Skip to main content
sharethis
  • 'ประยุทธ์' ระบุผลเลือกตั้งไม่สะท้อนอะไรทั้งนั้น
  • 'ประวิตร' แสดงความยินดีกับชัชชาติ ส่วน พปชร. ได้ 2 ที่นั่ง ต้องมาทบทวน
  • ‘พิธา’ ระบุ 8 ปี รัฐประหารที่ล้มเหลว ‘คนกรุงเทพ’ สั่งสอนคณะรัฐประหารผ่านการเลือกตั้ง
  • 'ทักษิณ' ชี้เป็น 'แลนด์สไลด์ฝั่งประชาธิปไตย'
  • 'สมคิด เพื่อไทย' มองประชาชนไม่เลือกพรรคใกล้ชิดเผด็จการ ย้ำชัดคนกรุงเทพฯอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง ปฏิเสธอำนาจนอกระบบ  

23 พ.ค.2565 ภายหลังการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและสมาชิกสภากรุงเทพฯ (ส.ก.) วานนี้ (22 พ.ค.) จนได้ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งสูงสุด จำนวน 1,386,215 คะแนน อันดับ 2 เป็นชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ พรรคประชาธิปัตย์ 254,647 คะแนน และอันดับ 3 วิโรจน์ ลักขณาอดิศร พรรคก้าวไกล 253,851 คะแนน ส.ก.นั้น พรรคเพื่อไทยได้ 20 ที่นั่ง พรรคก้าวไกลได้ 14 ที่นั่ง ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ 9 ที่นั่งนั้น

ท่าทีของฝ่ายการเมืองต่างๆ ต่อผลการเลือกตั้งมีดังนี้

'ประยุทธ์' ระบุผลเลือกตั้งไม่สะท้อนอะไรทั้งนั้น

วันนี้ (23 พ.ค.) แนวหน้ารายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ตอบคำถามสื่อมวลชนถึงผลการเลือกตั้งดังกล่าวที่คะแนนเทไปยังพรรคฝ่ายค้าน โดย พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า "ทำไมเหรอ เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องของประชาธิปไตยเป็นการเลือกตั้ง ก็เหมือนกับการเลือกตั้งทั่วไป ครั้งนี้เป็นเพียงจังหวัดนึงก็เท่านั้นเองในประเทศไทย ซึ่งก็เป็นความคิดเห็นของประชาชน ความชอบพอของประชาชนก็ว่ากันไปตามกลไกของประชาธิปไตย รัฐบาลก็ยินดีด้วย และขอเป็นกำลังใจให้ขอให้ทำงานให้สำเร็จ ทั้งนี้ก็เป็นการทำเพื่อพี่น้องประชาชนอยู่แล้ว"

ต่อกรณีคำถามที่ว่า ผลคะแนนที่ออกมาเป็นการสะท้อนให้เห็นอะไรหรือไม่ นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ไม่สะท้อนอะไรทั้งนั้นแหละ มันไม่สะท้อนอะไรกับผมนี่ ก็พรรคที่สนับสนุนรัฐบาลผมพลังประชารัฐก็ไม่ได้ส่งใครลงเลือกตั้งมิใช่หรือ"

ต่อคำถามที่ว่า คะแนนประชาชนที่เลือก ส.ก.เทคะแนนให้กับฝ่ายค้านอย่างมากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงที่มีอารมณ์ว่า "แล้วทำไมล่ะ ไม่สะท้อนอะไรทั้งนั้นแหละ ไม่เกี่ยวกับเรทติ้งของรัฐบาล ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล"

'ประวิตร' แสดงความยินดีกับชัชชาติ ส่วน พปชร. ได้ 2 ที่นั่ง ต้องมาทบทวน

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ รายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึง ผลการเลือกตั้งดังกล่าวว่า ต้องขอแสดงความยินดีกับ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าฯกทม. ที่ได้คะแนนมากมาย และมากที่สุด ในฐานะรัฐบาลต้องขอร่วมแสดงความยินดีและพร้อมสนันสนุนการทำงานของชัชชาติ เพราะตนบอกแล้วว่าใครได้เป็นผู้ว่าฯกทม.เราก็สนับสนุนการทำงานตลอด 

