สภาผู้แทนฯ เห็นชอบให้ประกาศใช้ร่าง พ.ร.บ.กยศ. ให้การกู้ยืมปลอดดอกเบี้ย-ไม่คิดค่าปรับ

  • สภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบให้มีการประกาศใช้ร่าง พ.ร.บ.กยศ.ให้การกู้ยืมปลอดดอกเบี้ย ไม่คิดค่าปรับ และไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน พร้อมมีผลย้อนหลังยกเว้นดอกเบี้ยและค่าปรับผู้กู้และผู้ค้ำ - โฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงขอบคุณ
  • ส.ส.ประชาธิปัตย์ แนะ กยศ. ต้องปรับบทบาทการบริหารองค์กรให้เป็นหุ้นส่วนทางการศึกษา มากกว่าการทำหน้าที่แบบธนาคารพาณิชย์ 'สาทิตย์' ห่วงถ้าไม่เก็บดอกเบี้ยจะไม่มีเงินหมุนเวียนกองทุน เป็นภาระประเทศ

 

14 ก.ย.2565 สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา รายงานว่า สภาผู้แทนราษฎรมีมติเสียงข้างมากเห็นชอบให้มีการประกาศใช้ร่างพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(ฉบับที่...) พ.ศ.... (พ.ร.บ.กยศ.) ด้วยเสียง 314 ต่อ 3 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง และไม่ลงคะแนน 2 เสียง ภายหลังจากพิจารณาและลงมติรายมาตราในวาระที่ 2  ต่อจากการประชุมเมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่ผ่านมาโดยเริ่มจากมาตรา 17 ที่เป็นการแก้ไขมาตรา 44 ว่าด้วยการคิดอัตราดอกเบี้ย หรือค่าปรับผิดนัดชำระ ซึ่งก่อนหน้านี้สภามีมติเห็นชอบให้มีการแก้ไขตามกรรมาธิการเสียงข้างน้อยการพิจารณาต่อในวันนี้จึงเป็นการลงมติตามที่ผู้แปรญัตติสงวนความเห็นไว้จำนวน 8 ฉบับ ซึ่งท้ายที่สุดสภาผู้แทนราษฎรเห็นด้วยกับการเสนอแก้ไขของ อุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ให้การกู้ยืม กยศ. เป็นแบบปลอดดอกเบี้ยและไม่มีค่าปรับผิดนัดชำระด้วยเสียง 218 ต่อ 109 เสียง จากนั้นเป็นการพิจารณาต่อตามลำดับมาตรา ซึ่งเสียงข้างมากเห็นด้วยกับกรรมาธิการรวมถึงมาตรา 24 ที่สภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบตามที่คณะกรรมาธิการแก้ไขกำหนดเป็นบทเฉพาะกาล ให้มีผลย้อนหลังในการช่วยเหลือและบรรเทาภาระของผู้กู้ยืมเงินหรือผู้ค้ำประกันที่ทำสัญญากู้ยืมก่อนร่างกฎหมายฉบับใหม่นี้โดยให้นำมาตรา 44 มาบังคับใช้ด้วยการยกเว้นการเก็บดอกเบี้ยและค่าปรับผิดนัดชำระ

โฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงขอบคุณ

สำนักข่าวไทย รายงานว่า ภราดร ปริศนานันทกุล โฆษกพรรคภูมิใจไทย พร้อม ส.ส.พรรคภูมิใจไทย แถลงขอบคุณ ส.ส.ที่ลงมติให้ เพราะยืนยันมาตลอดว่า มีจุดยืนเรื่องการพิจารณาพระราชบัญญัติ กยศ. ว่าคนเป็นหนี้ต้องใช้ดอกเบี้ย 0% เบี้ยปรับต้องไม่มี และต้องไม่มีผู้ค้ำประกัน ซึ่งพรรคเห็นถึงความสำคัญของกองทุนนี้ ส่วนที่หลายคนเป็นห่วงว่า หากไม่คิดอัตราดอกเบี้ยแล้วจะทำให้ผู้กู้เสียวินัยหรือไม่ หรือ กยศ.ต้องล้มไปในอนาคตหรือไม่ ยืนยันว่า กยศ.มีมูลค่า 4-5 แสนล้านบาท หากผู้บริหารสามารถจัดการกองทุนให้ดีก็สามารถทำให้ยืนหยัดต่อไปได้ และเชื่อว่าผู้ที่กู้ไม่มีใครต้องการเบี้ยวหนี้ หากมีกำลังชำระหนี้

'สาทิตย์' ห่วงถ้าไม่เก็บดอกเบี้ยจะไม่มีเงินหมุนเวียนกองทุน เป็นภาระประเทศ

สำนักข่าวไทย รายงานด้วยว่า สาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงการพิจารณาร่างพ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฏรค้างการพิจารณาอยู่ ว่า เมื่อต้นเดือนนี้ที่ประชุมสภาฯลงมติไม่เห็นด้วยกับคณะกรรมาธิการเสียงข้างมาก ที่กำหนดให้จัดเก็บดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 โดยเห็นด้วยกับเสียงข้างน้อย ซึ่งเสียงข้างน้อยมีความคิดเห็นแบ่งออกเป็น 3 แนวทาง คือ 1.ไม่เก็บดอกเบี้ย 2.ให้จัดเก็บดอกเบี้ยร้อยละ 1 และ3. อื่นๆ ดังนั้น วันนี้(14 ก.ย.) วิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้านต้องหารือกันถึงทางออกว่าจะเห็นด้วยกับแนวทางใด

“ในที่ประชุมของพรรคประชาธิปัตย์ได้พูดคุยกันเรื่องนี้และแสดงถึงความวิตกว่าหากถือเอาความถูกใจอย่างเดียว แต่ลืมไปว่ากยศ. คือกองทุนหมุนเวียน จึงจำเป็นต้องมีเงินหมุนเวียน เพื่อให้เด็กได้กู้ยืมต่อไปได้ ถ้ายกเลิกดอกเบี้ยไปแล้ว กองทุนนี้ก็จะไม่เป็นกองทุนหมุนเวียน ซึ่งจะเป็นปัญหามาก ดังนั้น จุดยืนของพรรคคือต้องให้กองทุนกยศ.เป็นกองทุนหมุนเวียนต่อไป ส่วนจะเก็บอัตราดอกเบี้ยจำนวนเท่าใดสามารถพูดคุยกันได้” สาทิตย์ กล่าว

ส่วนจะหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลถึงการชูนโยบายประชานิยม แต่สร้างภาระให้กับงบประมาณประเทศหรือไม่นั้น สาทิตย์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นความวิตกกังวลของทุกพรรคการเมืองที่ภาระงบประมาณของรัฐจะเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น การกำหนดนโยบายในลักษณะใช้จ่ายงบประมาณมากขึ้นก็จะเป็นภาระของประเทศ หากกองทุนกยศ.จะไม่ได้เป็นกองทุนหมุนเวียนอีกต่อไป จะเป็นเรื่องใหญ่ที่สุด เพราะจะกระทบถึงงบประมาณ

ส.ส.ประชาธิปัตย์ แนะ กยศ. ต้องปรับบทบาทการบริหารองค์กรให้เป็นหุ้นส่วนทางการศึกษา มากกว่าการทำหน้าที่แบบธนาคารพาณิชย์

ขณะที่ช่วงอภิปรายก่อนลงมตินั้น กนก วงษ์ตระหง่าน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายมาตรา 24 แห่ง ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(ฉบับที่..) พ.ศ. .... ว่า กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ต้องปรับการเปลี่ยนบทบาทหน้าที่ขององค์กรโดยต้องไม่บริหารงานแบบเดียวกับธนาคารเพราะนักศึกษาไม่ได้มีลักษณะเป็นลูกหนี้แบบธนาคารพาณิชย์ที่ต้องมีหลักเกณฑ์การกู้ยืมเงินมีหลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน มีการคิดอัตราดอกเบี้ย หากผิดชำระหนี้ก็ต้องเสียค่าปรับมีการฟ้องร้อง และตามมาด้วยการยึดทรัพย์ โดยที่ผ่านมากองทุน กยศ. มีแนวทางการบริหารงานแบบเดียวกับธนาคารพาณิชย์ทำให้ไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของการก่อตั้งกองทุนกยศ. ที่ต้องการส่งเสริมและให้คนยากจนหรือผู้มีรายได้น้อยได้มีโอกาสเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยแนวทางดังกล่าวจึงเป็นอุปสรรคที่ทำให้ไม่เกิดมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนนักเรียนนักศึกษาที่แท้จริงนอกจากนี้ กยศ. ยังมีปัญหาเรื่องความโปร่งใสในการบริหารงานที่ยังไม่มีการตรวจสอบอาทิ ค่าทนาย การปล่อยกู้ให้กับธนาคารเอกชนบางแห่ง

กนก กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนขอเสนอให้กองทุน กยศ. คิดมาตรการช่วยเหลือนักศึกษาเปรียบเสมือนเป็นหุ้นส่วนทางการศึกษา และความสำเร็จของนักศึกษาคือ การเรียนจบและมีงานทำ ไม่ใช่เงินหมุนเวียนของกองทุน กยศ. รวมทั้งต้องบริหารกองทุนบนหลักประกันความสำเร็จของนักศึกษาที่สามารถเรียนจบมีงานทำมีรายได้ และสามารถชำระเงินคืนกองทุนได้ หาก กองทุน กยศ. ปรับเปลี่ยนแนวคิดเป็นหุ้นส่วนในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์จะทำให้คิดหามาตรการช่วยเหลือผู้กู้ยืมเงินและผู้ค้ำประกันที่มากกว่าการลดอัตราดอกเบี้ย หรือการขยายเวลาการชำระเงิน ดังนั้น ขอย้ำว่า กองทุน กยศ. ต้องไม่วัดเอาความสำเร็จขององค์กรจากการปล่องวงเงินกู้เพื่อการศึกษาหรือการฟ้องร้องและยึดทรัพย์ เพราะจะเป็นอุปสรรคในการดำเนินงานขององค์กร และไม่เกิดการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยอย่างแท้จริง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท