ การพัฒนาและความร่วมมือของภูมิภาค เพื่อสกัดกั้นประเทศจีนโดยความเจตนาและประสงค์ที่ไม่ดี ซึ่งสถานเอกอัคราชฑูตจีน ตอบข้อกังวลประเด็นยื่นหนังสือของกลุ่มประชาชนคนไทย และโฆษกสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยตอบคำถาม ตามที่สื่อได้รายงาน
     
เว็บไซต์ของ “Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย” ยังระบุอีกว่า เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ผู้แทนของกลุ่มประชาชนคนไทยได้ยื่นหนังสือถึงสถานเอกอัครราชทูต สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โดยวิจารณ์ว่า สหรัฐฯ พยายามสร้างสถานการณ์ซับซ้อนหลากรูปแบบหลายวิธีการ บิดเบือนข้อมูลข่าวสาร เพื่อก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศ โดยรายงานยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกที่ทางสหรัฐฯ เพิ่งเผยแพร่ได้ระบุว่า ภูมิภาคเอเชียจะมีความมั่นคงต้องหมายถึงว่า จีนต้องไม่มีบทบาท และสหรัฐอเมริกาต้องเป็นผู้นำ ท่านมีความเห็นอะไรในเรื่องนี้ อย่างที่ในหนังสือที่ได้ระบุ ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกฉบับใหม่ของสหรัฐฯ ไม่ลังเลที่จะบ่อนทำลายเสถียรภาพ การพัฒนา และความร่วมมือของภูมิภาค เพื่อสกัดกั้นประเทศจีน โดยความเจตนาและประสงค์ที่ไม่ดี 
     
นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า สหรัฐฯ อ้างว่าจะส่งเสริม “เสรีภาพและการเปิดออก” ในภูมิภาค ความจริงกลับสร้างพรรคพวกแบบปิด และผูกขาดโดยผ่านกลไก QUAD และ AUKUS อ้างว่าจะส่งเสริมความมั่นคงของภูมิภาค ความจริงกลับก่อให้เกิดความเสี่ยงอันร้ายแรง ในการแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ ทำลายสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค อ้างว่าจะขับเคลื่อนความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาค ความจริงกลับยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้ากัน ระหว่างประเทศในภูมิภาค ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างความร่วมมือระดับภูมิภาค ที่สร้างขึ้นมาเป็นเวลาหลายปี โดยมีอาเซียนเป็นศูนย์กลาง และเป็นภัยคุกคามอันร้ายแรงต่อความสำเร็จของความร่วมมือในภูมิภาคและการพัฒนาในอนาคต
      
“ถ้าจะปล่อยให้ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกของสหรัฐฯ เดินหน้าต่อไป ภูมิภาคนี้ก็จะไม่เป็นศูนย์กลางการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกอีกต่อไป แต่อาจจะกลายเป็นพื้นที่แห่งความวุ่นวายแห่งใหม่ต่างหาก การที่จะรักษาสันติภาพและส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันของภูมิภาค เป็นความปรารถนาร่วมกันของประเทศต่างๆ ในภูมิภาค “ยุทธศาสตร์” ที่มุ่งคืนชีพแนวคิดสงครามเย็น และการเมืองแบบแบ่งพรรคแบ่งพวกย่อมจะเป็นเรื่องที่ประชาชนของประเทศต่างๆ คอยระมัดระวังและคัดค้าน” 

เว็บไซต์ของ “Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย” ยังระบุอีกว่า จีนยึดมั่นในแนวคิดการสร้างประชาคม ที่มีอนาคตร่วมกันของมวลมนุษยชาติ และนโยบายต่างประเทศต่อประเทศเพื่อนบ้าน ที่เป็นมิตร จริงใจ เอื้อประโยชน์และเอื้ออารี สนับสนุนความเป็นศูนย์กลางของอาเซียนมาโดยตลอด ยินดีที่จะร่วมมือกับไทยและประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค ส่งเสริมความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ผลักดันความร่วมมือ กระชับการประสานงานกัน และขจัดปัจจัยก่อกวน เพื่อเพิ่มพลังขับเคลื่อนที่ยั่งยืนต่อสันติภาพ การพัฒนาและความร่วมมือของเอเชีย