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ทั้งนี้ เราก็ต้องมาทบทวนว่าพปชร. ผิดพลาดในเรื่องการทำงาน เราจะต้องมาแก้ไข แต่สำหรับการเลือกตั้งส.ก. ที่พรรคเราได้มา 2 ที่นั่ง ก็ต้องแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับเลือกตั้ง รวมถึงคนที่ได้คะแนนอันดับสองด้วย 

เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์สาเหตุที่นายชัชชาติได้คะแนนถล่มทลายหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องของประชาชนที่ให้การสนับสนุน 

‘พิธา’ ระบุ 8 ปี รัฐประหารที่ล้มเหลว ‘คนกรุงเทพ’ สั่งสอนคณะรัฐประหารผ่านการเลือกตั้ง

ทีมสื่อพรรคเพื่อไทยรายงานต่อสื่อมวลชนว่า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แสดงความเห็นต่อผลการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯและสมาชิกสภากรุงเทพฯ (ส.ก.) ว่า วันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา นอกจากจะเป็นวันเลือกตั้งผู้ว่า กทม. และ สมาชิกสภากรุงเทพ ยังเป็นวันครบรอบ 8 ปีการรัฐประหาร ยึดอำนาจจากประชาชน บดขยี้ประชาธิปไตยของพวกเราทุกคน

“8 ปีผ่านไป ผลการเลือกตั้งครั้งนี้สะท้อนว่าการรัฐประหารคือความล้มเหลว ถึงแม้ว่าคณะรัฐประหารจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อฉุดรั้งสังคมไทยไม่ให้เดินหน้า ทั้งการร่างกติกาที่บิดเบี้ยว การทำลายกลไกประชาธิปไตย และบ่อนทำลายกำลังของภาคประชาชน จาก คสช. มาจนถึงรัฐบาลประยุทธ์ที่รวบรวมนักการเมืองที่ไม่ได้เห็นคุณค่าของประชาธิปไตยมาไว้ด้วยกัน

“ความเลวร้ายของการรัฐประหาร ตลอดจนความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลประยุทธ์และคณะ ได้ทำให้ประเทศไทยถดถอยและล้มเหลวอย่างน่าอับอาย จนประชาชนไม่อาจฝืนใจเลือกตัวแทนที่เป็นซากเดนจากมรดกรัฐประหารได้อีกต่อไป จากที่เห็นกันในการเลือกตั้งครั้งนี้”

พิธา ยังระบุว่า ตนและพรรคก้าวไกล ขอขอบคุณทุกความไว้วางใจที่มอบให้ การเลือกตั้งครั้งนี้มีความหมายกับพรรคก้าวไกลมาก เพราะทำให้เราได้สื่อสาร พูดถึงความฝันและอุดมการณ์แบบเรากับชาวกรุงเทพฯ ได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรัฐสวัสดิการ ทลายทุนผูกขาด การชนกับอำนาจและกติกาที่ไม่เป็นธรรมต่างๆ รวมถึงการผลักดันให้สภา กทม. ต้องเป็นพื้นที่เปิดเผยโปร่งใส การทำสัญญาต่างๆต้องเปิดเผยต่อประชาชน 

“เราเชื่อว่า สิ่งที่เราทำคือการดันเพดานทางความคิดสำหรับกรุงเทพด้วย จากนี้ไป สิ่งนี้จะเป็นแรงผลักให้กรุงเทพฯ ขับเคลื่อนต่อไป กลายเป็นเมืองที่คนเท่ากันที่เราฝันถึง และเราจะไม่หยุด เราจะสรุปบทเรียนเพื่อปรับปรุงและทำงานหนักต่อไป เพื่อให้พี่น้องประชาชนไว้วางใจพวกเรามากขึ้นๆ ครับ”

พิธา ยังกล่าวว่า ท้ายที่สุดนี้อยากจะขอฝากเอาไว้ถึงความเข้มแข็งของระบอบประชาธิปไตย ถึงแม้ว่าในช่วง 16 ปีที่ผ่านมาประชาธิปไตยไทยจะถูกทำลายอย่างสิ้นเชิงไปถึง 2 ครั้งจากการรัฐประหาร แต่ประชาธิปไตยก็พร้อมที่จะกลับมาเบ่งบานได้อยู่เสมอ ถึงแม้พี่น้องประชาชนจะต้องก่อร่างสร้างประชาธิปไตยขึ้นมาใหม่จากศูนย์ ตนและพรรคก้าวไกลก็พร้อมที่จะร่วมสู้ไปกับประชาชนเพื่อไม่ให้ประชาธิปไตยไทยถอยหลังหมุนย้อนกลับไปแบบเข็มนาฬิกา แต่จะต้องสู้ให้ประชาธิปไตยไทยเดินหน้าไปได้

 

'ทักษิณ' ชี้เป็น 'แลนด์สไลด์ฝั่งประชาธิปไตย'

บีบีซีไทย สัมภาษณ์ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยเขามองว่า ผลการเลือกตั้งท้องถิ่นคราวนี้คือชัยชนะแบบแลนด์สไลด์ ที่สามารถจะนำไปสู่ชัยชนะของ "ฝ่ายประชาธิปไตย" ในการเลือกตั้งระดับชาติที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้

"แน่นอน เป็นแลนด์สไลด์ฝั่งประชาธิปไตย ชัดเจน อยู่ที่การเลือกตั้งทั่วไปว่าจะเป็นอย่างไร แต่ผมเชื่อว่าฝ่ายประชาธิปไตยชนะขาดแน่ จะชนะอย่างไร แค่ไหน พูดยาก แต่ฝ่ายประชาธิปไตยจะชนะแน่นอน" อดีตนายกฯ กล่าวกับบีบีซีไทย

'สมคิด เพื่อไทย' มองประชาชนไม่เลือกพรรคใกล้ชิดเผด็จการ ย้ำชัดคนกรุงเทพฯอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง ปฏิเสธอำนาจนอกระบบ    

ทีมสื่อพรรคเพื่อไทย รายงานต่อสื่อมวลชนว่า สมคิด เชื้อคง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงาน พรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้าน ระบุถึงผลการเลือกตั้งว่า สะท้อนว่าประชาชนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ย้ำชัดอยากได้ผู้ว่าเลือกตั้งมากกว่าแต่งตั้ง  ผลการเลือกตั้งสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง เพราะผู้ว่าที่มาจากการแต่งตั้งไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชน รวมทั้งไม่สามารถแก้ปัญหาของประชาชนได้ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่ประชาชนจะปฏิเสธอำนาจรัฐบาล หลังจากนี้เชื่อว่าพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ได้รับการตอบรับจากประชาชนมากกว่าฝ่ายที่แนบแน่นกับรัฐบาล ผลที่ออกมาจะสะท้อนไปสู่การเลือกตั้งทั่วไปอย่างแน่นอน 

สมคิด กล่าวด้วยว่า ในขณะเดียวกันผลการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร หรือ ส.ก.ผลที่ออกมาพบว่าประชาชนยอมรับการ ทำงานของพรรคเพื่อไทยและให้ความสำคัญกับพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยมากขึ้น ดังนั้นการตอบรับของประชาชนจึงสะท้อนว่าประชาชน ไม่ยอมรับพรรคการเมืองที่ใกล้ชิดกับผู้มีอำนาจ

“การเลือกตั้งครั้งนี้คือการแสดงออกของประชาชนที่ต้องการ การเปลี่ยนแปลง อะไรที่ไปเกี่ยวข้องกับผู้มีอำนาจคนกรุงเทพปฏิเสธ อำนาจเผด็จการและไม่เอารัฐประหาร ดังนั้นพรรคที่ใกล้ชิด รัฐบาลที่ไม่เป็นไป ตามแนวทางของประชาธิปไตยจึงได้รับบทเรียนจากประชาชน ประชาชน จำนวนมากเห็นชัดว่า 8 ปีที่ผ่านมาไม่มีการปฏิรูปที่แท้จริง เชื่อว่าในการเลือกตั้งใหญ่ที่จะมีขึ้นประชาชนจะปฏิเสธพรรคการเมืองที่แนบแน่นกับรัฐบาล ประชาชนยังเชื่อมั่นในระบบประชาธิปไตยและมั่นใจว่าการเลือกตั้งดีกว่าการแต่งตั้งอย่างแน่นอน” สมคิด กล่าว

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net