ประชาชนร่วมกันชำระประวัติศาสตร์ “ใครฆ่าพระเจ้าตาก”

โมกหลวงริมน้ำฟื้นฝอยหาตะเข็บการตายของพระเจ้าตากสิน ผู้ร่วมปราศรัยย้อนชนชั้นนำเข่นฆ่ากันเองชิงราชสมบัติและอำนาจมาตั้งแต่อดีต พระเจ้าตากสินก็ถูกประหารชิงอำนาจ

6 เม.ย.2565 เวลา 16.00น. ที่บริเวณอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ กลุ่มโมกข์หลวงริมน้ำมารวมตัวกันเพื่อทำกิจกรรม “ฟื้นฝอยหาตะเข็บ 240 ปี ใครฆ่าพระเจ้าตาก” ทางเพจของกลุ่มได้ระบุรายละเอียดกิจกรรมครั้งนี้ไว้ว่าเป็นการชำระประวัติศาสตร์โดยยังระบุอีกว่าวันนี้เป็น “รัฐประหารครั้งแรกของกรุงรัตนโกสินทร์” จากการที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์พระองค์แรกแห่งราชวงศ์จักรี และเริ่มต้นยุครัตนโกสินทร์

ก่อนที่กิจกรรมจะเริ่มขึ้นบริเวณพื้นที่จัดกิจกรรม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังเอาไว้และมีเข้ามาเจรจาให้เป็นการส่งตัวแทนไปทำกิจกรรมที่อนุสาวรีย์ แต่ทางผู้จัดและประชาชนที่เข้าร่วมยืนยันว่าจะต้องได้เข้าไป อีกทั้งยังมีการตรวจเช็คข้อความบนป้ายผ้าที่ทางประชาชนจัดเตรียมมาด้วย

ป้ายข้อความมีข้อความต่างๆ เช่น “6เมษาใครฆ่าพระเจ้าตาก” “#ชำระประวัติศาสตร์” และประชาชนที่มาร่วมก็ยังได้มีจัดแสดงดนตรีและเข้าไปสักการะพระเจ้าตากสิน

ในการปราศรัยมีการพูดถึงการหล่อหลอมให้ประชาชนต้องเคารพสักการะและยินดีกับการเปลี่ยนยุคสมัยใหม่จากกรุงธนบุรีเป็นรัตนโกสินทร์ที่มาจากการยึดอำนาจพระเจ้าตากสินโดยรัชกาลที่ 1 จึงเป็นเรื่องที่ทำให้คนในสถาบันกษัตริย์จะต้องไปกราบไหว้รัชกาลที่ 1 ที่ทำให้ได้เข้ามาอยู่ในอำนาจของราชวงศ์จักรี 

'โสภณ' ปราศรัยชำระ ปวศ.ราชวงศ์จักรี ชวนประชาชนเชื่อบนหลักการเหตุและผล

‘เก็ท’ โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง ผู้ก่อตั้งโมกหลวงริมน้ำ และผู้นัดหมายกิจกรรม กล่าวว่า เขาจัดงานครั้งนี้เพื่อต้องการชำระประวัติศาสตร์ และรณรงค์ให้ประชาชนเชื่อประวัติศาสตร์ด้วยตรรกะและเหตุผล ไม่ได้เชื่อประวัติศาสตร์ตามที่เขาบอกเล่ากันต่อมา เขาบอกเลี้ยวซ้าย-เลี้ยวขวา ก็ทำตาม แต่ประวัติศาสตร์คือสิ่งที่ต้องวิเคราะห์ ตั้งคำถาม สืบหาความจริง และต่อยอดได้

โสภณ ระบุว่า วันนี้เขามาพูดเรื่องพระเจ้าตากสินมหาราช เนื่องจากวันที่ 6 เมษายน ของทุกปี เป็นวันจักรี แต่ยังเป็นวันที่มีการทำรัฐประหารครั้งแรกในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ และยึดอำนาจจากพระเจ้าตากสินมหาราช แม้ว่าชนชั้นนำ หน่วยงานราชการ และสถาบันกษัตริย์ จะเฉลิมฉลองกับการตั้งศักราช รัชสมัยใหม่ หรือยุคสมัยใหม่ แต่ในนัยยะของการเฉลิมฉลองคือการขอบคุณทองด้วง หรือรัชกาลที่ 1 ที่ยึดอำนาจมาจากพระเจ้าตากฯ ทำให้สถาบันกษัตริย์เสวยสุขและเสวยอำนาจปัจจุบัน

โสภณ กล่าวต่อว่า เขาอยากเชิญชวนทุกคนมาร่วมชำระประวัติศาสตร์การก่อตั้งราชวงศ์จักรี โดยจากการศึกษาของเขา เขาตั้งข้อสันนิษฐานว่าที่ทองด้วงอ้างว่าพระเจ้าตากฯ สติฟั่นเฟือน และต้องยึดอำนาจ เป็นข้ออ้างที่ต้องการลดความชอบธรรมของพระเจ้าตากฯ เนื่องจากไม่สามารถเทียบบุญบารมีในฐานะผู้กอบกู้อาณาจักรไทยได้ 

‘โสภณ’ ชวนประชาชนคิดต่อว่า ถ้าเพื่อนร่วมรบของคุณเป็นบ้า ทำไมคุณไม่ช่วยเพื่อนของคุณ แต่กลับฆ่าล้างโคตรพวกเขา ทั้งข้าราชบริพาร ญาติพี่น้อง และคนใกล้ชิด รวม 210 กว่าราย ซึ่งนี่สะท้อนสิ่งว่ารัชกาลที่ 1 ต้องการยึดอำนาจเพื่อสร้างยุคสมัยใหม่ของตัวเอง ไม่ได้เกี่ยวกับที่พระเจ้าตากฯ สติฟั่นเฟือน

นอกจากนี้ เคยมีกลุ่มอนุรักษ์นิยมตั้งข้อสันนิษฐานว่า พระเจ้าตากสินหนีลงไปบวชที่ภาคใต้ หรือจังหวัดนครศรีธรรมราช ไม่ได้ถูกรัชกาลที่ 1 ประหารชีวิตนั้น โสภณ ระบุว่า ข้ออ้างนี้มาจากนิยายของหลวงวิจิตรวาทการ แต่งขึ้นมา และคนก็เชื่อต่อๆ กัน และสมาชิกโมกหลวงริมน้ำ ได้นำเสนอหลักฐานเป็นพระราชหัตถเลขาจากรัชกาลที่ 4 ที่เคยเขียนถึงกรณีเรือของเจ้าฟ้าผึ้ง ลูกหลานของพระเจ้าตากสิน ตัดหน้าเรือพระที่นั่งของรัชกาลที่ 4 โดย ร.4 เขียนสะท้อนความเป็นอำนาจนิยมว่า "กูน่าจะฆ่ามึงให้เหมือนกับต้นตระกูลมึง" โสภณ จึงมองว่านี่เป็นหลักฐานที่ยืนยันว่าพระเจ้าตากฯ ตายจริงๆ ไม่ได้หนีไปบวช 

สุดท้าย โสภณ ระบุทิ้งท้ายว่า เขาอยากให้ประชาชนเชื่อประวัติศาสตร์จากตรรกะและเหตุผล ค้นคว้าศึกษาด้วยตัวเอง ดูว่ามีใครเคยตั้งข้อสันนิษฐานอะไรบ้าง และดูว่าเขาน่าเชื่อถือหรือไม่ ไม่ใช่จากการบอกเล่าสืบต่อกันมา หนึ่งในอำนาจของกษัตริย์ในช่วงหลายสิบหลายร้อยปีที่ผ่านมา เกิดจากพิธีกรรม ประเพณี และเกิดจากวัฒนธรรมที่เขาพยายามยัดเยียดเข้ามา เพื่อให้พสกนิกรเห็นว่าสถาบันกษัตริย์ยังมีความสำคัญ ทั้งที่สถาบันกษัตริย์ไม่ได้ทำอะไร แต่ใช้เงินภาษีของเรา 

"พวกคุณมีศักดิ์ศรีและคุณค่าในฐานะมนุษย์ อย่าเชื่อสิ่งที่หล่อหลอมคุณ แยกเรื่องประเพณี และวัฒนธรรมออก และใช้เรื่องตรรกะ ใช้ความเชื่อมั่นของคุณ ศรัทธาในตัวเอง และคุณมีศักยภาพในการหาความจริง" โสภณ กล่าวทิ้งท้าย

240 ปี 'พระเจ้าตาก' ถูกประหาร ย้อนฟังนักวิชาการชี้ไม่ได้บ้า แค่อ้างเพื่อยึดอำนาจ แถมไม่ได้บวชที่ไหน

โจเซฟ 1 ในผู้ร่วมปราศรัยได้กล่าวถึงประวัติศาสตร์การเกิดขึ้นของเทวราชที่เป็นการยกชนชั้นปกครองให้สมมติเทพที่เป็นประโยชน์ในการปกครองไพร่ทาสในอดีตทำให้ผู้คนต้องหมอบกราบและยังถูกใช้มาจนถึงปัจจุบันให้ต้องเชื่อฟังชนชั้นปกครอง

