อดีตผู้ว่าการรถไฟฯ ชี้เปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อแพงไป ตั้งปมประวิงเวลาหวังใช้วิธีประมูลแบบเฉพาะเจาะจงหรือไม่

‘ประภัสร์' อดีตผู้ว่าการรถไฟฯ ชี้เปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ 33 ล้านแพงไป เหตุไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่ - ไม่ต้องผลิตใหม่ทั้งหมด ตั้งข้อสังเกตเหตุใดประวิงเวลาเปลี่ยนป้าย ธ.ค.หวังใช้วิธีประมูลผู้ติดตั้งแบบเฉพาะเจาะจงหรือไม่

4 ธ.ค.2566 ทีมสื่อพรรคเพื่อไทย รายงานต่อสื่อมวลชนว่า ประภัสร์ จงสงวน สมาชิกพรรคเพื่อไทย และอดีตผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการ Wake up thailand วันนี้ (4 ธ.ค.66) ประเด็น “ 33 ล้านบาท เปลี่ยนชื่อป้ายสถานีกลางบางซื่อ แพงไปหรือไม่” โดย ประภัสร์ ระบุว่า ราคาการเปลี่ยนป้ายดังกล่าวอาจจะแพงเกินไป โดยเฉพาะค่าสถาปัตยกรรมถึง 24 ล้านบาท  ค่าทำตัวหนังสือแต่ละตัว แพงขนาดนั้นหรือ และสถานีนี้มีการติดตั้งป้ายมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อครั้งสร้างแล้วเสร็จ จึงเสนอแนะว่าควรให้ผู้รับเหมารายนั้นมาดูราคาการติดตั้งป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อป้ายแรก  ตกลงราคากันไว้เท่าไหร่  ซึ่งการติดตั้งป้ายแบบ Curtain Wall แบบป้ายสถานีกลางบางซื่อ  ไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่  ใช้การออกแบบติดตั้งผ่านคอมพิวเตอร์ได้ทั้งหมด เป็นการเพิ่มตัวอักษรจากชื่อเดิม เพราะคำว่า “สถานีกลาง” ไม่ต้องทำใหม่  ส่วนการติดตั้งไม่ยาก เป็นป้ายแบบเดียวกันกับป้ายสนามบินสุวรรณภูมิ ทั้งนี้ นายประภัสร์ ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า 

1. มีการ “พระราชทานชื่อ” มาตั้งแต่เดือนกันยายน 2565 หัวจดหมายระบุ “ด่วนที่สุด” ซึ่งโดยปกติด่วนที่สุด คือต้องดำเนินการไม่เกิน 1 สัปดาห์  แต่เหตุใดจึงมีการเร่งดำเนินการในเดือนธันวาคม 2565 ผ่านวิธีการประมูลแบบ  “เฉพาะเจาะจง” ในเดือนธันวาคม ซึ่งวิธีการนี้เพิ่งมีขึ้นหลังการรัฐประหาร  2557  โดยรัฐสามารถเลือกได้ว่าจะว้าจ้างบริษัท โดยไม่มีคู่แข่งในการประมูล 

2. การชี้แจงของการรถไฟแห่งประเทศไทยในยุคปัจจุบัน เป็นการชี้แจงที่ผิดปกติหรือไม่  เพราะไม่มีผู้รับผิดชอบโดยตรงด้านการก่อสร้างออกมาชี้แจง  หากตนยังเป็นผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย สิ่งแรกที่จะดำเนินการคือ  ตนพร้อมผู้รับผิดชอบโครงการจะออกมาชี้แจงผ่านสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการ  และเปิดเอกสารค่าใช้จ่ายต่อสาธารณชน เพื่อคลายข้อสงสัยของสังคม 

สำหรับสถานีกลางบางซื่อ มีการอนุมัติการก่อสร้างในปี 2553 และเซ็นต์สัญญาก่อสร้างในปี 2556 ในรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม  ส่วนนายประภัสร์ เป็นผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ถูกออกแบบให้เป็นสถานีรถไฟครบวงจร ทั้งรถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่  รถไฟชานเมือง  ในขณะนั้นถูกปรับแบบการก่อสร้างครั้งใหญ่  เพื่อรองรับรถไฟความเร็วสูง ทั้งการปรับแบบทางวิ่งช่วงบางซื่อ-รังสิต จาก 3 เป็น 4 ทาง เพื่อให้รถไฟทางไกลสามารถวิ่งสวนกันได้โดยไม่ต้องจอดหลีก และเนื่องจากสถานีกลางบางซื่อเป็นสถานีรถไฟขนาดใหญ่  ต้องใช้กระแสไฟฟ้าในปริมาณมาก จึงวางแผนให้มีการติดตั้งโซลาร์เซล เพื่อให้จ่ายค่าไฟฟ้าน้อยที่สุด  สามารถประหยัดงบประมาณได้ในระยะยาว และสามารถขายกระแสไฟฟ้าได้  จะทำให้การรถไฟแห่งประเทศไทยได้กำไรมาใช้หนี้ได้อีกด้วย แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไป นับตั้งแต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในขณะนั้นยึดอำนาจ

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท