Skip to main content
sharethis

'ปวิน' ล่าชื่อขอให้ออสเตรเลียปฏิเสธการเข้าประเทศของ 'เหรียญทอง' เหตุเป็นผู้นำขบวนการล่าแม่มด ทะลุ 1.3 หมื่นชื่อแล้ว พร้อมส่งจดหมายถึงสถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ด้าน 'เหรียญทอง' โพสต์ระบุมีคนไทยในออสเตรเลียส่งข้อความมาทุกช่องทางมีสาระต้อนรับด้วย

 

20 พ.ย.2565 จากเมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา มีรายงานข่าว่า ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ รองศาสตราจารย์แห่งศูนย์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต และผู้ลี้ภัยทางการเมืองตั้งแคมเปญรณรงค์ล่ารายชื่อในหัวข้อ "เรียกร้องให้ออสเตรเลียปฏิเสธการเข้าประเทศของพลตรีเหรียญทอง แน่นหนา" ทาง Change.org  โดยให้เหตุผลประกอบแคมเปญว่า พล.ต.นพ.เหรียญทอง ได้ประกาศที่จะไปใช้ชีวิตเกษียณที่เมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย ที่ผ่านมา เหรียญทองคือผู้นำขบวนการล่าแม่มดบุคคลต่างๆ ที่แสดงความเห็นเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ โดยใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มาตรา 112 เป็นเครื่องมือ นั้น

ล่าสุดวันนี้ (20 พ.ย.) พบว่า มีผู้สนับสนุนในแคมเปญ 13,669 รายชื่อแล้ว ขณะที่วานนี้ (19 พ.ย.) ปวิน โพสต์แจ้งผ่านเฟซบุ๊ก 'Pavin Chachavalpongpun' ว่า มาตรการกำจัด เหรียญทอง ยังมีต่อ ตนชั้นได้ส่งจดหมายถึงเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย (Angela Macdonald) ประจำกรุงเทพ และส่งไปยังสถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย เรียกร้องให้ออสเตรเลียปฏิเสธการเข้าเมืองของเหรียญทอง โดยมีองค์กรที่ร่วมลงนาม 1. 112WATCH 2. The Australian Alliance for Thai Democracy 3. Thai Rights Now (USA) 4. The Association of Thai Students in Europe for Liberal Democracy และ 5. Thai Democratic Movement in Canada

"นอกจากนี้ คนไทยในออสเตรเลียจะส่งจดหมายโดยตรงไปที่นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย กระทรวงต่างประเทศออสเตรเลีย และ Border Control ของออสเตรเลียด้วย ...Step ต่อไปคือการร่วมมือกับสื่อออสเตรเลีย โดยเฉพาะจากออสเตรเลียตะวันตก (ที่ตั้งเมือง Perth) ในการเสนอข่าวการย้ายถิ่นฐานไปออสเตรเลียของเหรียญทอง" ปวิน ระบุในโพสต์ดังกล่าว

ด้าน พล.ต.นพ.เหรียญทอง โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก 'เหรียญทอง แน่นหนา' เมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่า ตนขอขอบคุณคนไทยในออสเตรเลียที่ส่งข้อความมาทุกช่องทางมีสาระต้อนรับตน แต่ผมไม่ได้ชังชาติ ไม่ได้หนีคดี ลี้ภัย หรือผิดหวังเหมือนสามกีบจนต้องย้ายถิ่นฐานอพยพไปอยู่ที่ออสเตรเลีย

"แค่ไปพักผ่อนครั้งคราวที่บ้านพ่อที่เพิร์ธ ริมมหาสมุทรอินเตีย ครั้งละไม่เกิน 1 เดือนเท่านั้น ไปๆ มาๆ เท่านั้นแหละครับ ...หากผมหนีคดี ก็ออกหมายจับไปยังอินเตอร์โปลไปตามจับผมในเวลาใกล้พระอาทิตย์ตกทะเลแถวชายหาดย่านโอเชี่ยนรีฟนะครับ ผมชอบนั่งดูพระอาทิตย์ตัดขอบมหาสมุทรอินเดียครับ ใครจะต่อต้านเผด็จการผู้น่ารักอย่างผมก็เชิญปั่นกันไปเรื่อยๆ นะครับ ตลกในความโง่ เอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาปั่นสร้างข่าว สร้างประเด็นไร้สาระกันได้" พล.ต.นพ.เหรียญทอง โพสต์

สำหรับแคมเปญรณรงค์ล่ารายชื่อของ ปวิน เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา เฟซบุ๊ก "เหรียญทอง แน่นหนา" ของ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ และเคยเป็นประธานองค์กรเก็บขยะแผ่นดิน โพสต์ภาพครอบครัว พร้อมประกาศเตรียมย้ายประเทศไปใช้ชีวิตหลังเกษียณที่เมืองเพิร์ท ประเทศออสเตรเลีย

รายละเอียดที่ ปวิน ระบุเหตุผลประกอบแคมเปญไว้ว่า พล.ต.นพ.เหรียญทอง ได้ประกาศที่จะไปใช้ชีวิตเกษียณที่เมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย ที่ผ่านมา เหรียญทองคือผู้นำขบวนการล่าแม่มดบุคคลต่างๆ ที่แสดงความเห็นเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ โดยใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มาตรา 112 เป็นเครื่องมือ นอกจากนี้ เหรียญทองยังเป็นผู้นำจัดตั้งองค์กรเก็บขยะแผ่นดิน ที่ลดทอนความเป็นมนุษย์ของผู้เห็นต่าง ที่ผ่านมา เหรียญทองได้ใช้กลวิธีต่างๆ ในการกำจัดผู้เห็นต่างเหล่านั้น ตั้งแต่ใช้มาตรการทางาสังคมบีบบังคับ กดดันนายจ้างให้เลิกจ้างงานผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ และใช้มาตรา 112 ในการดำเนินคดีทางกฎหมาย เหยื่อเหล่านั้นคือเยาวชนจำนวนมาก

"ตัวอย่างเช่น ผมเพิ่งเขียนใบรับรองให้น้องคนหนึ่งที่โดนคดี 112 ที่ต้องหนีมาแคนาดา น้องไปเขียนคอมเม้นต์ในเพจหนึ่ง และเหรียญทองทำการล่าแม่มด ตั้งแต่ไปบีบบังคับให้บริษัทน้องไล่น้องออก น้องทำงานหลายบริษัท ถูกไล่ออกหมดเลย และยังส่งให้คนมาฟ้อง 112 จนต้องหนีมาแคนาดา ทำให้ชีวิตคนๆ หนึ่งต้องพัง แต่อย่างที่บอก นี่คือตัวอย่างเดียวเท่านั้น" ปวิน ระบุ

ปวิน ระบุในข้อเรียกร้องประกอบแคมเปญว่า ให้รัฐบาลออสเตรเลียพิจารณาการอนุญาตให้เหรียญทองเดินทางเข้าประเทศ เพราะการที่ออสเตรเลียยังอนุญาตให้เหรียญทองย้ายถิ่นฐาน เท่ากับเป็นการสนับสนุนพฤติกรรมของเหรียญทอง ออสเตรเลียมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมประชาธิปไตยและปกป้องสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 11 พ.ย. เหรียญทองยังกล่าวด้วยความเย้ยหยันว่า แม้ตัวเองเป็นเผด็จการ แต่ออสเตรเลียยังต้อนรับตนเอง จึงอยากขอความร่วมมือผู้รักประชาธิปไตยทุกคน ช่วยกันลงรายชื่อเพื่อส่งข้อความไปยังรัฐบาลออสเตรเลียเพื่อให้พิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net