นายนิติธร กล่าวว่านอกจากนี้ตนยังได้ไปยื่นหนังสือ ต่อสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ให้นายไบเดนพิจารณาต่อสถานการณ์ในภูมิภาคและความสัมพันธ์ไทยสหรัฐ แต่ว่าสหรัฐอเมริกายังไม่มีท่าทีใดๆ ทั้งนี้ถ้าดูยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิกตนมีข้อสังเกตดังนี้ คือ ในข้อตกลงดังกล่าวฉบับใหม่ ประชาชนทั้งประเทศไม่ทราบรายละเอียดข้อเท็จจริง เมื่อมีการหยิบยกข้อตกลงขึ้นมากล่าวอ้าง โดยในไบเดน ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ในฐานะนายกรัฐมนตรีก็ไม่มีคำตอบ ฉะนั้นเรื่องนี้จึงไม่แปลกที่จีนเขาตอบคำถามมาอย่างนี้ แต่เรื่องที่แปลกคือพล.อ.ประยุทธ์ การที่ประเทศไทยถูกนำไปเอ่ยชื่อในการที่จะร่วมกัน เป็นศัตรูกับอีกประเทศหนึ่ง แล้วกลับไม่ได้รับคำตอบจากนายกรัฐมนตรีของไทย ดังนั้นตนจึงขอให้นายกฯตอบคำถามเรื่องนี้

เพราะสนธิสัญญาดังกล่าว เป็นข้อตกลงทางด้านความมั่นคงและทางทหารเป็นหลัก ทำให้คิดได้ว่าเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ จะกลับมาอีกหรือไม่ คือการใช้พื้นที่ประเทศไทย เป็นฐานทัพของสหรัฐอเมริกานี่คือข้อสงสัยของตน

ถ้ากลับไปเหมือนเดิม ประชาชนคนไทยจะลุกขึ้นขับไล่ทหารอเมริกัน และฐานทัพอเมริกัน รวมทั้งผู้ที่ยอมตนรับใช้อเมริกา สิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่นอน เพราะวันนี้ถ้าประเทศไทยไม่มีอธิปไตยเป็นของตนเอง เราก็จะไม่มีสิทธิ์ที่จะดำเนินการใดๆเพราะมีผลเท่ากับว่าเราไม่มีเอกราช เทศไทยก็จะพบสภาพเดียวกับยูเครน เพราะมีผู้นำประเทศที่ยอมตกเป็นเครื่องมือรับใช้อเมริกา 

“อยากฝากไปถึงทหารทุกชั้นยศ ว่าเรื่องนี้ต้องระมัดระวังตัว เขาประกาศชัดเจนว่าจะดำเนินการปิดกั้นจีนต่อต้านจีน แล้วมาตั้งฐานทัพตั้งอุปกรณ์ต่างๆในประเทศไทยเรื่องนี้คิดว่า แม้จีนจะรักไทยขนาดไหน แต่การปฎิบัติการกับสหรัฐอเมริกา ที่มีฐานทัพอยู่ในไทยก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ฉะนั้นเรื่องนี้ไม่ว่าจะเริ่มต้นที่รัฐบาลไหนแต่ถ้ารัฐบาลปัจจุบันไม่แก้ไข และดำเนินการเหมือนเดิมไปให้ลงนามในสัญญาจัสแมกสิ่งนี้ท่านต้องรับผิดชอบ และขอฝากถึงประชาชนทุกคน ที่เคยออกมาต่อสู้เรียกร้องไม่ว่ากลุ่มใด วันนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคืออธิปไตยและภัย ที่เป็นภัยกับอธิปไตยของประเทศ ทุกคนทุกอาชีพต้องร่วมมือกันในการจัดการโดยเร็ว” นายนิติธร กล่าว 

พี่น้องทหารแม่ทัพที่เกี่ยวข้อง ต้องตอบคำถามตนดังนี้ คือ 1.ข้อตกลงดังกล่าวเป็นข้อตกลงระหว่างประเทศ อันมีสถานะเท่าเทียมกันหรือเป็นข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับเจ้าหน้าที่สหรัฐเท่านั้น 2. ตามข้อตกลงบุคคลในข้อบังคับยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิก ในส่วนของสหรัฐหมายถึงใครบ้าง และบุคคลดังกล่าวมีเงื่อนไขหลักปฏิบัติ ในการเข้าออกประเทศไทยอย่างไรบ้าง และเจ้าหน้าที่ไทยมีอำนาจควบคุมตรวจสอบเขาได้หรือไม่ มีสิทธิพิเศษหรือไม่และเราจะดำเนินการอะไรกับเขาได้บ้าง บุคคลดังกล่าวหมายถึงใครบ้าง

แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย กล่าวว่า 3. อำนาจบังคับคดีทางอาญาและทางแพ่ง มีข้อตกลงกันอย่างไร ถ้าผู้ที่เข้ามาทำสนธิสัญญาให้ประเทศไทย ทำความผิดจะต้องขึ้นศาลไทยหรือไม่ และตำรวจไทยจับเขาได้หรือไม่หรือต้องกลับไปขึ้นศาลสหรัฐ 4. ถ้ามีข้อตกลงเรื่องฐานทัพสหรัฐฯในพื้นที่ของไทย เพื่อใช้พื้นที่ปฏิบัติการทางทหาร รัฐบาลมีสถานะอะไรบ้าง ต้องยอมทำตามเขาอย่างเดียวหรือให้ความยินยอม ภายใต้การพิจารณาของรัฐบาลไทยหรือไม่ เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอำนาจเอกราชอธิปไตยของชาติ