นอกจากนั้นชนชั้นนำไทยที่ถูกเปรียบเป็นสมมติเทพเหล่านี้มาตั้งแต่อยุธยาการขึ้นมามีอำนาจของแต่ละราชวงศ์ในอดีตกลับฆ่าฟันกันเพื่อชิงราชสมบัติฆ่าคนในครอบครัวตัวเองจนเป็นเรื่องปกติ แม้กระทั่งการขึ้นมาของราชวงศ์จักรีรัชกาลที่ 1 ก็ฆ่าพระเจ้าตากสินและเครือข่ายถึง 133 คน เพื่อตั้งราชวงศ์จักรีและยังมีการลดทอนความน่าเชื่อถือของพระเจ้าตากด้วยการบอกว่าหนีไปบวชบ้าง แม้ว่าจะมีหลักฐานจำนวนมากที่บอกได้ว่าพระเจ้าตากถูกฆ่าเช่นพระราชหัตถเลขาของรัชกาลที่ 4 ที่บอกว่าสกุลของพระเจ้าตากถูกฆ่าตัดคอ เป็นต้น

โจเซฟยังกล่าวอีกว่าพระเจ้าตากสินได้ทำพลาดที่เชื้อและไว้ใจนายทองด้วง(รัชกาลที่ 1) ที่เป็นแม่ทัพนายกองของตนที่วางแผนประหารพระเจ้าตากและลูกหลานอยู่ก่อนแล้ว

โจเซฟ

ภายหลังจากโจเซฟปราศรัยเสร็จแล้วทางผู้ที่มาร่วมกิจกรรมได้จัดแสดงการฆ่าตัดคอโดยกล่าวว่าวิชาประวัติศาสตร์ไทยที่มีการเรียนการสอนได้หลอกมาตลอดว่าพระเจ้าตากสินได้หนีไปบวชหรือไม่ได้ถูกทุบด้วยท่อนจันทน์ แต่ถูกประหารชีวิตด้วยการตัดคอและถูกนายทองด้วงยึดอำนาจมา

17.10 น. ประชาชนที่มาร่วมกันทำกิจกรรมได้ร่วมกันยืนชู 3 นิ้ว โดยทางเวทีประกาศว่าให้หันไปทิศทางที่ตั้งของสะพานพุทธที่มีอนุสาวรีย์ของรัชกาลที่ 1 อยู่และมีการตะโกนว่า "ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ" และปิดท้ายกิจกรรมด้วยการแสดงดนตรีก่อนยุติกิจกรรมที่อนุสาวรีย์พระเจ้าตาก

ทั้งนี้เวลา 17.25 น. ทางเวทียังมีการประกาศเกี่ยวกับสถานการณ์ของทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวันที่เดินทางไปรับเสด็จที่วัดพระแก้วแต่ถูกกักตัวอยู่ที่จุดคัดกรองโดยจะเดินขบวนไปรอรับทานตะวันที่สะพานพุทธ

17.55 น. Mob Data Thailand รายงานสถานการณ์ต่อเนื่องว่าประชาชนตั้งขบวนเดินจากอนุสาวรีย์พระเจ้าตากเดินไปตามถนนประชาธิปกผ่านสี่แยกบ้านแขก มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาเจรจาแต่ขบวนก็เดินต่อไปมุ่งหน้าสะพานพุทธ ตำรวจตั้งกรวยขวางและยืนคล้องแขนกันกั้นไม่ให้มวลชนข้ามฝั่งถนนที่มุ่งหน้าสะพานพุทธ

18.05น. ผู้กำกับสน.บุปผาราม ประกาศว่าเจ้าพนักงานออกประกาศคำสั่ง ไม่ฝ่าฝืนแนวที่เจ้าหน้าที่กั้นไว้ใต้สะพานลอยประชาธิปก หากฝ่าฝืนตำรวจจำเป็นควบคุมสถานการณ์และเป็นการชุมนุมฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินและฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานเป็นการชุมนุมผิดกฎหมายขอให้เลิกการชุมนุม

อย่างไรก็ตามผู้กำกับสน.บุปผารามแจ้งผู้ที่ร่วมเดินขบวนว่าจะพาตะวันมาพบผู้ชุมนุมที่สวนหย่อมสะพานประชาธิปก

