Skip to main content
sharethis
  • 'ทบ.' ย้ำแบน LAZADA ในเขตทหาร 'กองทัพอากาศ' ขอความร่วมมือกำลังพลไตร่ตรองสั่งซื้อสินค้า 'ผบ.ทสส.' ให้ทหารยึดมั่นจุดยืน 'ทร.' ต้านโฆษณาที่ล้อเลียน ความบกพร่องของบุคคลขอใช้วิจารณญานอย่างยิ่งยวด
  • ขณะที่ 'รองโฆษก ก้าวไกล' ซัด ผบ.ทบ. แบน 'ลาซาด้า' ไม่ใช่หน้าที่กองทัพ สะท้อนทัศนคติล้าหลัง ดีแต่ใช้อำนาจ ยิ่งสร้างความแตกแยกหวาดกลัวในยุคข้าวยากหมากแพง
  • ด้าน 'ศรีสุวรรณ’ ยื่น ‘ดีอีเอส’ ขอให้ศาลพิจารณาสั่งปิดแพลตฟอร์ม Lazada และเว็บเพจนาราฯ

9 พ.ค.2565 จากสัปดาห์ที่ผ่านมากระแสเรียกร้องแบนแพลตฟอร์มลาซาด้า โดยอ้างว่านำกลุ่มบุคคลที่มีทัศนคติที่เป็นภัยต่อสถาบันกษัตริย์มาเป็นพรีเซนเตอร์ทำการตลาด แม้ลาซาด้าและบริษัทเอเยนซี่จะออกมาแถลงขอโทษ หรือตัวละครหลักในโฆษณา นาราเครปกะเทย ออกมาชี้แจงว่าไม่มีเจตนาหรือล้อเลียนใคร และมัมดิว ที่เป็นอีกคนซึ่งถูกพาดพิงออกมายืนยันว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโฆษณาแอปดังดังกล่าว รวมทั้งเสียงวิพากษ์วิจารณ์อีกกระแสไม่ได้มองว่าเป็นการล้อเลียนใคร อีกทั้งเมื่อพิจารณาจากคลิปโฆษณานั้น อย่างที่ นาราฯ อธิบายว่า "เป็นละครที่แม่ ซึ่งแสดงโดยหนูรัตน์ มาขโมยเสื้อ-ผ้าของลูก ซึ่งรับบทโดยนาราฯ จนสุดท้าย ลูกมาจับได้ว่าแม่มาขโมยของของเธอ และจุดพีกคือแม่เดินได้" นั่นคือบทละครที่ถูกวางไว้ ซึ่งเธอยืนยันว่า ไม่ได้มีเจตนาล้อเลียน หรือพาดพิงผู้อื่นให้เสียหายนั้น

มาทั้งกองทัพ ไม่พอใจลาซาด้า

อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวเป็นประเด็นข้ามสัปดาห์วันนี้ (9 พ.ค.)  ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานการประชุมหน่วยทหารกองทัพบกทั่วประเทศผ่านระบบออนไลน์ ทั้งนี้ พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังว่าจากการที่แพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ “LAZADA” ได้มีการ นำเสนอโฆษณาด้านการตลาด (Content) ในลักษณะที่ก้าวล่วงสถาบัน บ่อนทำลายและกระทบต่อความรู้สึกของคนไทยอย่างร้ายแรง ล่าสุดในส่วนของกองทัพบก ได้มีนโยบายห้ามทุกหน่วยทหารในสังกัด หรือกิจการใดๆ ของกองทัพบก ใช้บริการสั่งสินค้าจากแพลตฟอร์ม LAZADA รวมทั้งไม่อนุญาตให้มีการส่งของจากแพลตฟอร์ม LAZADA เข้ามาในพื้นที่ของหน่วยทหารหรือพื้นที่ที่กองทัพบกให้การดูแล ทั้งนี้เพื่อเป็นการแสดงออกถึงเจตนารมณ์ ในการปกป้องสถาบันและใช้มาตรการทางสังคมต่อองค์กรที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมและสร้างความแตกแยกในสังคมไทย ทั้งนี้ตั้งแต่วันนี้ (9 พ.ค. 65)

ไม่เพียงกองทัพบกเท่านั้น พล.อ.ต. บุญเลิศ อันดารา โฆษกกองทัพอากาศ ออกมาระบุด้วยว่า ขอให้พิจารณาไตร่ตรองการสั่งซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าออนไลน์ดังกล่าว เนื่องจากเป็นสิ่งที่กระทบต่อความรู้สึกของสังคม ไม่ให้เกียรติและลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต่อผู้ที่มีความบกพร่องทางร่างกายหรือเจ็บป่วย 

พล.ท.ธีรพงศ์ ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร และโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ระบุว่า พล.อ. เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด มีความกังวลต่อเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอย่างมาก เนื่องจากได้สร้างผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนชาวไทย ในขณะเดียวกัน กองทัพก็มีจุดยืนในด้านการพิทักษ์ ปกป้อง และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และจะมิยอมให้กลุ่มบุคคลใดกระทำการล่วงเกินสถาบันสูงสุดของประเทศโดยเด็ดขาด

ขณะที่ท่าทีของกองทัพเรือ โดย พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ในฐานะโฆษกกองทัพเรือ ระบุว่า พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ มีความเป็นห่วงในการนำความบกพร่องของบุคคลอื่นมาล้อเลียน จึงขอให้ประชาชน ใช้วิจารณญานในการรับชม กรณีดังกล่าวนับว่าเป็นเรื่องที่สังคมไม่ควรยอมรับ หรือปล่อยผ่าน โดยจะไม่เกิดขึ้นในประเทศ ที่ผู้คนมีจิตใจที่พัฒนาแล้ว จึงอยากขอให้ใช้วิจารณญานอย่างยิ่งยวดในการนำผู้ป่วย ผู้พิการ รวมถึงผู้ที่มีความอ่อนแอในด้านต่างๆ มาใช้ เพราะจะชี้นำทำให้สังคมคนไทยของเราตกต่ำ และวอนขอประชาชน"ไม่อดทนอดกลั้น" (zero tolerance) กับการกระทำรูปแบบนี้ วอนเจ้าของผลิตภัณฑ์ เจ้าของบริษัทโฆษณา เจ้าของสื่อในรูปแบบต่างๆ คัดกรอง โฆษณาที่ใช้การล้อเลียน ส่อเสียด และมาช่วยกันสนับสนุนสื่อโฆษณาที่สร้างสรรค์ เห็นอกเห็นใจกัน มาช่วยกันสร้างสังคมที่มีความรักความเข้าใจ และอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขต่อไป

(ที่มา : มติชนออนไลน์THE STANDARD สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว และ Wassana Nanuam, )

'ศรีสุวรรณ’ ยื่น ‘ดีอีเอส’ ขอให้ศาลพิจารณาสั่งปิดแพลตฟอร์ม Lazada และเว็บเพจนาราฯ

วันเดียวกัน (9 พ.ค.) ไทยโพสต์ รายงานด้วยว่า ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อ รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อมพยานหลักฐาน เพื่อขอให้ใช้อำนาจตามกฎหมาย ในการขอให้ศาลพิจารณาสั่งปิดแพลตฟอร์ม Lazada และเว็บเพจนารา เครปกระเทย ที่ได้จัดทำและเผยแพร่คลิปวิดีโอ และภาพนิ่งโปรโมตแคมเปญสินค้าลดราคาในสื่อออนไลน์เมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมาในลักษณะพาดพิง ก้าวล่วงสถาบันเบื้องสูง และบูลลี่คนพิการ อันกระทบต่อศีลธรรมจรรยา เกิดความแตกแยกในสังคม และกระทบต่อความมั่นคงของชาติ กรณีเจ้าของแพลตฟอร์ม Lazada และเว็บเพจนารา เครปกระเทยนั้น ผู้ที่มีอำนาจในการดำเนินการลงโทษ โดยการสั่งปิด เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อเพจหรือแพลตฟอร์มอื่นๆ ต่อไปได้นั้น อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง ที่จะต้องดำเนินการทำคำฟ้องเสนอต่อศาลเพื่อขอให้ศาลสั่งปิดเพจและแพลตฟอร์มดังกล่าว เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการก้าวล่วงสถาบันเบื้องสูง ซึ่งที่ผ่านมาเมื่อปีที่แล้วดีอีเอสเคยดำเนินงานระงับข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ไม่เหมาะสมที่กระทำความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ กรณีหมิ่นสถาบันฯไปแล้วมากกว่า 100 คำสั่งศาล 2,032 รายการ (URLs) โดยได้ดำเนินการประสานแจ้งความ กับ ปอท. แล้วกว่า 581 URLs เว็บลามกอนาจาร 9 คำสั่งศาล 179 รายการ การละเมิดลิขสิทธิ์ 3 คำสั่งศาล 47 รายการและเว็บพนันออนไลน์ 4 คำสั่ง 409 รายการ รวม 116 คำสั่งศาลมากกว่า 2,667 รายการ

'รองโฆษก ก้าวไกล' ซัด ผบ.ทบ. แบน 'ลาซาด้า' ไม่ใช่หน้าที่กองทัพ

ขณะที่ทีมสื่อพรรคก้าวไกล กรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ กองทัพบกห้ามลาซาด้าเข้าพื้นที่ทหารทั่วประเทศตามที่ พลเอกณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบกมีคำสั่ง ว่าไม่คิดบุคคลที่มีตำแหน่งถึงผู้บัญชาการทหารบกจะมีคำสั่งที่ไม่เข้าใจโลกขนาดนี้ อีกทั้งกองทัพเป็นหน่วยงานรัฐควรวางตัวเป็นกลางไม่เลือกปฏิบัติต่อเอกชนผู้ให้บริการรายใด รวมถึงกองทัพไม่มีหน้าที่ชี้นำต่อสังคมว่าควรหรือไม่ควรใช้บริการใด 

นอกจากนี้ การออกมาแบนโดยอ้างเหตุเรื่องพฤติกรรมไม่เหมาะสมและสร้างความแตกแยก ยิ่งเป็นการสร้างบรรยากาศความหวาดกลัวในสังคม ทั้งยังเป็นการผลักภาระให้กลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์รายเล็กรายน้อย ซึ่งหากการชี้นำของกองทัพในครั้งนี้มีผลในการสร้างความลำบากติดขัดของการดำเนินธุรกิจทั้งที่ควรสนับสนุนให้มีความสะดวกยิ่งขึ้นในยามเศรษฐกิจแบบนี้ยิ่งเท่ากับว่า กองทัพไทยกำลังเป็นแกนนำในการแบนธุรกิจ ผู้ประกอบการ และพาทเนอร์ที่ทำการค้าในแพลทฟอร์มนี้ให้ได้รับผลกระทบและต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่กำลังจะเกิดขึ้น

"ผมคิดว่าถ้าท่านไม่รู้เรื่องอะไรก็อย่าเสนอหน้าเข้าไปยุ่งเลย ปกติลำพังการซื้ออาวุธคนเขาก็ระอาใจกับพวกท่านพอแล้ว หากคุณไม่เคยสนับสนุนอะไรกับประชาชนที่เขาทำมาหากิน ก็อย่าไปสร้างความลำบากให้พวกเขาดีกว่า"

กรุณพล ยังกล่าวอีกว่า อีกหนึ่งประเด็นที่สะท้อนให้เห็นว่าการออกตัวแบนลาซาด้าในครั้งนี้คือความไม่เข้าใจโลกของผู้นำกองทัพที่ดีแต่ใช้อำนาจ คือสุดท้ายแล้วปฏิบัติการคงไม่สามารถทำให้บรรลุผลสำเร็จได้จริง นอกจากออกตัวเพื่อเอาหน้าเอาสะใจเท่านั้น เพราะท่านยังไม่เข้าใจเลยว่า ลาซาด้าไม่ใช่บริษัทขนส่ง หากสินค้าที่สั่งมาส่งโดยบริษัทขนส่งอื่น อาจจะไปรษณีย์ไทย แฟลช เคอร์รี่ ฯลฯท่านจะรู้ได้อย่างไร 

"เป็นการตอกย้ำว่า แล้วแบบนี้คนไทยจะฝากความหวังไว้กับปฏิบัติการของกองทัพได้อีกหรือ ลำพังแค่จะรบกับลาซาด้า ท่านก็ไม่รู้เขารู้เราแบบนี้ แต่ที่เห็นเก่งมากจริงๆคือออกมาไล่ล่าประชาชนที่ไม่มีอาวุธเท่านั้น

"ผมยังคิดไม่ออกว่าการแบนนี้ได้ประโยชน์อะไร นอกจากเป็นการใช้อำนาจรัฐที่ส่งผลกระทบสร้างความเดือดร้อนต่อคนทั่วไปที่ทำมาหาเลี้ยงชีพ และต้องถามต่อไปอีกว่าเหมาะสมแล้วหรือไม่ที่กองทัพจะมาซ้ำเติมคนทำมาหากินในช่วงเวลาที่ข้าวยากหมากแพงแบบนี้ 

"ผมอยากตั้งคำถามว่าการที่กองทัพใช้อำนาจในทางไม่เป็นมิตรกับภาคเอกชนเช่นนี้ จะสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุนและบริษัทเทคโนโลยีที่เป็นอนาคตของโลกในยุคนี้ได้อย่างไร" เพชร กล่าวทิ้งท้าย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net