5. มีการยกเว้นภาษีหรือสิทธิพิเศษอะไรบ้าง 6. ต้องแจ้งการนำเข้าอุปกรณ์ต่างๆอาวุธต่างๆ ให้ใครทราบโดยละเอียดหรือไม่ และไทยมีสิทธิ์ตรวจสอบหรือห้ามไม่ให้นำเข้าหรือได้ไม่ 7. การนำเงินเข้าออกไม่ว่าจะเป็นสกุลไหน บุคคลตามข้อตกลงสนธิสัญญาจัสแม็กซ์ ข้อตกลงอินโดแปซิฟิกกระทำได้โดยเสรีหรือไม่มีข้อจำกัดอะไรบ้าง เรื่องนี้จะมีปัญหาตามมาว่า เงินนี้จะนำไปใช้ให้ใครก่อความวุ่นวายในประเทศไทยก็ได้

8. การก่อสร้างต่างๆรวมถึงการรับเหมาการแจ้งแรงงานไทย เรามีอำนาจตรวจสอบหรือไม่ และใช้เป็นที่ทำการของสถานเอกอัครราชทูตจริงหรือไม่ 9. การตั้งฐานทัพอเมริกันในไทย มีการตกลงกันเรื่องผลประโยชน์ชัดเจนหรือไม่ เพราะตนเกรงว่าสหรัฐจะอ้างว่าเขาเคยมีความช่วยเหลือประเทศไทยนานแล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องมาพูดคุยถึงเรื่องผลประโยชน์ ที่ไทยจะได้ในขนาดนี้ ถ้าเป็นอย่างนั้นเท่ากับว่า ข้อตกลงนี้จะเป็นข้อตกลงทางด้านทหารและความมั่นคงเท่านั้น เรื่องนี้ต้องมีความชัดเจน เพราะเกี่ยวเนื่องกับความสัมพันธ์ที่ไทยมีต่อมิตรประเทศข้างเคียง

“เรื่องนี้ผมจะไปยื่นหนังสือขอความชัดเจน จากนายกรัฐมนตรีถ้านายกฯ ไม่ตอบ ก็จะไปยื่นเรื่องกับผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพ และถ้าไม่มีใครตอบข้อสงสัย ก็แสดงว่าพวกท่านรวมหัวกันขายชาติ มอบอำนาจอธิปไตยนี้ให้กับประเทศสหรัฐอเมริกาไปแล้ว ขนาดนี้ในพื้นที่ที่อเมริกามีกองกำลัง มีการติดตั้งที่เราเรียกว่าเป็นไซเบอร์ สันนิษฐานจากการขยายสถานฑูต และสร้างสถานกงสุลใหม่ต่างๆ เพราะฉะนั้นพื้นที่ที่อเมริกาจะต้องรักษาหน้าให้ได้ และแสดงความเป็นผู้นำให้ได้ คือการเข้าทำลายไทยอย่างรวดเร็ว สร้างสถานการณ์ให้เกิดวิกฤติในประเทศไทยขณะเดียวกันเราอาจเห็นปรากฏการณ์ ในการที่จะมุ่งร้ายใส่ร้ายกับสถาบันพระมหากษัตริย์” นายนิติธร กล่าว 

ฉะนั้นถ้าพื้นที่นี้มีการปฎิบัติการของอเมริกาเกิดขึ้น รัฐบาลประยุทธ์จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ทหารทุกคนปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ วันนี้ทหารยังมีศักยภาพเต็มเปี่ยม ที่จะปกป้อง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ประชาชน และรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติเอกราชชาติไทย ท่านมีประสิทธิภาพและทำได้ในเวลารวดเร็ว ต้องเร่งตรวจสอบบรรดากองกำลังต่างๆ ที่แฝงตัวอยู่ในประเทศไทย ทั้งในคราบทหารและไม่ใช่ทหาร ซึ่งตนไม่อยากให้ความขัดแย้งเกิดขึ้น ระหว่างคนไทยกับทหาร ตนยังเคารพยกย่องนับถือน้ำใจของทหารทุกคน ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองและผลประโยชน์ ดังนั้นวันนี้ปฎิเสธไม่ได้ว่ามีทหารอเมริกัน อยู่ในประเทศไทยปฏิบัติการที่เรียกว่า Hybrid War สถานการณ์ในขณะนี้ปฎิเสธไม่ได้ว่า จีนไม่สบายใจท่าทีของไทยที่ไม่จัดสมดุลย์ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศระหว่างจีนกับอเมริกา

ซัดการเมืองไทยยัง ขัดแย้ง “3 ป.” หวังต่ออำนาจ-ผลประโยชน์ เชื่อปรับ ครม. เตือน ดูรัสเซีย-ยูเครน เป็นตัวอย่าง ปลุก ปชช. ต้องสามัคคีเป็นพลังค้ำจุนประเทศแผ่นดินไทย

นายนิติธร กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองว่า วันนี้ไม่เป็นที่พึ่งของประเทศไม่เป็นที่พึ่งของประชาชน อยู่ในสภาวะบริหารความขัดแย้ง ในเรื่องอำนาจและผลประโยชน์เป็นหลัก ฉะนั้นปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นทางการเมืองช่วงนี้ อาจจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) อยู่ที่ว่าจะเกิดขึ้นกับใคร แล้วใครได้ผลประโยชน์ การเมืองที่จะไปเปิดสภาในสมัยหน้า จะเกิดการทำงานของ “กล้วย” ซึ่งถือว่าแย่ที่สุดของการเมืองไทย โดยที่ไม่เกี่ยวกับผลประโยชน์ของประชาชนเลยแม้แต่น้อย

“ฉากการเมืองข้างหน้า 3 ป.ยังเหมือนเดิม การแยกของ 3 ป. เป็นเพียงละครที่จะก่อเกิดประโยชน์ ในการต่อสายอำนาจในอนาคต ไม่ว่าการเมืองจะพลิกไปที่ขั้วใดจะอยู่ภายใต้ฐานอำนาจของ 3 ป. ภายใต้การแตกตัวที่เป็นละคร อย่างที่เห็นทุกวันนี้เพราะฉะนั้นการเมืองนับจากวันนี้ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนบรรดานายทุนทั้งหลายที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง ที่สนับสนุนการเมือง ช่วงนี้จะถูกใช้บริการทางการเงินเป็นพิเศษ ขอเตือนว่าระวังจะจ่ายเงินฟรี เพราะบ้านเมืองต้องเปลี่ยนแปลง เมื่อบ้านเมืองเปลี่ยนแปลง ใครจ่ายเงินสนับสนุน อันเป็นการทำลายกระบวนการประชาธิปไตย เป็นการส่งเสริมลักษณะของการอาศัยรัฐธรรมนูญ เพื่อตอบสนองการบริหาร เสมือนหนึ่งหรือทำให้เข้าใจว่า เปิดประตูให้ต่างชาติเข้ามายึดอำนาจอธิปไตยของชาติ ทุกคนจะต้องได้รับการตรวจสอบ” นายนิติธร กล่าว
     
ขอถามไปยังทุกคนทุกฝ่าย ว่าเมื่อไหร่พวกท่านที่มีสถานะมีตำแหน่งหน้าที่ และต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อทิศทางอนาคต ของบ้านเมือง จะเลิกทำตัวตกเป็นเครื่องมือของอเมริกาเสียที เพราะวันนี้มันสุ่มเสี่ยงกับอธิปไตยมากเหลือเกิน ถ้าท่านทั้งหลายไม่หยุดพฤติกรรมเหล่านี้ ต้องคิดว่าไม่นานพี่น้องประชาชนจะเป็นผู้จัดการกับพวกท่าน ภายใต้ความสามัคคีของพี่น้องประชาชนและจะจัดการกวาดล้างทุกสิ่งทุกอย่าง ที่ก่อให้เกิดความไม่เป็นศิริมงคลกับประเทศเมื่อถึงวันนั้น พวกท่านก็จะมีสภาพเหมือนกับผู้นำยูเครน 
     
นายนิติธร ย้ำว่าไม่นานนี้อำนาจอธิปไตย และความมีเอกราชต่างๆจะต้องกลับมาเป็นของไทยอย่างสมบูรณ์ และไทยต้องมีอิสรภาพในการจัดความสัมพันธ์กับประเทศอื่นๆ ได้ประโยชน์จากทรัพยากรของประเทศอย่างเต็มที่ ผลจากการถูกเอารัดเอาเปรียบนี้จะเกิดขึ้นไม่นาน ขอให้ทุกคนขจัดตัวถ่วงและสิ่งที่สร้างความเสียหายความเลวร้ายให้กับประเทศ ต้องจัดการเสียที สามัคคีเป็นพลังค้ำจุนแผ่นดินไทย 
     
“ถ้าไม่เชื่อขอให้ไปเปิดภาพข่าวระหว่างรัสเซียกับยูเครน และผลที่เกิดขึ้นกับยูเครนในวันนี้ ดูซ้ำไปซ้ำมาๆพร้อมกับพูดกันว่า “สามัคคีเป็นพลังค้ำจุนประเทศแผ่นดินไทย” ก็จะเข้าใจสาระถานะการณ์ของประเทศไทยได้ดี และตนเชื่อว่าคนไทยทุกคนไม่ต้องการให้สิ่งนี้เกิดขึ้นในประเทศนี้” แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย กล่าว 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net