'ตะวัน' ไปรอรับเสด็จที่วัดพระแก้วแต่ไม่ได้เข้า ตร.อ้างไม่มีอำนาจตัดสินใจจะให้เข้าได้หรือไม่

Mob date รายงานต่อว่า เวลา 18.50 น. ตำรวจเริ่มระบายรถยนต์จักรยานยนต์จากถนนอรุณอมรินทร์ให้ผ่านไปสะพานพระปกเกล้า

เวลา 18.54 น. ประชาชนที่ใช้ถนนไม่สามารถผ่านทางได้จึงบีบแตรแสดงความไม่พอใจต่อตำรวจที่ตั้งแถวปิดถนนประชาธิปก จากนั้นตำรวจใช้โทรโข่งประกาศว่า เราจะเปิดการจราจรโดยให้ทยอยไป ซึ่งจะต้องเป็นผู้ที่ใช้สะพานพระปกฯ และถามรถมอเตอร์ไซด์ทีละคันว่า จะไปไหนและค่อยปล่อยไป แต่ยังไม่ให้รถโดยสารชนิดอื่นผ่านไป จน 19.00 น. ตำรวจเริ่มปล่อยให้รถโดยสารชนิดอื่นผ่านไปทางสะพานพระปกเกล้า

19.10 กลุ่มโมกหลวงริมน้ำประกาศยุติการชุมนุม พรัอมประกาศงว่าเราพร่อมจะสู้อย่างเปิดหน้ากับสถาบันกษัตริย์ และขอให้ตามข่าว "น้องพิงค์" ที่ถูกตำรวจคุมตัวไป มวลชนบางส่วนประกาศว่าเป็นห่วงตะวันทางโมกหลวงจึงขอให้หลังจากนี้เป็นม็อบออแกนิก ทางโมกหลวงจะยุติเท่านี้

19.25 มวลชนแจ้งว่าจะเดินไปสน.พระราชวัง ตรงข้ามโรงเรียนราชินี ถ้ามีใครจะมาให้ร่วมเดินไปด้วยกัน

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวประชาไทที่ติดตามรายงานข่าวกรณีของทานตะวันอยู่ระบุว่าเมื่อเวลาเกือบ 2 ทุ่มทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว "พิงค์" มาพบกับทานตะวันที่บริเวณจุดคัดกรองเข้าพื้นที่รับเสด็จบริเวณสำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว

19.41 น. ทางเพจของโมกหลวงริมน้ำประกาศยุติการชุมนุมทางแฟนเพจ

เยาวชนถูกจับกุม 2 ราย

ระหว่างที่เกิดสถานการณ์ทางด้านสะพานประชาธิปกของกลุ่มโมกหลวงริมน้ำและทานตะวันที่ไม่สามารถเข้าพื้นที่รับเสด็จบริเวณวัดพระแก้วได้ ทางศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่าเมื่อเวลา 18.55น. แทนฤทัย เยาวชนอายุ 16 ปี กลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกแจ้งศูนย์ทนายฯ ว่าถูกควบคุมตัวไว้ที่ สน.สำราญราษฎร์ เหตุพกป้ายมีข้อความ"ทรงพระเจริญ"ไว้ในกระเป๋า แต่ยังไม่ได้นำออกมาใช้ ตร.จะให้เธอลงชื่อในบันทึกสอบถามรายละเอียดการมาชุมนุมวันนี้ไว้ ทั้งที่ยังไม่แจ้งข้อหาใด

19.35 น. แทนฤทัยปฏิเสธเข้าร่วมกระบวนการและไม่ลงชื่อในเอกสารใด ก่อนออกจากสน. แล้ว เธอให้ข้อมูลว่าถูกควบคุมตัวจากบริเวณลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพและนำตัวไปที่ สน.สำราญราษฎร์

นอกจากกรณีของแทนฤทัยแล้วศูนย์ทนายความฯ ยังรายงานอีกว่า 19.00น. ศูนย์ทนายฯ ได้รับรายงานอีกว่ามีวัยรุ่นหนึ่งคนทราบชื่อในภายหลังว่า "กวางตุ้ง" (สงวนชื่อนามสกุล) กำลังถูกควบคุมตัวจากข้างศาลฎีกา สนามหลวง ไปที่ สน.พระราชวัง โดยอยู่บนรถพยาบาลตำรวจ ตร.อ้างว่าจะนำตัวไปทำประวัติไว้แล้วปล่อยตัว โดยไม่แจ้งข้อกล่าวหา 19.35 น. เธอปฏิเสธไม่เข้าร่วมกระบวนการและออกจากสน.แล้ว 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท